การเสียชีวิตของนักแสดงชื่อดัง ต้าเอส หรือ สวีซีหยวน จากภาวะแทรกซ้อนของโรคไข้หวัดใหญ่ที่ลุกลามเป็นปอดบวม ได้สะท้อนให้เห็นถึงอันตรายของโรคนี้ที่หลายคนอาจมองข้าม
ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza virus) ซึ่งมีอาการรุนแรงและยาวนานกว่าไข้หวัดธรรมดา แต่หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิต
ใครคือกลุ่มเสี่ยง?
- ผู้สูงอายุ (อายุมากกว่า 65 ปี)
- เด็กเล็ก (อายุน้อยกว่า 5 ปี โดยเฉพาะอายุน้อยกว่า 2 ปี)
- หญิงตั้งครรภ์
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว (โรคปอดเรื้อรัง หอบหืด โรคหัวใจ เบาหวาน)
การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับบุคคลในกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ เพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน
ภาวะแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่
ไข้หวัดใหญ่อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนหลายประการ เช่น
- ภาวะขาดน้ำ
- หลอดลมอักเสบ
- หูติดเชื้อ
- กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
- ปอดอักเสบ (จากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย)
- ไซนัสอักเสบ
- การกำเริบของโรคประจำตัว
ปอดอักเสบ: ภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย
ปอดอักเสบ เป็นหนึ่งในภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงที่สุดจากไข้หวัดใหญ่ โดยอาจเกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เอง หรือจากการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติม
- ปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส: ผู้ป่วยจะมีอาการหายใจลำบาก หนาวสั่น มีไข้ เจ็บหน้าอก ไอมีเสมหะ (อาจมีเลือดปน) ชีพจรเร็ว และริมฝีปาก/เล็บเขียวคล้ำ กลุ่มเสี่ยงสูง ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ (อายุครรภ์ 6-9 เดือน) ผู้สูงอายุ (โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในบ้านพักผู้ป่วย) และผู้ที่มีโรคปอดเรื้อรังหรือโรคหัวใจ
- ปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย: มักเกิดขึ้นหลังจากอาการไข้หวัดใหญ่ดีขึ้นแล้ว ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอมีเสมหะเขียว หายใจลำบาก และเจ็บหน้าอก หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์
บทเรียนจากต้าเอส
การเสียชีวิตของต้าเอสเป็นเครื่องเตือนใจว่า ไข้หวัดใหญ่ไม่ใช่แค่โรคหวัดธรรมดา แต่เป็นโรคที่อันตรายและอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเสี่ยง การป้องกันด้วยการฉีดวัคซีน การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และการสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งสำคัญ
หากคุณมีอาการที่สงสัยว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม