กระแส ชาวอิสราเอลหลั่งไหลเข้าปาย จ.แม่ฮ่องสอน กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของไทย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ออกมาเตือนผ่านรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร” ว่ารัฐบาลต้อง เร่งจัดระเบียบก่อนเมืองปายจะเปลี่ยนไปอย่างไร้การควบคุม
“ต้องยอมรับว่านักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ อาจตกเป็นเป้าของฝ่ายปาเลสไตน์ หรือถูกก่อกวนโดยกลุ่มที่เป็นปรปักษ์ ถ้าไม่มีมาตรการป้องกันแต่เนิ่นๆ รัฐบาลจะรับมือไม่ทันแน่นอน!”
สมช.ต้องรุก! หยุดปล่อยปายขยายตัวแบบไร้ทิศทาง
พล.ท.ภราดร ย้ำว่า สมช. ต้องเป็นเจ้าภาพกำหนดแนวทาง และให้ กอ.รมน. กับผู้ว่าฯ บูรณาการเจ้าหน้าที่ความมั่นคงลงพื้นที่จัดระเบียบ ก่อนที่ปัญหาจะลุกลาม “ตอนนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องท่องเที่ยวแล้ว! มีการเปิดร้านอาหาร คาเฟ่ โฮมสเตย์ เช่ารถ แต่ผิดกฎหมาย หรือใช้คนไทยเป็นนอมินี เราจะปล่อยให้เกิด ‘ธุรกิจเถื่อน’ โดยไม่ทำอะไรเลยหรือ?”
ปายอาจเสียเอกลักษณ์ – ท่องเที่ยวไทยอาจพัง!
อย่าลืมว่า จุดขายของปายคือวัฒนธรรมและความสงบ แต่ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น? สูบกัญชา เล่นดนตรีเสียงดัง ละเมิดกฎจราจร จัดปาร์ตี้ ลักขโมย ทะเลาะวิวาทกันในโรงพยาบาล แถมผู้หญิงแต่งกายไม่เหมาะสม มันกำลังไปไกลกว่าที่ควรจะเป็นแล้ว ถ้ารัฐไม่เร่งมือ ไม่ใช่แค่เสียตลาดนักท่องเที่ยวชาติอื่น เพราะแม้แต่คนไทยก็เริ่มลังเลที่จะไปเที่ยวปายแล้ว!
ปายไม่ใช่ที่เดียว! “รัสเซียไปภูเก็ต มาเฟียอินเดียยึดพัทยา จีนเทาบุกกทม.”
พล.ท.ภราดร ยังชี้ให้เห็นว่า นี่ไม่ใช่ปัญหาของปายที่เดียว แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่กำลังเกิดขึ้นทั่วประเทศ
“ปายกำลังเป็นศูนย์กลางของอิสราเอล พัทยาเดิมเป็นรัสเซีย ตอนนี้เป็นมาเฟียอินเดีย ส่วนรัสเซียไปอยู่ภูเก็ต กรุงเทพฯ ก็เต็มไปด้วยกลุ่มทุนจีน แล้วถามว่าฝ่ายความมั่นคงทำอะไรอยู่? เรื่องนี้สำคัญมาก เราจะปล่อยให้ต่างชาติแทรกแซงอาชีพของคนไทยแบบนี้ไม่ได้ ปัญหานี้จะยิ่งแย่ถ้าไม่มีมาตรการคุมเข้มจริงจัง”
ต้องจัดระเบียบ – สะสาง “ไทยเทา” และระบบส่วย!
อดีตเลขาฯ สมช. ระบุด้วยว่า ถ้าไม่มีพวก ‘ไทยเทา’ หรือเจ้าหน้าที่นอกแถวรับส่วย ปัญหาคงไม่บานปลายขนาดนี้ ระบบมันผิดตั้งแต่โครงสร้าง เจ้าหน้าที่บางคนวิ่งหาประโยชน์ในพื้นที่มีรายได้ดี แต่รัฐไม่เคยคิดเรื่องกระจายอำนาจที่แท้จริง การทุจริตคือรากของปัญหานี้
รัฐบาลอย่าประมาท! ไทยอาจกลายเป็นจุดเสี่ยงก่อการร้าย
“รัฐบาลต้องจริงจัง เพราะชาวอิสราเอลมีศัตรูทางการเมือง และไทยอาจกลายเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อเหตุร้าย “เราเคยเห็นมาแล้วว่าการล้างแค้นบางครั้งทำในประเทศเขาไม่ได้ แต่อาจไปเกิดที่ประเทศอื่น ถ้าเกิดเหตุในไทย ภาพลักษณ์เราจะเสียหายทันที นักท่องเที่ยวจะหายหมด ใครจะอยากมาเที่ยวประเทศที่ไม่ปลอดภัย?” พล.ท.ภราดรกล่าว พร้อมเสนอว่า ฝ่ายสันติบาลต้องทำงานด้านข่าวกรองอย่างใกล้ชิด! อาจต้องใช้ พ.ร.บ.มั่นคงแบบอ่อนๆ ในพื้นที่ปายเพื่อจัดระเบียบ ร่วมมือกันระหว่างฝ่ายมั่นคง-มหาดไทย-ตำรวจ และประสานกับสถานทูตอิสราเอลโดยตรง
“รัฐบาลนี้พลาดตั้งแต่แรก – ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการ”
พล.ท.ภราดร ยังวิพากษ์รัฐบาลว่าขาดวิสัยทัศน์ ไม่ทำงานเชิงรุก และที่สำคัญ ไม่เคยให้ประชาชนมีส่วนร่วมตั้งแต่แรก
“รัฐบาลนี้ผิดพลาดตั้งแต่ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการแล้ว นโยบายที่ออกมาก็แค่หมุนซ้ายหมุนขวา เปลี่ยนขั้วกันไปมา แต่ประชาชนกลับไม่มีสิทธิ์ร่วมกำหนดทิศทางในบ้านเมืองของตัวเอง การแก้ปัญหาแบบที่ราชการประเมินกันเอง สุดท้ายก็ออกมาสวยหรู ว่าทุกอย่างเรียบร้อย ไม่มีปัญหา แล้วดูสิครับ ปายกำลังจะกลายเป็นเมืองอะไร?”