ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาเพิกถอนประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องใบสั่งจราจร ชี้ขัดรัฐธรรมนูญ แต่ให้เวลา 180 วันเพื่อแก้ไข ก่อนมีผลบังคับใช้
ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาในคดีที่ นางสุภา โชติงาม ยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีออกประกาศเกี่ยวกับใบสั่งจราจรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยศาลปกครองชั้นต้นได้พิพากษาให้เพิกถอนประกาศดังกล่าว
ศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาแล้วเห็นว่า แม้ พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 จะให้อำนาจสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการกำหนดแบบใบสั่ง แต่การดำเนินการกับผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรนั้นต้องอยู่ภายใต้มาตรา 29 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องหาในคดีอาญา
ศาลเห็นว่า การที่แบบใบสั่งไม่มีข้อความแจ้งสิทธิในการปฏิเสธหรืออุทธรณ์โต้แย้งความผิด เป็นการละเมิดสิทธิที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ ดังนั้น ประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง กำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร พ.ศ. 2563 จึงขัดต่อรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ ศาลยังเห็นว่า การกำหนดค่าปรับไว้ล่วงหน้าในอัตราคงที่ เป็นการจำกัดดุลพินิจของเจ้าพนักงานจราจรในการพิจารณาความเหมาะสมของค่าปรับในแต่ละกรณี จึงขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ศาลปกครองสูงสุดไม่ได้สั่งให้เพิกถอนประกาศทั้งสองฉบับในทันที แต่ให้เวลา 180 วัน นับจากวันที่มีคำพิพากษา เพื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติไปดำเนินการแก้ไขประกาศดังกล่าวให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ผลจากคำสั่งศาลปกครองจะเป็นอย่างไร:
- ในช่วง 180 วันนี้
- ประชาชนที่ได้รับใบสั่งจราจรยังคงต้องปฏิบัติตามกฎหมายจราจร และชำระค่าปรับตามใบสั่งเดิมไปก่อน
- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะต้องดำเนินการแก้ไขประกาศเกี่ยวกับใบสั่งจราจรให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด โดยเฉพาะในส่วนของการแจ้งสิทธิการปฏิเสธหรืออุทธรณ์ และการให้เจ้าพนักงานจราจรใช้ดุลพินิจในการกำหนดค่าปรับ
- หลังจาก 180 วัน
- หากสำนักงานตำรวจแห่งชาติแก้ไขประกาศเรียบร้อยแล้ว จะมีการใช้ใบสั่งรูปแบบใหม่ ที่เป็นไปตามกฎหมาย
- หากสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ดำเนินการแก้ไขประกาศภายใน 180 วัน ประกาศฉบับเดิมจะถูกเพิกถอน และไม่มีผลบังคับใช้