เมื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” วิจารณ์กระทรวงมหาดไทยว่า “ทำงานไม่เต็มที่” พร้อมระบุว่า “เหลืออีก 2 ปีจะเลือกตั้ง ต้องให้เพื่อไทยเข้าไปทำบ้าง” — นี่ไม่ใช่แค่คำตัดพ้อธรรมดา แต่คือ สัญญาณรุกหนัก เพื่อวางหมากยึดกระทรวงยุทธศาสตร์กลับคืนจากพรรคภูมิใจไทยให้ทันก่อนเลือกตั้งใหญ่ปี 2569
นั่นหมายถึงการเปิดฉาก “เกมเปลี่ยนสมดุลใน ครม.” ที่ไม่แน่ว่าจะจบแค่การปรับกระทรวง แต่อาจถึงขั้น แตกหัก–เขี่ยพรรคภูมิใจไทยออก ถ้าหาก “ครูใหญ่เนวิน” ไม่ยอมคายมหาดไทย
⸻
ยึดมหาดไทย = ยึดอำนาจพื้นที่
ต้องยอมรับความจริงว่า กระทรวงมหาดไทยคือ “เครื่องมือเลือกตั้งชั้นยอด” ของทุกพรรคการเมือง — เพราะคุมทั้งผู้ว่าฯ ข้าราชการอำเภอ เทศบาล อบต. การตั้งงบ และเครือข่ายทางการเมืองระดับรากหญ้า
เมื่อทักษิณพูดประโยค “ต้องให้เพื่อไทยเข้าไปทำบ้าง” ก็เท่ากับกำลังประกาศกลางวงว่า ของสำคัญต้องเอาคืน! และหากตีความตามบริบทการเมืองปัจจุบัน นี่คือการบีบภูมิใจไทยโดยตรงให้ เลือกข้าง: อยู่ต่อแต่ยอมเสียของ หรือโดนเขี่ยออกทั้งพรรค
⸻
นายกฯ เงียบ = ภาพหุ่นเชิดชัดขึ้น
ในขณะที่พ่อออกหมากเปิดเกมชัดเจน “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ตามกฎหมาย กลับเงียบสนิท ไม่ตอบคำถามสื่อ ไม่แสดงจุดยืนใด ๆ เกี่ยวกับคำพูดของทักษิณ
ความเงียบนี้จึงยิ่งขับเน้นเสียงวิจารณ์เดิมว่าเธอไม่ใช่นายกรัฐมนตรีที่แท้จริง แต่เป็น หุ่นเชิดของพ่อ ซึ่งยิ่งนานวันยิ่งชัดเจนว่าใครเป็นคนกำหนดทิศทางรัฐบาลนี้
⸻
พลังดูดระดับไดโว่ รอรองรับ “รัฐบาลไร้ภูมิใจไทย”
อย่าคิดว่าการเขี่ยภูมิใจไทยออกจาก ครม. เป็นแค่การขู่
เพราะขณะนี้มีการวาง “พิมพ์เขียวสำรอง” ไว้แล้ว — รัฐบาล 318 เสียง หากหัก 69 ส.ส.ของภูมิใจไทยออก ยังเหลือ 249 เสียง ซึ่งแม้จะปริ่มน้ำ แต่ก็ไม่เปลือย เพราะ:
• “ผู้กองธรรมนัส” โชว์พลังดูดลุยพรรคพลังประชารัฐ หวังดูดมาทั้งกลุ่ม-ทั้งพรรค
• “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ก็ไม่อ้อมค้อม วางสายตรงไปที่ ส.ส.ภูมิใจไทย เรียกว่าตกปลาในบ่อสีน้ำเงิน แบบไม่เกรงใจ “ครูใหญ่เนวิน”
ส่วนบ่อส้มอย่างพรรคประชาชน–ก็มีคำยืนยันจากหัวหน้าพรรคกล้าธรรม มีนับสิบซุ่มรอจังหวะกระโดดข้ามฝั่ง
เกมนี้จึงไม่ใช่แค่ “แย่งกระทรวง” แต่คือ รีเซ็ตพันธมิตรใหม่ทั้งรัฐบาล เพื่อวางฐานสู่การเลือกตั้งในอีกสองปีข้างหน้า
ท่ามกลางความเปราะบางทางการเมือง ที่ทักษิณยังเผชิญความไม่แน่นอนทางคดีปมชั้น 14 ดังนั้นหมากของทักษิณ ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสถูกตลบหลัง
⸻
ใครกำหนดสมดุลใหม่?
เมื่อทักษิณท้าทาย…คิดหรือว่าภูมิใจไทยจะนิ่งเฉย
เพราะมีเงื่อนไขที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนเกมอย่างชอบธรรม
หากผลทางคดีของทักษิณออกมาเป็นลบ ต้องเดินคอตกเข้าคุกอีกครั้ง
การกุมสภาพทางการเมืองย่อมเหมือนเรือขาดหางเสือ
ถึงวันนั้น…อย่าว่าแต่จะดูดสส.จากพรรคอื่นเลย
พรรคเพื่อไทยก็อาจถึงคราว “ผึ้งแตกรัง”
นับจากนี้จึงเป็นช่วงเวลาจับจังหวะ…ใครเรดาห์ดีชิงเดินเกมก่อน
คนนั้นก็คือผู้กำหนดสมดุลใหม่ของอำนาจ…และอาจไม่ใช่ “ทักษิณ” ก็ได้