“ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น แพทองธารดันทุรังถึงที่สุดเหมือนพ่อ ไม่ปลดล็อก ไม่ลาออก เกิดอะไรขึ้นอย่าโทษนิติสงคราม”
— เทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์
เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ในรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร”
⸻
การเมืองไทยในห้วงชะงักงันทางอำนาจ ยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อ แพทองธาร ชินวัตร เดินเกมต่อด้วยการควบเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ แม้จะถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
เทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ มองว่าพฤติกรรมนี้สะท้อนสไตล์ “ดันทุรังจนถึงที่สุด” ที่สืบทอดมาจาก ทักษิณ ชินวัตร อย่างชัดเจน
“ถ้าเกิดอะไรขึ้น อย่ามาอ้างว่านิติสงคราม เพราะมีคนทักท้วงแล้วว่าเรื่องนี้ต้องรอบคอบมากกว่านี้ แต่ก็ยังไม่ฟัง”
⸻
เล่นตามแบบ “ประยุทธ์”? เทพไทชี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง
เทพไทชี้ว่า แพทองธารพยายามนำกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยควบเก้าอี้ รมว.กลาโหม ก่อนศาลมีคำวินิจฉัยเรื่องวาระ 8 ปี มาใช้เป็นแนวทาง แต่ลืมไปว่าสถานการณ์ต่างกัน
“กรณีพล.อ.ประยุทธ์ เหตุเกิดก่อนคำร้อง แต่แพทองธารเร่งยื่นรายชื่อ ครม. ‘อิ๊งค์ 2’ ทั้งที่รู้ว่าศาลอาจมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ นี่คือการแก้ปัญหาแบบศรีธนนชัย รู้ว่าผิดแต่พยายามตีความให้รอด เจตนามันชัดว่าต้องการเลี่ยงผลทางกฎหมาย ไม่ใช่รับผิดชอบแบบนักการเมืองที่มีสำนึก“
⸻
ทีมกฎหมายเพื่อไทย “ลุกลี้ลุกลน” พลาดซ้ำซ้อน
เขายกตัวอย่างความลุกลี้ลุกลนของทีมกฎหมายเพื่อไทย เช่นกรณีมีการให้นายกฯ ทูลเกล้าฯ ให้ภูมิธรรม เวชยชัย พ้นตำแหน่งรองนายกฯ ไปด้วย ทั้งที่เดิมจะปรับเฉพาะจาก รมว.กลาโหมไปมหาดไทย
“ปรากฏว่าไม่มีรองนายกฯ ลำดับที่ 1 ตามพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ครม.ครั้งแรกอีกต่อไป เพราะภูมิธรรมพ้นตำแหน่งไปแล้ว จะเอามติ ครม.ไปตั้งลำดับใหม่ก็ไม่ได้ มันไม่ใช่เรื่องมอบหมายงานธรรมดา”
เทพไทเตือนว่า หากต่อไป ภูมิธรรม ต้องกลับมาทำหน้าที่รักษาการแทนนายกฯ ก็จะกลายเป็นปัญหาข้อกฎหมายอีกครั้ง เพราะ รองนายกฯ ลำดับที่ 1 ต้องโปรดเกล้าฯ เท่านั้น ไม่ใช่ตั้งกันเองใน ครม.
“ถามว่ามติ ครม. จะใหญ่กว่าพระบรมราชโองการฯ ได้หรือ? ผมว่าไม่ใช่แค่ผิดพลาดนะ แต่เป็นการวางหมากมั่วแบบลิงแก้แห”
⸻
ไม่ลาออก ไม่ปลดล็อก แต่จะโทษศาล?
เทพไทกล่าวชัดว่า แพทองธารมีหลายจังหวะที่จะใช้ความกล้าทางการเมือง “ลาออก” เพื่อปลดล็อกประเทศ แต่กลับไม่ทำ แม้ตอนศาลฯ มีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ยังเดินหน้าเสนอตัวเองเป็น รมว.วัฒนธรรม
“ถ้าคิดจะเป็นนักการเมืองที่รับผิดชอบต่อสังคม ต้องกล้าลาออกตั้งแต่ยอมรับว่าเสียงในคลิปคือเสียงตัวเองแล้ว ไม่ใช่ดิ้นจนติดกับดักตัวเองแบบนี้”
เขามองว่าสุดท้ายแล้ว แพทองธารอาจกำลังวางเกมให้ไปถึงจุดที่ “ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง” เพื่อจะได้อ้างว่าถูกกลั่นแกล้งหรือถูกศาลฯ ใช้กฎหมายเล่นงาน เหมือนที่ทักษิณเคยทำ
⸻
นิติสงครามคือข้ออ้าง ไม่ใช่ข้อเท็จจริง
“คำว่านิติสงครามอาจถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นโล่ทางวาทกรรม แต่ความจริงคือศาลใช้หลักฐานและกฎหมายตัดสิน ไม่ใช่การเล่นงานทางการเมือง”
เทพไทวิเคราะห์ต่อไปว่า ความเงียบผิดปกติของทักษิณในช่วงนี้ อาจเป็นสัญญาณของการ เจ็บจนไม่กล้าขยับ หรือกำลัง ล็อบบี้ทางลึก ในแบบที่เขาเคยทำ
“ชั้น 14 ก็เพราะไม่ยอมติดคุก, มาตรา 112 ก็เพราะพฤติกรรมตัวเอง, คลิปเสียงก็เป็นของแพทองธารทั้งนั้น เป็นคำพูดของคุณที่ทำให้ประเทศเสียหาย ต้องยอมรับก่อนว่าเป็นความโง่ บกพร่อง หรือไร้เดียงสาของคุณเองจึงทำให้เกิดปัญหาแบบนี้”
⸻
“ใกล้วาระสุดท้ายทางการเมืองของพ่อลูกคู่นี้”
เทพไททิ้งท้ายอย่างไม่อ้อมค้อมว่า เมื่อดูจากลำดับเหตุการณ์และหลักฐานทุกด้าน ก็อาจถึงเวลาที่ “พ่อลูกชินวัตร” ใกล้ปิดฉากทางการเมือง
“ถ้าจะวิเคราะห์ว่าอยู่ในวาระสุดท้ายทางการเมืองของพ่อลูกคู่นี้ก็มองเช่นนั้นได้ ตามหลักพุทธศาสนา ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องของกรรม”
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #สำนึกผู้นำ #ควบเก้าอี้รมววัฒนธรรม #หยุดปฏิบัติหน้าที่นายก #เทพไทเสนพงศ์ #ครมแพทองธาร2 #รัฐบาลแพทองธาร #ทักษิณชินวัตร #นิติสงคราม #ชั้น14 #ม112