ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อไทยกับภูมิใจไทยคือความร่วมมือเชิงแข่งขัน พร้อมเหยียบฝ่ายตรงข้ามเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง”—รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผอ.หลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา นิด้า
เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ในรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร”
——
เกมมหาดไทย: รุก–ถอย อยู่ที่ใครได้เปรียบ
ในขณะที่มรสุมการเมืองโหมกระหน่ำไม่หยุด พรรคเพื่อไทยเปิดเกมใหม่ เขย่าเก้าอี้ มท.1 ของพรรคร่วมอย่างภูมิใจไทย เป้าหมายคือทวงคืนกระทรวงมหาดไทยด้วยตัวของทักษิณ ชินวัตร — เกมนี้ไม่ใช่แค่เรื่อง “เก้าอี้” แต่คือเดิมพันเชิงยุทธศาสตร์ก่อนเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า
“ภูมิใจไทยคงยอมถอยเพื่อยังอยู่ในอำนาจต่อ
แต่ถ้าทักษิณเอามหาดไทยคืนไม่สำเร็จก็จะเสียรังวัด และเสียการนำในทางการเมือง”
— รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต
เพื่อไทยรุกฆาตก่อนเลือกตั้ง – หยุดภูมิใจไทยขยายฐานเขต
อาจารย์พิชายชี้ว่า การเดินเกมคราวนี้มีเป้าหมายชัดเจนคือ เพื่อไทยต้องการรุกคืบและกระชับอำนาจในฐานะแกนนำรัฐบาล พร้อมกับไม่เปิดโอกาสให้ภูมิใจไทยใช้มหาดไทยเป็น “เครื่องมือ” สร้างฐานคะแนนในระดับเขต ซึ่งอาจกลายเป็นพรรคลำดับที่สองแทนเพื่อไทยได้ หากภูมิใจไทยยอมแลกมหาดไทยกับกระทรวงพาณิชย์และดิจิทัล ก็อาจยังอยู่ในเกมอำนาจได้ แม้ต้องถอยในจังหวะนี้ ทว่าเกมยังไม่จบ เพราะภูมิใจไทยยังถือ “ไพ่ ส.ว.” ที่สามารถพลิกดุลอำนาจในองค์กรอิสระได้ เรียกว่ามีจังหวะเอาคืน
สงครามตัวแทน – ผลัดกันรุกคืบในรัฐสภา
ความขัดแย้งอาจไม่ถึงขั้นแตกหัก แต่จะเข้มข้นขึ้นอย่างเป็นระบบ เห็นการซัดกันเป็นระยะ เช่น เพื่อไทยเริ่มเปิดเกมสอบสวนคดีฮั้ว ส.ว. ส่วนภูมิใจไทยก็เดินเกมเร่งตั้งกรรมการองค์กรอิสระ โดยเฉพาะ ป.ป.ช. และ กกต. เช่นที่เห็นชัดในการประชุมวุฒิสภาช่วงปลายเดือนพฤษภาคม
“ความสัมพันธ์ของสองพรรคนี้คือ ‘ความร่วมมือเชิงแข่งขัน’
พร้อมเหยียบฝ่ายตรงข้ามเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง”
ไพ่สุดท้ายยังอยู่ที่ ส.ว. – ยืดศึกไปจนยุบสภา
อาจารย์พิชายประเมินว่า ความขัดแย้งนี้อาจลากยาวไปจนถึงการยุบสภา แม้ ส.ว. จะมีอำนาจส่งศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนนายกรัฐมนตรีได้ แต่ยังไม่ใช่จังหวะที่จะใช้ไพ่ใบนี้ เพราะถ้าเล่น หมายถึงแตกหักถาวร ซึ่งไม่มีฝ่ายใดอยากให้ถึงจุดนั้นในตอนนี้
เนวินเงียบ–ทักษิณพูดดัง: ผู้นำเบื้องหลังกับภาพลักษณ์ที่ต่างกัน
อาจารย์พิชายยังชวนจับตาผู้นำตัวจริงของแต่ละพรรค — เนวินกับทักษิณ
“เนวินไม่พูด อนุทินออกหน้าแต่ทักษิณออกมาพูดบ่อย จนกลายเป็นว่าคนมีอำนาจไร้ตำแหน่ง แต่คนมีตำแหน่งกลับไร้อำนาจ”
ความเคลื่อนไหวของทักษิณอาจสร้างแรงกดดันให้ลูกสาวอย่างแพทองธารโดยไม่ตั้งใจ เพราะแม้จะเป็นนายกฯ แต่กลับต้องตกอยู่ใต้เงาการเมืองของพ่อ ทำได้แค่บ่นว่า “พ่อหาเรื่องอีกแล้ว”
เขี่ยภูมิใจไทยไม่ง่าย–พรรคพลังประชารัฐก็ยังแทนที่ไม่ได้
อาจารย์พิชายวิเคราะห์ต่อว่า พรรคเพื่อไทยยังต้องการผลักดันนโยบายที่ต้องอาศัยเสียงของภูมิใจไทย เช่น เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (ที่มีกาสิNO) ซึ่งจะเข้าสู่สภาในเดือนกรกฎาคม แม้พรรคพลังประชารัฐอาจถูกใช้เป็น “อะไหล่” ทดแทน แต่ก็ไม่เพียงพอในแง่ของจำนวนเสียง
ขณะเดียวกัน ภูมิใจไทยเองก็พยายามสร้างราคาต่อรองด้วยการ “ทำท่า” ว่าอาจจับมือกับพรรคประชาชน แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว เพราะพรรคประชาชนประกาศชัดว่า “จะไม่ร่วมรัฐบาลภายในวาระของสภาฯ ชุดนี้”
กระทรวงมหาดไทย: ฐานสำคัญสนามเลือกตั้ง
“พรรคการเมืองเหล่านี้เวลาพูดถึงตำแหน่งก็อ้างว่าเพื่อแก้ปัญหาประชาชน
แต่ที่สุดก็คือเรื่องผลประโยชน์”
อาจารย์พิชายทิ้งท้ายว่า แก่นแท้ของความขัดแย้งนี้อยู่ที่ผลประโยชน์ทางการเมือง — นอกจากเพื่อไทยต้องการกระทรวงมหาดไทยเป็นฐานการเมืองแล้วยังต้องการใช้ทำนโยบายปราบยาเสพติดเพื่อเป็น “จุดขายใหม่” แทนนโยบายเศรษฐกิจที่ยังล้มเหลว ชิงฐานคะแนนกลับคืนมาให้ได้ทันก่อนเลือกตั้ง โดยเชื่อว่าการปรับครม.อาจจะเกิดขึ้นพร้อมการต่อรองอย่างเข้มข้นในเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนคดีชั้น 14 ของทักษิณ ก็จะเป็นตัวแปรสำคัญ หากออกมาเป็นลบอาจทำให้พรรคเพื่อไทยแตก สส.อาจไปหาพรรคใหม่สังกัดได้
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #เที่ยงเปรี้ยงปร้าง #รัฐบาลแพทองธาร #กระดานอำนาจ #แพทองธาร #แพทองธารชินวัตร #ทักษิณ #ทักษิณชินวัตร #พรรคภูมิใจไทย #พิชาย