“โกหก กุเรื่องผมโทรหาเพื่อขับคุณพีระพันธุ์ออกจากหัวหน้าพรรค…ทุเรศกล่าวหามีทีมตามเก็บหลังทีมสุดซอย มีแต่บางคนตบทรัพย์ใน EEC กินจนพุงปลิ้น”
— เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม และเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ
เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ในรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง”
ดำเนินรายการโดย สมจิตต์ นวเครือสุนทร
⸻
“ปัดข่าวขับหัวหน้า – ซัดกลับใส่ร้าย ปั่นแตกแยก”
ศึกในพรรครวมไทยสร้างชาติยังคุกรุ่นไม่เลิก หลัง “สุชาติ ชมกลิ่น” นำทีม 21 ส.ส.เซ็นหนังสือถึงนายกฯ ให้ปลดรัฐมนตรีจากพรรคเดียวกัน เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ หนึ่งในรัฐมนตรีที่ถูกพาดพิง ออกมาเปิดใจแบบไม่กั๊กว่าเขาไม่เคยโทรหาสุชาติเพื่อขับพีระพันธุ์ออกจากหัวหน้าพรรคตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมย้อนถามว่า “ไม่ได้รับสายผม แล้วรู้ได้ยังไงว่าผมจะพูดอะไร”
“เรื่องที่บอกว่าผมโทรไปเพื่อขอคะแนนขับคุณพีระพันธุ์ เป็นเรื่องโกหก กุขึ้นทั้งนั้น ผมโทรไปก่อนหน้านั้นตั้งแต่เห็นข่าวจะย้ายพรรค แต่คุณสุชาติไม่รับสาย ผมก็ไม่รู้จะโทรไปทำไมอีก”
เขายืนยันหนักแน่นว่า ความสัมพันธ์ต่อหัวหน้าพรรคแน่นแฟ้นเพราะผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว และระบุว่า “ผมกับคุณพีระพันธุ์ ไม่มีความหวาดระแวงกัน 100% ผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะ ใครพยายามยุแยกก็ไม่สำเร็จ”
เขาบอกว่า ภาพข่าวกินข้าวกับ ส.ส. ไม่ได้ผิดปกติ เพราะเป็นกิจวัตรปกติ แต่การส่งภาพพร้อมแคปชันให้สื่อเพื่อชี้นำกระแสสังคม ทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่เหมือนถูกจัดวางไว้แล้ว “มีเจตนาให้เกิดความเข้าใจผิด เพื่อปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยก”
⸻
“ดิสเครดิตเป็นระบบ – ล็อกเป้าทำลาย”
เอกนัฏชี้ว่ามีกระบวนการปั่นกระแสและใส่ร้ายอย่างเป็นระบบ เป้าหมายคือทำให้เขากลายเป็นตัวแปรแตกหักในพรรค และกล่าวหาเรื่องการทำงานของทีมสุดซอยว่าเป็นการสร้างภาพ หลังทีมสุดซอยจะมีทีมตามเก็บ
“ทุเรศมากกับคำว่าทีมตามเก็บ ถ้ามีจริงก็เอาหลักฐานมา ผมรู้ว่ามีบางแอบอ้างคนในวงการก็รู้ แต่สำหรับผมไม่มีทีมตามเก็บ 100 % มีบางคนมีอิทธิพลชอบตบทรัพย์ใน EEC กินจนพุงปลิ้น!”
เขายืนยันว่าการทำงานอย่างจริงจังของตัวเขาและหัวหน้าพรรคทำให้มีคนเสียผลประโยชน์ จึงเกิดขบวนการชักใยเบื้องหลังเพื่อสร้างเรื่องเหล่านี้ขึ้นมา พร้อมยกตัวอย่างการเดินหน้ายกเลิกเตาหลอมเหล็กแบบ IF มาเป็น EF จะทำให้บางคนเสียประโยชน์ปีละเป็นหมื่นล้าน จนมีข่าวลงขันปลดตนเองออกจากการเป็นรัฐมนตรี
⸻
“เกมล้วงเก้าอี้–เครื่องมือต่อรอง–ใช้คนเป็นตัวประกัน”
เอกนัฏตั้งข้อสังเกตว่า รายชื่อ 21 ส.ส. ที่มีการอ้างถึง ควรมีการออกมายืนยัน หากได้เซ็นเอกสารจริง เพราะในเอกสารมีถ้อยคำรุนแรง เช่นกล่าวหาว่ารัฐมนตรี “ขาดความรู้ ไม่มีจริยธรรม ไม่สุจริตเป็นที่ประจักษ์” เมื่อไม่ยืนยันเอกสารนั้นก็ขาดความน่าเชื่อถือ เพราะมีบางคนออกมาปฏิเสธด้วย ส่วนที่จะมองว่าการไม่ปฏิเสธคือการยอมรับก็แล้วแต่จะมอง
“บางคนไม่กล้าออกมาพูดอะไร เพราะกลัวลูกพี่โกรธ เพราะรู้ว่าบางคนก็ไม่เลิกเล่น สส.เขาไม่ชอบที่จะตำเป็นเครื่องมือต่อรองตำแหน่งแบบนี้”
เขาระบุว่า หากใครจะเขย่าพรรคก็ปล่อยให้ทำ แต่ตนจะไม่เข้าไปวุ่นวาย เพราะงานการเมืองต้องวัดกันด้วยศรัทธาจากประชาชน ไม่ใช่การรวมหัวต่อรองเพื่อประโยชน์ของตัวเอง
⸻
“ข้อบังคับพรรคใหม่ ไม่ได้ดัดหลังใคร”
เอกนัฏยืนยันว่า ข้อบังคับพรรคที่มีการแก้ไขเรื่องคุณสมบัติสมาชิก ห้ามฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่นหรือสร้างความแตกแยกภายในพรรค ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อล้างบางหรือกำจัดฝ่ายใด แต่เป็นการปรับปรุงตามวาระประชุมใหญ่ และมีขึ้นก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อเดือนมีนาคม
“บางคนบอกไม่รู้ เพราะไม่ได้เข้าประชุม ก็ช่วยไม่ได้ มันเป็นกระบวนการปกติ ไม่ใช่การวางกับดักใคร”
⸻
“ไม่ขอเต้นตามเกมแตกแยก – พรรคอยู่ได้ด้วยศรัทธา”
เอกนัฏบอกว่าตนไม่ได้คิดจะเคลียร์กับสุชาติอีก เพราะได้โทรหาแล้วแต่ไม่รับสาย พร้อมย้ำว่าไม่เคยโยนความผิดหรือปรักปรำใคร แต่ตั้งคำถามถึงที่มาของเอกสาร ลายเซ็นสส. และข้อพิรุธในถ้อยคำ
“เราอย่าไปเต้นตามจังหวะของปัญหา ใครมีเจตนาอะไรก็เรื่องของเขา ผมยินดีคุย ถ้าเจตนาเปิดเผย แต่ถ้ามีเจตนาแอบแฝงบางอย่างเราจะไปตามใจเขาได้หมดทุกอย่างหรือ”
⸻
“ส.ส.อยู่หรือไม่ ไม่สำคัญเท่าศรัทธาประชาชน”
ท้ายที่สุด เอกนัฏชี้ว่า การเมืองเป็นเรื่องของเวลาและความไว้ใจ ถึงแม้ส.ส.บางคนอาจย้ายพรรคในอนาคตก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่สิ่งที่ต้องรักษาไว้ให้ได้คือความเชื่อมั่นและศรัทธาของประชาชน
“ไม่จำเป็นต้องรักษาทุกคนให้อยู่ครบในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะเป็นไปไม่ได้ แต่ต้องรักษาศรัทธาให้คะแนนเสียงอยู่เท่าเดิมหรือมากกว่าเดิม นี่คือเป้าหมายจริง”
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #รวมไทยสร้างชาติ #พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค #รัฐบาลแพทองธาร #ปปช #นายกรัฐมนตรี #21สสรทสช #เอกนัฏพร้อมพันธุ์ #สุชาติชมกลิ่น