“ไล่เช็กบิลไลน์หมอหลุด ผิดจริยธรรมจริงหรือ? หรือเป็นเรื่องนายว่าขี้ข้าพลอย? มันไม่ใช่จริยธรรมแต่เป็นการไล่ล่าทางการเมือง“—รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการด้านกฎหมาย
เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ในรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง”
ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร”
⸻
แค่แสดงความเห็นในไลน์…ผิดจริยธรรมได้หรือ?
กรณี สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เดินเกม “เช็กบิล” แพทย์ 3 รายที่แสดงความเห็นในกลุ่มไลน์เกี่ยวกับ ทักษิณ ชินวัตร จนถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าขาดจริยธรรม กลายเป็นประเด็นร้อนที่ไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง หากแต่สะเทือนไปถึงเสรีภาพในการแสดงความเห็นส่วนตัวในสังคมไทย
รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการด้านกฎหมาย อธิบายว่า สังคมต้องแยกให้ออกระหว่าง “การแสดงความเห็น” กับ “การปฏิบัติหน้าที่” เพราะกรอบจริยธรรมยึดโยงกับผลกระทบต่อการดูแลผู้ป่วย ไม่ใช่ความเห็นในพื้นที่ปิด
“หมอคนหนึ่งอาจเกลียดนักการเมือง…แต่พอถึงเวลาต้องพิจารณาว่าหมออีกคนรักษาถูกต้องไหม จะกระทบการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่? มีหลักฐานอะไรมายืนยัน ในไลน์กลุ่มผมว่ามีคนไม่ต่ำกว่าล้านด่าทักษิณแพทองธาร ถามว่าแบบนี้ไม่มีจริยธรรมหรือ เสรีภาพในการแสดงความเห็นกำลังถูกละเมิด”
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เตือนทุกคนให้ระมัดระวังการแสดงความเห็นผ่านไลน์กลุ่มที่มีสมาชิกจำนวนมาก เพราะไม่สามารถไว้วางใจใครได้ อาจมีการนำมาเปิดเผยเพื่อขยายผลในทางลบเหมือนกับที่เกิดขึ้นกับกรณีนี้
⸻
แค่ไม่ใช่พวกเดียวกัน ก็ผิด?
อาจารย์เจษฎ์ตั้งคำถามว่า การที่รัฐมนตรีสาธารณสุขนำประเด็นไลน์หลุดมาเล่นงานหมอ เป็นการใช้ “ไม้คนละอัน” หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ สมศักดิ์เคยอธิบายในการวีโต้มติแพทยสภาเองว่า จริยธรรมแพทย์จะถูกลงโทษได้ ต้องมีผลเสียหายต่อผู้ป่วยโดยตรง ซึ่งในกรณีนี้ไม่มี
“ไม้ที่เอามาวัดใช้คนละแบบ…อันหนึ่งสั้น อันหนึ่งยาว มันวัดไม่ได้หรอก”
เขายังสะท้อนภาพใหญ่ที่สังคมมองว่าเกมนี้ไม่ใช่เรื่องจริยธรรม แต่คือการไล่ล่าทางการเมือง
“คนเขามองว่าพวกเดียวกันก็ช่วยกัน ลิ่วล้อก็ต้องทำให้นาย หรือถึงขั้นว่า…นายว่าขี้ ข้าพลอย”
⸻
ศาล–แพทยสภา ต้องหยุดวงจรอำนาจครอบงำ
อาจารย์เจษฎ์แสดงความหวังต่อการประชุมแพทยสภาในวันที่ 12 มิ.ย. ว่าจะยืนยันมติเดิมอย่างตรงไปตรงมา พร้อมเตือนว่าวงจรปัญหานี้เกิดมาตั้งแต่ต้นน้ำ คือวันที่ “ทักษิณกลับประเทศ”
“ปัญหาชั้น 14 เริ่มจากการใช้อำนาจทางการเมือง ไม่ได้เดินตามครรลองแบบคนอื่น มาในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ มีวิษณุ เครืองาม เข้าไปเกี่ยวข้องต่อมาจัดรัฐบาลข้ามขั้ว ใช้อำนาจผ่านกลไกราชการ หมอ พยาบาล จนนำมาสูจุดนี้ เหมือนการถักแหล้อมกระบวนการยุติธรรม”
เขาระบุว่า หากกระบวนการยุติธรรมปล่อยให้ถูกล้อมด้วยเครือข่ายอำนาจทางการเมืองโดยไม่สะสาง ก็จะสูญเสียอิสระเสรีในการทำหน้าที่
⸻
คำวินิจฉัยของศาล 13 มิ.ย. จะเป็น “หมุดวัดใจประเทศนี้”
ท้ายที่สุด อาจารย์เจษฎ์กล่าวถึงความคาดหวังต่อศาลในการไต่สวนคำร้องปล่อยตัวทักษิณ 13 มิ.ย. นี้ว่า ศาลฯ จะมีคำสั่งที่เป็นคุณต่อประเทศชาติบ้านเมือง เป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชนได้ ด้วยการชี้ให้เห็นว่ากนะบวนการยุติธรรมในเรื่องนี้ต้องทำอะไร ถ้าไม่มีการทำตามกระบวนการยุติธรรมต้องแก้อย่างไร และใครต้องไปทำ ไม่ใช่แค่ว่าทักษิณจะต้องติดคุกหรือไม่เท่านั้น
“ถ้าป่วยจริง ป่วยวิกฤต ก็ต้องเดินตาม ม.246 ของกฎหมายอาญา ถ้าไม่ใช่ แล้วทำไมไม่ใช้ ม.55 ของราชทัณฑ์ที่ให้ไล่ระดับการรักษา…จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครอธิบายได้เลยว่าทำไมต้องไปโรงพยาบาลตำรวจ”
เขาทิ้งท้ายย้ำด้วยน้ำเสียงคาดหวังว่า ศาลฯ จะไม่ปล่อยให้ความยุติธรรมหลุดจากครรลองอีกต่อไป
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #สมศักดิ์เทพสุทิน #ทักษิณ #ทักษิณชินวัตร #แพทยสภา #ป่วยทิพย์ #ชั้น14 #มติแพทยสภา #ล็อบบี้จริยธรรม #12มิถุนาต้องรู้ #จริยธรรมจริยธรรม