ที่ประชุมวุฒิสภามีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) หรือที่สังคมรู้จักในชื่อ “กาสิโนถูกกฎหมาย” จำนวน 35 คน แบ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 23 คน และบุคคลภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ อีก 12 คน
การอภิปรายในที่ประชุมใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงเต็ม ตั้งแต่ช่วงค่ำจนเกือบเที่ยงคืน สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนไหวของประเด็นนี้ในสังคมไทย
สำหรับคณะกรรมาธิการชุดนี้มีชื่อบุคคลที่น่าจับตาหลายคน ทั้งจากฝ่ายนิติบัญญัติ นักวิชาการ อดีตผู้พิพากษา นักเศรษฐศาสตร์ ไปจนถึงอดีตข้าราชการระดับสูง โดยจะมีกรอบเวลาศึกษาเรื่องนี้ภายใน 180 วัน ก่อนส่งข้อเสนอแนะต่อไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รายชื่อคณะกรรมาธิการ: ผสม ส.ว. – ผู้เชี่ยวชาญ
ในฝั่งสมาชิกวุฒิสภา 23 คน มีทั้งผู้เสนอญัตติและอดีตข้าราชการระดับสูง ขณะที่ในฝั่งผู้เชี่ยวชาญภายนอก 12 คน ก็มีบุคคลชื่อดังอย่าง นายแก้วสรร อติโพธิ, ศ.วุฒิสาร ตันไชย, รศ.ดร. เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และศ.พิเศษ จรัญ ภักดีธนากุล และนายคำนูณ สิทธิสมาน ร่วมด้วย
ที่มาของญัตติและข้อถกเถียงในสภา
ญัตติหลักที่นำมาสู่การตั้ง กมธ. วิสามัญครั้งนี้ มาจากนายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม ส.ว. ที่เสนอให้มีการศึกษาการเปิด “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” โดยเขาระบุว่าเสนอญัตตินี้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว และใช้เวลาร่วม 8 เดือนจึงได้รับการพิจารณา โดยคาดว่ารัฐบาลเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรในไม่ช้านี้
ด้านนายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย ส.ว.อีกคนที่เสนอญัตติร่วม ชี้ว่าแม้รัฐบาลจะเลื่อนการพิจารณาร่างกฎหมายออกไป แต่ก็ยังไม่ถอนเรื่อง จึงจำเป็นที่วุฒิสภาจะต้องศึกษาอย่างรอบด้าน พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตอย่างเผ็ดร้อนว่า “เมื่อใดที่รัฐบาลพูดถึงการเปิดบ่อน แปลว่ารัฐบาลกำลังจนตรอก”
ขณะที่ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส ส.ว. เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา โดยแสดงความห่วงใยต่อความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในสังคม พร้อมเปรียบเทียบว่าเรื่องนี้เริ่มมีลักษณะคล้ายกับกรณีนิรโทษกรรมสุดซอย โดยเตือนว่าความขัดแย้งเชิงศีลธรรมอาจบานปลายหากไม่ดำเนินการอย่างรอบคอบ
“สมชาย แสวงการ” จี้ ส.ว.แสดงจุดยืนให้ชัด
ล่าสุด วันที่ 9 เมษายน นายสมชาย แสวงการ อดีต ส.ว. ออกมาแสดงความเห็นอย่างเผ็ดร้อน โดยเรียกร้องให้วุฒิสภาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า “จะเอาหรือไม่เอา” กาสิโนภายใต้เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
“การตั้ง กมธ. คือการแทงกั๊ก ถ้าไม่เห็นด้วยจริง ต้องไม่ตั้ง กมธ. เพราะการศึกษาคือขั้นตอนเริ่มต้นของการสนับสนุน ผมอยู่ในสภามานาน การตั้ง กมธ. เพื่อศึกษาอะไรก็ตาม มักกลายเป็นการเปิดทางให้ฝ่ายการเมืองเดินหน้าต่อ” นายสมชายกล่าว พร้อมระบุว่ารัฐบาลเองก็ไม่ควรเก็บร่าง พ.ร.บ. ไว้ในวาระเพื่อต่อรองหรือรอจังหวะลงมติในยามเผลอ