พรรครวมไทยสร้างชาติกลายเป็นพรรคล่าสุดที่กำลังจะเผชิญชะตาเดียวกับพลังประชารัฐ — แตกแยก เปิดศึกภายใน ท้าให้ขับออก แล้วสุดท้าย…กลุ่มที่ถูกไล่กลับกลายเป็นฝ่ายที่ต่อรองอำนาจได้ดีกว่า
ในขณะที่ประชาชนกำลังเผชิญวิกฤตค่าครองชีพ พลังงาน และความเหลื่อมล้ำ กลับต้องมาดูการเมืองไทยเล่นเกมเปลี่ยนตัวละครแต่ใช้บทเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก
บทที่ประชาชนไม่มีสคริปต์พูดเลย
⸻
พรรคที่ตั้งจากอำนาจ—แต่ไร้พลังหลังอำนาจหาย
พรรครวมไทยสร้างชาติคือพรรคที่ถูกออกแบบมาเพื่อ “พล.อ.ประยุทธ์”
พอ พล.อ.ประยุทธ์ถอย พรรคนั้นก็ถอยตาม
• พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค มีตำแหน่งหัวหน้า แต่มีสส.ในมือไม่ถึงครึ่ง
• สุชาติ ชมกลิ่น ไม่มีตำแหน่งใหญ่ในพรรค แต่มี “ฐานเสียงจริง” ที่พร้อมลงชื่อถึงนายกฯ ถึง 21 คน
เมื่อเกิดข้อพิพาท กลุ่มที่ “มี สส.” มากกว่า ย่อมมีเสียงดังกว่า
ครั้งนี้พวกเขาแสดงพลังด้วยการรวบรวม 21 รายชื่อ ส.ส. จากทั้งหมด 36 คนในพรรค
เท่ากับว่าสายพีระพันธุ์เหลือเพียง 15 คน
เสียงข้างน้อยในพรรค…แต่ยังเป็นหัวหน้าพรรค ที่อำนาจกำลังจะหลุดมือ
⸻
แพตเทิร์นซ้ำ: พรรคแตก → ขับคน → ตั้งขั้วใหม่
สิ่งที่เกิดในรวมไทยสร้างชาติ ไม่ต่างจากตอนที่พรรคพลังประชารัฐเคยเจอ
• ครั้งนั้น “ผู้กองธรรมนัส” ถือส.ส.ในมือครึ่งหนึ่งของพรรค
• ถูกขับออกจากพรรค จากกันด้วยดี เพื่อไปมีอนาคตที่ดีกว่า
• สุดท้าย พรรคแม่ถูกเขี่ยออกจากรัฐบาล
• ฝ่ายที่ถูกไล่กลับมาร่วมรัฐบาลใหม่ได้…แบบไร้รอยต่อ
มันกลายเป็นสูตรสำเร็จทางการเมืองแบบไทย ๆ:
ถ้าอยู่แล้วไม่ได้เป็นใหญ่ ก็แตกออกไปตั้งพรรคใหม่
แล้วรอวันกลับมาในสังกัดใหม่ที่คุ้มค่ากว่า
⸻
แล้วในเกมที่ทุกอย่างอยู่ที่ “ใครคุมใคร” ประชาชนได้อะไรบ้าง?
1. ไม่ได้ระบบพรรคที่มั่นคง
การเมืองไทยไม่มีพรรคที่มีอุดมการณ์จริงจังพอ
มีแต่พรรคที่ประกอบร่างจากคน แล้วแยกวงเมื่ออำนาจเปลี่ยน
2. ไม่ได้การตรวจสอบภายในที่โปร่งใส
ประชาชนไม่มีทางรู้ว่าใครคือเจ้าของพรรคตัวจริง
และการเปลี่ยนหัวหน้าไม่ได้หมายความว่าพรรคเปลี่ยนวิธีคิด
3. ไม่ได้ “นโยบาย” แต่ได้ “ก๊วน”
การเมืองแบบนี้ไม่พูดเรื่องนโยบายสาธารณะเลย
มีแต่การวางหมาก ว่าใครจะได้ตำแหน่งไหน
ใครคุมกลุ่มไหน
ใครจะไปอยู่ฝั่งรัฐบาลหรือฝ่ายค้านดี
⸻
ถ้ายังเป็นแค่พรรคเฉพาะกิจ ประเทศไทยจะไม่มีพรรคของประชาชน
พรรคเฉพาะกิจมีสองจุดจบเสมอ:
1. แตกออกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ รอไปซบใต้อำนาจใหม่
2. กลายเป็นพรรคที่ใช้แค่ต่อรองตำแหน่ง ไม่ใช่ขับเคลื่อนประเทศ
ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพรรค
ไม่มีการผลักดันกฎหมายพรรคการเมืองให้สร้างความโปร่งใส–แข่งขันกันด้วยนโยบาย
ประเทศไทยก็จะเต็มไปด้วยพรรคที่รอวันแตก และนักการเมืองที่รอวันย้าย
⸻
ประชาชนไม่ได้อะไรจากการที่พรรคใดพรรคหนึ่งแตก นอกจากได้เห็นชัดขึ้นว่า…อำนาจในระบบนี้ยังอยู่ในมือ “กลุ่มคน” ไม่ใช่ “ประชาชน”
ไม่ว่าจะพลังประชารัฐ หรือรวมไทยสร้างชาติ
สุดท้ายถ้าประชาชนยังเป็นแค่คนดู การเมืองไทยก็จะเป็นแค่ละครที่วนฉายซ้ำ
เปลี่ยนแค่ดารา แต่ไม่เคยเปลี่ยนบท
และที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ “อำนาจและผลประโยชน์”
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #รวมไทยสร้างชาติ #พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค #รัฐบาลแพทองธาร #ปปช #นายกรัฐมนตรี #พลังประชารัฐ