เวทีสาธารณะ ครป. เปิดประเด็นร้อน กรรมการ กสทช. ถูกจับผิด สงสัยข้อมูลภายในรั่วไหล
ในการเสวนาสาธารณะที่จัดโดยเครือข่ายภาคประชาชน เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งประกอบด้วย คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) สภาองค์กรของผู้บริโภค สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เครือข่ายศิลปินเพื่อประชาธิปไตย สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) นักกฎหมายสิทธิมนุษยชน และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้ร่วมกันอภิปรายในเวทีสาธารณะ เรื่อง ‘ความเห็นภาคประชาชนต่อคดี ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช.’ ที่ถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา จากกรณีออกหนังสือเตือนไปยังทีวีดิจิทัลกรณี True ID นำเนื้อหาไปเผยแพร่้ในแพลตฟอร์ม OTT แล้วมีโฆษณาคั่น ซึ่งขัดกฎมัสต์แคร์รี
ประเด็นที่ทำให้หลายคนสะดุ้งคือ มีการตั้งข้อสงสัยว่าอาจมี “สปาย” ภายใน กสทช. ที่ล้วงข้อมูลการประชุมภายในองค์กร และข้อมูลเหล่านี้อาจรั่วไหลออกไปเพื่อใช้ประโยชน์ทางธุรกิจและทางการเมือง
เทปประชุมหลุดไปถึงใคร? ใครได้ประโยชน์?
น.ส.รสนา โตสิตระกูล อนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงาน แะสิ่งแวดล้อม สภาองค์กรของผู้บริโภค หนึ่งในผู้ร่วมเสวนา เปิดประเด็นว่า ข้อมูลจากการประชุมของ กสทช. ซึ่งควรเป็นเรื่องภายในองค์กร กลับไปอยู่ในมือของกลุ่มที่อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อน เกิดคำถามว่า ใครเป็นผู้ปล่อยข้อมูล และปล่อยไปเพื่ออะไร?
“หากข้อมูลลับขององค์กรที่มีอำนาจกำกับดูแลสื่อโทรคมนาคมขนาดใหญ่ยังรั่วไหลขนาดนี้ แล้วประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไรว่าการทำงานของ กสทช. จะเป็นไปอย่างโปร่งใสและไม่มีการแทรกแซง?” รสนากล่าวบนเวทีพร้อมเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ กลไกความปลอดภัยของข้อมูลภายใน กสทช. และตรวจสอบว่า มีเจ้าหน้าที่คนใดเกี่ยวข้องกับการล้วงข้อมูลหรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าองค์กรจะทำงานด้วยความเป็นกลาง ไม่ถูกชี้นำจากกลุ่มทุนหรืออำนาจทางการเมือง
เรื่องนี้ใหญ่แค่ไหน? ทำไมประชาชนต้องสนใจ?
หากมีการรั่วไหลของข้อมูลภายในองค์กรอย่าง กสทช. ซึ่งมีอำนาจควบคุมกิจการโทรคมนาคม สื่อ และดิจิทัล มันอาจหมายถึงการบิดเบือนการตัดสินใจที่มีผลต่ออุตสาหกรรมมูลค่าหลายแสนล้านบาท รวมถึงการคุ้มครองสิทธิของประชาชน
กรณีนี้ไม่ได้เป็นแค่ปัญหาภายในองค์กร แต่มันคือปัญหาของโครงสร้างอำนาจและความโปร่งใสของภาครัฐ ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการแข่งขันที่เป็นธรรมในวงการสื่อสาร และที่สำคัญ—ต่อสิทธิของผู้บริโภคทุกคน
อะไรคือทางออก?
น.ส.รสนา เรียกร้องให้ มีการตรวจสอบความปลอดภัยของข้อมูลภายใน กสทช. และตรวจสอบว่ามีบุคคลใดที่อาจเป็นผู้ให้ข้อมูลรั่วไหล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก
ขณะที่ภาคประชาชนเอง ต้องจับตาการทำงานของ กสทช. อย่างใกล้ชิด เพราะเรื่องนี้อาจเป็นมากกว่าการต่อสู้ของบุคคลหนึ่ง แต่มันคือสงครามแย่งชิงอำนาจในการควบคุมสื่อและโทรคมนาคมของประเทศ