เหตุการณ์ตำรวจประสบอุบัติเหตุรถชนเสาไฟฟ้าในจังหวัดตราด นำไปสู่การเปิดโปงพฤติกรรมที่ไม่ชอบมาพากล เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวบรรทุก บุหรี่เถื่อนจำนวนมาก กลายเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของปัญหาการ แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ในวงการสีกากี ที่ยังคงซุกซ่อนอยู่และเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ตำรวจจากผู้รักษากฎหมาย สู่ผู้ละเมิดกฎหมายเอง
จากรายงานข่าวระบุว่า จ.ส.ต.เอกพจน์ นิยม เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดตำรวจภูธรภาค 2 เป็นผู้ขับรถคันเกิดเหตุ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ความประมาทในการขับขี่ แต่การค้นพบบุหรี่เถื่อนมากกว่า 300 แท่ง ในรถตำรวจ กลายเป็นหลักฐานชัดเจนถึงพฤติกรรมที่น่าสงสัย และตั้งคำถามถึงเครือข่ายขบวนการลักลอบนำเข้าบุหรี่ผิดกฎหมาย
กรณีนี้ชี้ให้เห็นว่า ตำรวจซึ่งมีหน้าที่ปราบปรามอาชญากรรมกลับเข้าไปพัวพันกับการกระทำผิดเสียเอง นี่ไม่ใช่เหตุการณ์แรก และคงไม่ใช่เหตุการณ์สุดท้าย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราพบกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าของเถื่อน ยาเสพติด การพนัน หรือแม้แต่ขบวนการค้ามนุษย์
ทำผิดมีเครือข่ายช่วย?
ทำไมกล้าทำผิด เป็นเพราะผู้กระทำผิดอาจได้รับความคุ้มครองจากเครือข่ายในองค์กรใช่หรือไม่ มีนายใหญ่หนุนหลังหรือเปล่า? เพราะถ้าคดีไม่ดังสุดท้ายเรื่องเงียบ การตรวจสอบเป็นไปอย่างล่าช้า หรือในบางกรณีอาจถูกมองข้ามไปโดยไม่มีการลงโทษที่จริงจัง
หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือ การขาดกลไกตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพและเป็นอิสระ หน่วยงานตำรวจที่ควรเป็นองค์กรบังคับใช้กฎหมายกลับขาดมาตรการตรวจสอบภายในที่เข้มงวด หลายกรณีที่ตำรวจถูกจับได้ว่ามีส่วนพัวพันกับการทุจริตหรืออาชญากรรม แต่สามารถ หลุดพ้นจากความผิดได้ท่ามกลางข้อครหาว่า เป็นเพราะมีอำนาจและเส้นสาย
เรื่องฉาวบั่นทอนศรัทธาประชาชน
ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อตำรวจยิ่งลดลง เมื่อคนที่ควรปกป้องประชาชนกลับกลายเป็นผู้กระทำผิดเสียเอง ประชาชนย่อมตั้งคำถามว่า “เราจะไว้ใจใครได้?” หากตำรวจที่เราควรพึ่งพา กลายเป็นผู้ร่วมมือหรือเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการอาชญากรรม
การที่ตำรวจสามารถใช้สถานะของตนเพื่อทำผิดกฎหมายได้อย่างง่ายดาย บ่งชี้ถึง วัฒนธรรมการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และระบบอุปถัมภ์ภายในองค์กร ซึ่งเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกมายาวนาน หากไม่มีการปฏิรูปและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง สถานการณ์เช่นนี้จะยังคงเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เชื่อว่าประชาชนคงเบื่อที่จะพูดว่าต้องปฏิรูป แต่ก็ยังคงต้องพูดและกระตุ้นต่อไป!