เมื่อสถานพยาบาลที่ควรเป็นที่พึ่งของประชาชน กลับกลายเป็นแหล่งโกงยาขนาดใหญ่ ขบวนการทุจริตที่ดำเนินมานานกว่า 10 ปี จากปรากฏการณ์โกงเป็นขบวนการ ขนยากันเป็นกระสอบที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ไม่เพียงแต่สูบเงินงบประมาณ แต่ยังทำลายความน่าเชื่อถือของระบบสาธารณสุขไทยอย่างรุนแรง
ผู้ร่วมขบวนการโกง มีทั้งผู้ป่วย ประชาชนที่ปลอม “ป่วย” ข้าราชการทหารระดับสูง และบุคลากรทางการแพทย์ รวมแล้วหลายร้อยคน มูลค่าความเสียหาย แม้ยังไม่สามารถประเมินได้ชัดเจนในขณะนี้ แต่คาดว่ามหาศาลเพราะทำต่อเนื่องมากว่า 10 ปีแล้ว และมีการเปิดข้อมูลเพิ่มว่า อาจไม่ใช่แค่โรงพยาบาลทหารผ่านศึก แต่อาจลามไปถึงโรงพยาบาลภูมิพลด้วย
งบประมาณจัดซื้อยาของโรงพยาบาลทหารผ่านศึกย้อนหลัง 7 ปี
ข้อมูลจาก “สำนักพัฒนารัฐบาลดิจิทัล” เปิดเผยว่า ปีงบประมาณ 2560-2567 มีโครงการจัดซื้อยา 13,668 โครงการ วงเงินงบประมาณรวม 1,606 ล้านบาท งบประมาณการซื้อยาในบางปีที่ระบุได้ชัดเจน ปี 2565 – 298 ล้านบาทปี 2563 – 251 ล้านบาท และ ปี 2566 – 241.1 ล้านบาท ในจำนวนนี้ มีโครงการจัดซื้อที่ไม่ระบุประเภทและชนิดของยา มากถึง 4,142 โครงการ คิดเป็นงบประมาณกว่า 375 ล้านบาท จากงบประมาณที่เห็นหากรั่วไหลไปเพียงแค่ 5 % ในแต่ละปีก็เป็นเงินมหาศาลแล้ว
กลโกงที่ถูกเปิดโปง พบว่าวางแผนกันมาอย่างดี แบ่งทีมเป็นระบบ 6 ทีม ทีมละ 60-70 คน รวมกว่า 600 คน วิธีการคือ นำ “ผู้ป่วย” ไปรับยาเกินความจำเป็น ก่อนนำยาไปขายในตลาดมืด ให้ค่าตอบแทนคนที่ปลอมเป็นผู้ป่วยหรืออาจป่วยจริง ครั้งละ 2,000-3,000 บาท แต่คนกำกับบทได้เงินจำนวนมากจากการเบียดบังภาษีประชาชน
บทเรียนที่สังคมควรเรียนรู้
ความยากจนไม่ใช่ข้ออ้างในการทุจริต หลายคนอาจบอกว่าคนที่เข้าร่วมขบวนการเหล่านี้ “จำเป็นต้องทำ” เพราะความจน แต่ต้องถามกลับว่า “แล้วคนที่ไม่มีจะกินแต่ยังสุจริตล่ะ?”
การทุจริตในระบบสาธารณสุข คือ ความเสียหายที่กระทบทุกคน ทุกงบประมาณที่ถูกโกงไป หมายถึงคนป่วยจริงอาจต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนยา เงินที่รั่วไหลไปอาจกระทบกับระบบสาธารณสุขในระยะยาวซึ่งมีปัญหางบประมาณไม่เพียงพออยู่แล้ว สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการคือรีบอุดช่องโหว่ก่อนที่ระบบจะล่มสลาย
ถ้าโรงพยาบาลรัฐยังปล่อยให้มีการโกงในระดับนี้ คนไทยจะเหลืออะไรให้พึ่งพาอีก?
แนวทางอุดช่องโหว่โรงพยาบาล – จัดการโกงยาให้หมดสิ้น!
เราอาจใช้ AI ตรวจสอบการเบิกจ่ายยา เอาระบบดิจิทัลต้องเข้ามาแทนที่การตรวจสอบแบบคน ทุกใบสั่งยาต้องสามารถเช็กย้อนหลังได้,ตั้งระบบแจ้งเตือนเมื่อพบการเบิกยาผิดปกติ ถ้าคนไข้คนเดียวกันเบิกยาซ้ำซ้อน ต้องแจ้งเตือนอัตโนมัติ!, ตั้งหน่วยงานตรวจสอบอิสระ ควบคุมการจัดซื้อยาไม่ปล่อยให้โรงพยาบาลตรวจสอบตัวเอง เพราะแบบนี้แหละถึงโกงกันง่าย
โกงจนชินมือ กินจนเคยปาก… ถ้าสังคมนี้ยังยอมได้ ก็คงถึงเวลาล่มสลาย!”
ถ้าเราปล่อยให้การโกงยาเป็น “เรื่องปกติ” วันหนึ่งอาจไม่มีงบเหลือให้รักษาคนป่วยจริงๆ
ถ้าเราเพิกเฉยกับขบวนการโกง คนที่เดือดร้อนที่สุดไม่ใช่คนที่โกง แต่คือ ประชาชนที่ต้องใช้บริการโรงพยาบาลรัฐ
ถ้าความชั่วกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ของสังคม เราอาจไม่ต้องรอให้ใครมาทำลายชาติ เพราะเรากำลังทำลายมันด้วยมือของเราเอง!
#โกงยา #โรงพยาบาลทหารผ่านศึก #โกงกันเป็นระบบ #อย่าปล่อยให้โกงเป็นเรื่องปกติ #รื้อระบบทุจริต #สำนักพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม