ปฏิบัติการตัดไฟฟ้าเมียนมา 5 จุด เพื่อสกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลายเป็นประเด็นร้อนที่สังคมจับตามอง ท่ามกลางความสับสนและโยนความรับผิดชอบระหว่างหน่วยงานภาครัฐ จนชาวเน็ตถาม “จะตัดกี่โมง” แต่ทุกอย่างกลับได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว แบบพลิกหน้ามือเป็นฝ่าเท้า ก่อนนายกฯ เยือนจีนเพียงแค่วันเดียว และการตัดไฟฟ้าก็เป็นวันเดียวกับที่นายกฯ เดินทางไปจีน ตามคำเชิญของนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน คือวันนี้ (5 ก.พ.68) โดยมีกำหนดการอยู่ที่จีนถึง 8 ก.พ.68
The Publisher ชวนทุกคนไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุการณ์สำคัญที่นำไปสู่ปฏิบัติการครั้งนี้ รวมถึงวิเคราะห์สัญญาณจากจีน และอนาคตของแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลังจากการตัดไฟฟ้ากันหน่อย
ไทม์ไลน์ความสับสน : กว่าจะถึงวันตัดไฟ
- มิถุนายน 2566 : กฟภ. เคยตัดไฟเมียนมา 2 จุด บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา
- เม.ย.-พ.ค.2567 : มีมติครม.และข้อสั่งการของนายกฯ เศรษฐา ให้มท. (กฟภ.-กปภ.) ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตัดไฟฟ้า-น้ำประปา แต่ไม่มีการดำเนินการ
- ต้นปี 2568 : ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับมาระบาดหนักอีกครั้ง มีการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก เกิดกรณี “ชิงชิง” นักแสดงชาวจีนตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ โดยใช้ไทยเป็นทางผ่าน ทำให้เกิดการตื่นตัวทั้งในไทยและทางการจีน
- กุมภาพันธ์ 2568 :
- ม.ค.-ต้น ก.พ. : เสียงเรียกร้องการตัดไฟฟ้าเมียนมาเพื่อสกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังขึ้นเรื่อย ๆ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงโยนความรับผิดชอบกันไปมา ไม่มีความชัดเจนในการตัดสินใจ
- ปลาย ม.ค.-ปัจจุบัน : หลิว จงอี ผู้ช่วยคัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางไทย พบตร.ชั้นผู้ใหญ่ และ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ-รมว.กลาโหม วันที่ 4 ก.พ.
- 4 กุมภาพันธ์ : นายกฯ สั่งการให้ตัดไฟฟ้า 5 จุดในเมียนมา จากนั้นมีการประชุม สมช. สั่งตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และห้ามส่งน้ำมันไปเมียนมา
- 5 กุมภาพันธ์: การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ดำเนินการตัดไฟฟ้าตามคำสั่ง
สัญญาณจากจีน : มีผลต่อการตัดสินใจหรือไม่?
ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่องการตัดไฟฟ้าเมียนมา มีกระแสข่าวว่าจีนได้ส่งสัญญาณบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้ว่าจะไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่าจีนมีท่าทีอย่างไร แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลไทยจะได้รับแรงกดดันจากจีน เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีอิทธิพลต่อเมียนมา นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่น่าสนใจว่าการตัดสินใจตัดไฟฟ้าเมียนมามีความเกี่ยวข้องกับการที่นายกฯ มีกำหนดการเดินทางไปเยือนจีนหรือไม่ ซึ่งก็เป็นอีกประเด็นที่ต้องติดตามกันต่อไป
อนาคตแก๊งคอลเซ็นเตอร์ : หลังถูกตัดไฟฟ้า
แม้ว่าการตัดไฟฟ้าจะเป็นมาตรการสำคัญในการสกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ก็ไม่ใช่ “ยาวิเศษ” ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด แก๊งคอลเซ็นเตอร์อาจปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินงาน เช่น หาแหล่งพลังงานทดแทน หรือย้ายฐานไปอยู่ในพื้นที่อื่นที่ยังสามารถเข้าถึงไฟฟ้าได้ ดังนั้น รัฐบาลควรมีมาตรการอื่นๆ เสริมควบคู่ไปกับการตัดไฟฟ้า เช่น การเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบและลงโทษผู้กระทำความผิด การให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับกลโกงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง
ปฏิบัติการตัดไฟฟ้าเมียนมาเพื่อสกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แสดงให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา แม้ว่าการดำเนินการจะล่าช้าและมีความสับสนอยู่บ้าง แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในการต่อสู้กับภัยคุกคามนี้
อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน รวมถึงต้องมีมาตรการที่หลากหลายและยั่งยืน เพื่อที่จะสามารถเอาชนะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้อย่างแท้จริง