สัมพันธ์ดีเป็นดาบสองคม ฮุน เซนกุมความลับชนชั้นนำในรัฐบาลไว้เยอะ โจมตีมาผู้นำไทยก็ไม่กล้าหือ เรากำลังต่อสู้กับการทูตแบบสุนัขจิ้งจอก จะสุภาพบุรุษอย่างเดียวไม่ได้”
—รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช นายกสมาคมภูมิภาคศึกษา – อาจารย์ประจำ มธ.
เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ในรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร”
⸻
ศึกชายแดน…ในหมากเกมทูตของกัมพูชา
ชายแดนไทย–กัมพูชา ยังห่างไกลจากคำว่า “คลี่คลาย” เมื่อผู้นำทั้งสองรุ่นของฝั่งกัมพูชา คือ ฮุน เซน และฮุน มาเนต วางเป้าหมายขยายอาณาเขตอย่างชัดเจน ขณะที่ฝั่งไทยกลับยังไม่ส่งสัญญาณถึงกลยุทธ์ตอบโต้แบบเป็นระบบ
รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช วิเคราะห์ว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นไม่ใช่แค่การยั่วยุทางทหารระดับต่ำ แต่เป็น “ยุทธศาสตร์การชิงดินแดน” ที่วางแผนล่วงหน้าไว้แล้วอย่างรอบด้าน ทั้งในมิติของวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ กฎหมายระหว่างประเทศ และการเคลื่อนไหวของสังคมกัมพูชา
“เขาไม่ได้หวังแค่คะแนนนิยมภายในประเทศ แต่หวังผลในการขยายดินแดนจากไทยจริง ๆ… ทั้งการเคลมปราสาทยุคโบราณที่อยู่นอกอธิปไตยเขา ไปจนถึงการส่งคนขึ้นไปร้องเพลงที่ตาเมือนธม มันคือปฏิบัติการแบบบูรณาการเต็มรูปแบบ”
——-
กลยุทธ์สองขา: จากพนมดงรักถึงเกาะกูด
เกมรุกของกัมพูชามีทั้งแนวรบทางบกและทางทะเล โดยมี “จุดขยายผล” จากชัยชนะในคดีปราสาทเขาพระวิหารต่อศาลโลก ทั้งสองรอบ มาใช้ขยับแนวอาณาเขตใหม่ — หนึ่งขาคือแนวชายแดนที่ช่องบก กลุ่มปราสาทตาเมือน ต่อยอดจากที่เคยชนะคดีปราสาทเขาพระวิหาร อีกขาคือทางทะเล ลากเส้นขึ้นมาถึงเกาะกูดของไทย
“ฮุน มาเนต โพสต์ 29 พ.ค. กัมพุชาขอสงวนสิทธิปกป้องอัตลักษณ์อาณาเขตและทหารกัมพูชาสามารถปกป้องหรือต่อสู้ภัยคุกตามใด ๆ ได้ หากขัดกับอัตลักษณ์อาณาเขต เป็นการส่งสัญญาณให้คนกัมพูชาสามารถส่งออกความรู้สึกไปที่ดินแดนไหนก็ได้ที่เขาคิดว่าเป็นของเขา นี่คือแนวคิดอันตรายที่สุด เพราะมันเปิดประตูให้รุกรานได้ทุกที่ แม้จะไม่อยู่ในอธิปไตยของประเทศตัวเอง”
——-
ความสัมพันธ์ดี…หรือหลุมพราง?
แม้ผู้นำไทย–กัมพูชาจะมี “ความสัมพันธ์ที่ดี” แต่รศ.ดร.ดุลยภาคเตือนว่า นี่อาจเป็นดาบสองคมที่ทำให้ไทยตกเป็นเป้าโจมตี เพราะอีกฝ่ายรู้ข้อมูลวงในของชนชั้นนำไทยมาก
“ฮุน เซนมั่นใจว่าเขารู้เยอะ เขาประเมินว่าผู้นำไทยจะไม่กล้าหือ และช่วงที่ไทยยังตั้งหลักไม่ทันก็มึนไปพักหนึ่ง จนสุดท้ายกองทัพภาคที่ 2 ต้องยืนหยัดไม่ถอนทหารตามคำสั่ง รมว.กลาโหม แล้วสถานการณ์ถึงพลิกกลับ มีการประชุม สมช. วางบทบาทแต่ละฝ่ายให้ชัดเจนขึ้น”
——-
ไทยต้อง “เล่นเกมหลายหน้า” เท่าทันยุทธศาสตร์หลายมิติ
สิ่งที่ไทยควรทำต่อจากนี้ คือเตรียม “วอร์รูมตอบโต้” แบบเต็มรูปแบบทั้งระยะสั้น กลาง ยาว โดยมีนักวิชาการ นักธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา มาช่วยประเมินสถานการณ์ในทุกมิติ ไม่ใช่แค่การทหารหรือกฎหมาย
“เขาสร้างแนวรบหลายมิติ ไม่ใช่แค่ในศาลโลก เขาส่งทหารเข้าเขตปัญหา พร้อมเอาครอบครัวทหารไปอยู่ด้วย แต่ไทยไม่เคยใช้ครอบครัวทหารเป็นยุทธศาสตร์ชายแดน แต่เขาทำเพื่อชิงดินแดน สังคมไทยต้องตั้งสติเตรียมทั้งรับและรุก”
ขณะที่มาตรการแบบแข็งก็ต้องเดินหน้าต่อเนื่อง เช่น ปิดด่าน ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ตัดเส้นทางสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะในจุดที่ท่อน้ำเลี้ยงของระบอบฮุน เซนอยู่ เช่น กาสิโน รวมถึงต้องถือโอกาสนี้จัดการเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไปด้วย
———
ต้องปรับการทูตสู้ “หมาจิ้งจอก”
“การทูตกัมพูชาเหมือนสุนัขจิ้งจอก เจนจัด พลิ้วไหว บิดพริ้วได้ทุกวินาที เราเล่นแบบสุภาพบุรุษอย่างเดียวไม่พอ ต้องกล้ากดดัน ต้องส่งสัญญาณที่แข็งแรงทั้งในประเทศและระดับอาเซียน–นานาชาติให้ชัดว่า ใครกันแน่คือผู้รุกราน และใครที่ไม่ยอมใช้กลไกทวิภาคีแต่ขยับไปศาลโลกอย่างรวดเร็ว”
รศ.ดร.ดุลยภาคเตือนว่า ถ้าไทยยังเล่นบทรับอย่างเดียวในเวทีโลก จะยิ่งสูญเสียอำนาจการต่อรอง และทำให้เพื่อนบ้านไม่เกรงใจ
เราคือราชสีห์ที่กำลังกลายเป็นแมวคราง ถ้ายังไม่ลุกขึ้นคำรามให้ดังกว่าเดิม เราจะเสียเปรียบทั้งที่เราคือประเทศที่ได้เปรียบในเชิงภูมิรัฐศาสตร์สูงมาก
——-
JBC: หมากสุดท้ายก่อนขึ้นศาลโลก?
ก่อนถึงศึกใหญ่ในศาลโลกที่กัมพูชาวางเกมไว้ การประชุม JBC วันที่ 14 มิถุนายนนี้ อาจกลายเป็นบททดสอบสุดท้าย ว่าไทยจะทันเหลี่ยมกัมพูชาหรือไม่ อาจารย์ดุลยภาคเสนอว่า ต้องทำให้เกิดการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีเหตุปะทะที่ช่องบกให้ได้ แม้กัมพูชาจะไม่อยากพูดถึงก็ตาม
“เขาไม่อยากคุยเพราะเสียเปรียบ แต่เราต้องผลักให้เกิดเวทีนี้ให้ได้ ต้องมัดมือเขาให้ตอบว่า ถ้าไม่ได้ยิงก่อน กล้าสืบข้อเท็จจริงไหม?”
——-
ถ้าศึกนี้ยืดเยื้อ ใครจะสู้ได้นานกว่ากัน?
สิ่งที่ต่างกันชัดเจนระหว่างไทย–กัมพูชา คือเสถียรภาพทางการเมืองภายใน กัมพูชามีตระกูลฮุนที่คุมเกมแน่น ส่วนไทยยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า นายกฯ คนปัจจุบันจะอยู่ถึงเลือกตั้งหรือไม่ และพรรคเพื่อไทยจะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหรือเปล่า
“กัมพูชามีอำนาจต่อเนื่อง ซึ่งไทยไม่มี ไม่ว่าตระกูลชินจะอยู่ในอำนาจได้ยาวแค่ไหน หรือจะหมดอำนาจไป แต่ตระกูลฮุนจะยังคงอยู่ ความมั่นคงภายในประเทศของเรา คือพื้นฐานที่ต้องวางยุทธศาสตร์ระยะยาว”
#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม # #รัฐบาลแพทองธาร #ศาลโลก #ชายแดนไทยกัมพูชา #ทักษิณชินวัตร #ดุลยภาคปรีชารัชช #ปิดด่าน #JBC #ICJ #ชายแดนไทยกัมพูชา #ละเมิดอธิปไตย #กองทัพไทย #ช่องบก #ฮุนเซน