สำนักงาน ป.ป.ช. เผยแพร่เอกสารแนวทางป้องกัน “ผลประโยชน์ทับซ้อน” ชี้เป็นจุดเริ่มต้นของการทุจริต โดยได้เผยแพร่เอกสาร “แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกป้องกันการขัดกันแห่งผลประโยชน์สำหรับหน่วยงานภาครัฐ” โดยเน้นย้ำว่าการขัดกันแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest – COI) เป็นหนึ่งในปัจจัยที่นำไปสู่การทุจริตในภาครัฐ
“ผลประโยชน์ทับซ้อน” จุดเริ่มต้นของการทุจริตที่มองไม่เห็น
เอกสารของ ป.ป.ช. ระบุว่า การขัดกันแห่งผลประโยชน์ เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐตัดสินใจเรื่องใด ๆ โดยมีผลประโยชน์ส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้การใช้อำนาจหน้าที่ไม่เป็นธรรม หรืออาจส่งผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ
ป.ป.ช. ชี้ว่าปัญหานี้มีความซับซ้อนและอาจอยู่ใน “พื้นที่สีเทา” (Gray Area Corruption) เพราะแม้ว่าการขัดกันแห่งผลประโยชน์ อาจยังไม่ถือเป็นการทุจริตโดยตรง แต่เป็น ช่องทางหรือโอกาสที่ทำให้เกิดการทุจริตในอนาคต
“เจ้าหน้าที่ของรัฐมีหน้าที่หลีกเลี่ยงการขัดกันแห่งผลประโยชน์ เพราะเมื่อใดที่ประโยชน์ส่วนตัวเข้ามามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของภาครัฐ เมื่อนั้นย่อมมีความเสี่ยงที่จะนำไปสู่การทุจริต” เอกสารระบุ
ป.ป.ช. แยก 3 ประเภทหลักของการขัดกันแห่งผลประโยชน์
ในเอกสารดังกล่าว ป.ป.ช. ได้จำแนกประเภทของผลประโยชน์ทับซ้อน ออกเป็น 3 รูปแบบหลัก ได้แก่ 1 ผลประโยชน์ทับซ้อนในเชิงเศรษฐกิจ
เจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนได้เสียกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับโครงการของรัฐ ใช้อำนาจหน้าที่ล็อบบี้โครงการหรือแทรกแซงการจัดซื้อจัดจ้าง 2 ผลประโยชน์ทับซ้อนในเชิงนโยบาย นักการเมืองใช้อำนาจแทรกแซงการแต่งตั้งบุคคลในตำแหน่งสำคัญเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ตัดสินใจในเรื่องที่อาจมีผลต่อทรัพย์สินหรือธุรกิจของตนเอง และ 3 ผลประโยชน์ทับซ้อนในเชิงอำนาจหน้าที่ เจ้าหน้าที่รัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่ช่วยเหลือญาติ พวกพ้อง หรือพรรคพวกทางการเมือง มีการเจรจาเพื่อต่อรองหรือช่วยเหลือให้พ้นจากการถูกตรวจสอบ
“จริยธรรม – ผลประโยชน์ทับซ้อน – การทุจริต” ความสัมพันธ์ที่ต้องแยกให้ออก
เอกสาร ป.ป.ช. ยังได้อธิบายถึง ความสัมพันธ์ระหว่าง “จริยธรรม” “การขัดกันแห่งผลประโยชน์” และ “การทุจริต” โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ“จริยธรรม” (Ethics) – กรอบทางสังคมที่เป็นรากฐานของแนวคิดเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อนและการทุจริต ,“การขัดกันแห่งผลประโยชน์” (COI) – สถานการณ์ที่อาจเปิดช่องให้เกิดการทุจริต แม้จะยังไม่ผิดกฎหมายโดยตรง และ “การทุจริต” (Corruption) – การกระทำที่ผิดกฎหมายโดยชัดเจน และมีบทลงโทษตามกฎหมาย
ป.ป.ช. แนะกลไกป้องกัน COI ก่อนนำไปสู่การทุจริต
ในเอกสารของ ป.ป.ช. ได้แนะนำแนวทางป้องกัน การขัดกันแห่งผลประโยชน์ เพื่อช่วยให้หน่วยงานภาครัฐสามารถตรวจสอบและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การทุจริต โดยเสนอแนวทางดังนี้ ให้เจ้าหน้าที่รัฐต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง,สร้างระบบเปิดเผยข้อมูล (Transparency) เกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ,จัดทำแนวทางและมาตรการป้องกัน COI ในทุกระดับขององค์กรรัฐ
และ มีบทลงโทษที่ชัดเจน หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐฝ่าฝืนแนวทางป้องกัน COI
ป.ป.ช. ย้ำ COI เป็น “ปัญหาใหญ่” ที่ไม่ควรถูกมองข้าม
สำนักงาน ป.ป.ช. ย้ำว่าการขัดกันแห่งผลประโยชน์ แม้อาจยังไม่ใช่การทุจริตโดยตรง แต่เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาที่อาจขยายตัวเป็นการคอร์รัปชันที่ร้ายแรงได้
“COI คือพื้นที่สีเทาของการทุจริต ถ้าไม่มีมาตรการควบคุมและป้องกัน ผลประโยชน์ทับซ้อนจะกลายเป็นเครื่องมือที่ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง”
ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ COI ได้ที่
📌 เว็บไซต์สำนักงาน ป.ป.ช.
🔗 www.nacc.go.th/coi > ข่าวประชาสัมพันธ์ > แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกป้องกันการขัดกันแห่งผลประโยชน์สำหรับหน่วยงานภาครัฐ