เวทีเสวนา “สังคมเศรษฐกิจไทยในนโยบายและพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย” เผยความจริงที่รัฐบาลไม่พูด โดย รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน แฉข้อมูลรัฐบาลบิดเบือน โดยพยายามอ้างความสำเร็จของสิงคโปร์ แต่ สิงคโปร์ไม่มี “กาสิโนออนไลน์” เพราะถือเป็นภัยพิบัติ!
สิงคโปร์มีแค่ “การพนันทายผล” ไม่ใช่ “กาสิโนออนไลน์”
รศ.ดร.นวลน้อย ชี้ว่ารัฐบาลไทยพยายาม พูดเหมารวม ให้คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับกาสิโนในสิงคโปร์ โดยความจริงแล้ว สิงคโปร์ไม่อนุญาตให้มีกาสิโนออนไลน์ โดยมีกฎหมายกำหนดเฉพาะ “การพนันทายผล” ที่ให้ซื้อผ่านออนไลน์ แต่ ห้ามเด็ดขาดสำหรับกาสิโนออนไลน์ “รัฐบาลไทยพูดคำโตว่าจะได้เงินแสนล้านจากกาสิโนแบบสิงคโปร์ แต่เมื่อคำนวณจริง ๆ รายได้จากภาษีการพนันจะเก็บได้แค่ราว 20,000 ล้านบาท! ลอตเตอรี่ที่รัฐบาลจำหน่ายปีละ 40,000 ล้าน เราเคยเห็นเงินไปใช้เพื่อการศึกษาโดยตรงหรือไม่? รัฐบาลใช้ตัวเลขหลอกประชาชน สิ่งที่พูดไม่มีข้อเท็จจริงเลย“
รศ.ดร.นวลน้อย ยังเล่าถึงบทเรียนจากฟิลิปปินส์: กาสิโน = ฟอกเงิน-ค้ามนุษย์-อาชญากรรม
หลังจากฟิลิปปินส์ เปิดให้มีกาสิโนและอ้างว่าสร้างเศรษฐกิจได้ สุดท้ายถูกขึ้นบัญชีดำเรื่องการฟอกเงิน ทำให้ธุรกิจระหว่างประเทศมีปัญหาหนัก มีการลักพาตัวในบ่อนเพื่อเรียกค่าไถ่ และหนี้พนันล้นประเทศ ล่าสุดรัฐบาลฟิลิปปินส์ต้องยกเลิกใบอนุญาตพนันออนไลน์ทั้งหมด แต่ยังไม่ชัดเจนว่าสามารถล้างชื่อออกจากบัญชีฟอกเงินได้หรือไม่ กาสิโนฟิลิปปินส์ กลายเป็นศูนย์กลางฟอกเงิน-อาชญากรรม ขณะที่กัมพูชา ก็ซ้ำรอย หายนะจากกาสิโน เห็นได้จาก
สีหนุวิลล์ เคยเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของกัมพูชา แต่เมื่อเปิดให้มี กาสิโน กลายเป็นศูนย์รวม ทุนจีนสีเทา คนกัมพูชาโดน ไล่ที่ บ้านเกิดกลายเป็นบ่อนเถื่อน ถูกจีนบีบให้ยกเลิกเหลือแต่ซากตึกร้างและอาชญากรรมก็ยังไม่หมดไป ปัจจุบัน บ่อนชายแดนไทย-กัมพูชา กลายเป็นแหล่ง “คอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์” ขนาดใหญ่
กาสิโน = เป้าหมายฟอกเงินของอาชญากร
รศ.ดร.นวลน้อย ชี้ว่า เศรษฐกิจสีเทาใช้กาสิโนเป็นที่ฟอกเงิน ทุนที่ลงทุนในกาสิโน มักเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม เช่น ยาเสพติดและค้ามนุษย์ แม้แต่ประเทศจีนยังพยายามทุกทางไม่ให้ประชาชนเข้าถึงการพนัน! “มีนักการเมืองไทยพูดว่าจะทำเงินจากกาสิโนเป็นล้านล้านโดยไม่ต้องตรวจสอบที่มาของเงิน ถ้าจะทำแบบนั้น ก็คงต้องเปลี่ยนประเทศใหม่ เพราะทุกอย่างจะถูกทำลายหมด!”
รัฐบาลกลัวประชามติ เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย!
จากการสำรวจหลายครั้งพบว่าคนส่วนใหญ่กว่า 50 % ไม่เห็นด้วยกับกาสิโนมีเพียงกว่า 30 % เท่านั้นที่เห็นด้วย จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมรัฐบาลไม่กล้าทำประชามติ รศ.ดร.นวลน้อย ยังยกตัวอย่างว่า สิงคโปร์คือต้นแบบกาสิโนจริง เพราะอนุญาตให้มีแค่ 2 กาสิโน เพราะไม่ต้องการให้ขยายตัวเกินควบคุม นายกฯ ลีเซียนลุง ตั้งเวทีถกเถียงทั่วประเทศก่อนตัดสินใจรัฐบาลสิงคโปร์ชี้ชัดว่า “ค่านิยมของสิงคโปร์ต้องยืนอยู่บนการทำงานและพากเพียร ไม่ใช่ความหวังเพ้อฝันจากกาสิโน ถ้าจะมีกาสิโน ก็ต้องมีระบบควบคุมที่เข้มข้น ไม่ใช่แค่พูดว่า ‘ทำให้ถูกกฎหมายแล้วจบ’ เหมือนรัฐบาลไทย”