DeepSeek สตาร์ทอัพ AI จากแดนมังกร เขย่าบัลลังก์ OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT แชตบอท AI ยอดนิยม ด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ DeepSeek-V3 แบบโอเพนซอร์ส ที่อ้างว่าใช้ต้นทุนพัฒนาต่ำกว่าคู่แข่งอย่างมาก ความสำเร็จนี้ไม่เพียงจุดประกายความร้อนแรงในแวดวง AI เท่านั้น แต่ยังจุดชนวนสงครามเทคโนโลยีครั้งใหม่ เมื่อ Microsoft และ OpenAI ออกโรงกล่าวหา DeepSeek ว่า “ขโมย” เทคโนโลยี AI ของพวกเขา
DeepSeek เขย่าบัลลังก์ ChatGPT
ก่อนหน้านี้ ChatGPT ของ OpenAI ครองความนิยมในฐานะแชตบอท AI ชั้นนำ ด้วยความสามารถในการสร้างข้อความ ตอบคำถาม และทำงานต่างๆ ได้อย่างน่าทึ่ง อย่างไรก็ตาม การมาของ DeepSeek ทำให้ ChatGPT ต้องเผชิญกับคู่แข่งที่แข็งแกร่ง ซึ่งอาจส่งผลต่อส่วนแบ่งการตลาดในอนาคต
ข้อกล่าวหา “ขโมยเทคโนโลยี”
Microsoft ซึ่งเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ใน OpenAI และ OpenAI กำลังตรวจสอบ DeepSeek โดยสงสัยว่ามีการนำข้อมูลจากเทคโนโลยี OpenAI รวมถึงข้อมูลที่ใช้ฝึกฝน ChatGPT ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต มีรายงานว่า นักวิจัยของ Microsoft พบการดึงข้อมูลจำนวนมากผ่าน API ของ OpenAI โดยบุคคลที่อาจเกี่ยวข้องกับ DeepSeek ซึ่งอาจเป็นการละเมิดข้อกำหนดในการให้บริการ หรือเป็นความพยายามในการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดของ OpenAI

DeepSeek R1 : ผู้ท้าชิงจากแดนมังกร
DeepSeek เปิดตัวโมเดล AI ใหม่ชื่อ R1 โดดเด่นด้วยความสามารถในการเลียนแบบการใช้เหตุผลของมนุษย์ R1 ได้รับการกล่าวขานว่าสามารถแข่งขัน หรือแม้แต่เหนือกว่าผลิตภัณฑ์จากผู้นำตลาดอย่าง ChatGPT, Google และ Meta ในหลายด้าน ทั้งที่ใช้ต้นทุนพัฒนาต่ำกว่ามาก
ผลกระทบต่อตลาดหุ้น
การมาของ DeepSeek ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี AI เช่น Microsoft, Nvidia, Oracle และ Alphabet ซึ่งราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า DeepSeek อาจ Disrupt ตลาด และแย่งส่วนแบ่งการตลาดจาก ChatGPT และผู้เล่นรายอื่น ๆ เพราะแค่เริ่มต้น DeepSeek ก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในสหรัฐฯ โดยแอปพลิเคชัน DeepSeek ขึ้นแท่นอันดับ 1 ในหมวดแอปฯ ฟรี แซงหน้าคู่แข่งอย่าง ChatGPT
“การกลั่น” : เทคนิคที่ถูกตั้งคำถาม
เดวิด แซ็กส์ อดีตเจ้าหน้าที่พิเศษด้าน AI ของประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวหา DeepSeek ว่าใช้เทคนิค “การกลั่น” (Distillation) เพื่อดึงความรู้จากโมเดลของ OpenAI รวมถึง ChatGPT โดยโมเดล AI หนึ่ง จะใช้ผลลัพธ์ของอีกโมเดลหนึ่ง เพื่อฝึกฝนตัวเอง
ขณะที่โฆษกของ OpenAI ยืนยันว่า บริษัทกำลังดำเนินการเพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และจะร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อป้องกันการนำเทคโนโลยี AI ของสหรัฐฯ รวมถึงเทคโนโลยีเบื้องหลัง ChatGPT ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

ความกังวลของสหรัฐฯ
ความสำเร็จของ DeepSeek สร้างความกังวลให้กับสหรัฐฯ ที่พยายามกีดกันการส่งออกเทคโนโลยีชิปไปยังจีน แต่ดูเหมือนว่า มาตรการดังกล่าว กลับเป็นการกระตุ้นให้นักวิจัยจีน พัฒนา AI ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง และมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
สงคราม AI เพิ่งเริ่มต้น
การแข่งขันในโลก AI กำลังทวีความรุนแรงขึ้น DeepSeek คือตัวอย่างที่ชัดเจน ของการท้าทายจากแดนมังกร ที่พร้อมจะเขย่าบัลลังก์ และเปลี่ยนแปลงสมดุลแห่งอำนาจในโลกเทคโนโลยี ซึ่ง ChatGPT และผู้เล่นรายอื่นๆ ต้องเตรียมรับมือกับการแข่งขันที่ดุเดือดนี้ ประเด็นที่น่าติดตามคือ
DeepSeek จะสามารถรักษาโมเมนตัม และเติบโตอย่างยั่งยืนได้หรือไม่?
Microsoft และ OpenAI จะดำเนินการอย่างไร เพื่อปกป้องเทคโนโลยีของตน? และ สงครามเทคโนโลยี AI จะส่งผลกระทบต่ออนาคตของโลกอย่างไร?