รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) โพสต์ข้อความเตือนภัย “วัยติดโปรฯ” ทั้งหลาย ที่มองการดื่มเครื่องดื่มที่ถูกนำมาผสมกับยา “โปรโคดิล” กลายเป็นยาเสพติดสูตรผสมยอดฮิตในหมู่วัยรุ่น ไม่มีอันตราย กินง่าย แต่ความจริงแล้ว นอกจากตัวยาจะถูกนำมาใช้อย่างผิดวัตุประสงค์แล้ว ยังส่งผลเสีย และอันตรายถึงระบบประสาท
โดย หมอหมู วีระศักดิ์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “กินโปรฯ” ที่เหล่าวัยรุ่นพูดถึงนั้น คือ เครื่องดื่มที่ถูกนำมาผสมกับยาที่มีชื่อว่า “โปรโคดิล” หรือยาที่มีส่วนประกอบของ “โปรเมทาซีน” รวมกันกับเครื่องดื่มและยาชนิดอื่นๆ เช่น ทรามาดอล อัลปาโซแลม เพื่อหวังผลให้เกิดความมึนเมา เคลิบเคลิ้ม คล้ายกับการใช้ยาเสพติด
.
ยา “โปรโคดิล”(Procodyl Syrup) เป็นยาที่ใช้สำหรับบรรเทาอาการแพ้ทั่วไป จัดเป็นยาอันตรายตาม พ.ร.บ. ยา พ.ศ. 2510 โดยตัวยาสำคัญที่ประกอบอยู่ในยาโปรโคดิลคือ “โปรเมทาซีน” (Promethazine) ซึ่งออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ยับยั้งสารฮีสตามีนเพื่อกำจัดสารก่อภูมิแพ้ในร่างกาย
.
โปรเมทาซีน มีฤทธิ์คล้ายยารักษาอาการทางจิตเวช ทำให้เกิดอาการข้างเคียง คือ ง่วง ซึม เมื่อนำไปผสมกับเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือยาชนิดอื่นที่มีฤทธิ์ทำให้ตื่นตัว ทำให้วัยรุ่นที่กินโปรฯ นั้น มีอาการคล้ายกับการดื่มสุรา โดยอาการที่เกิดขึ้นเมื่อกินโปรฯ เช่น ง่วง มึนงง สลึมสะลือ มึนเมา คล้ายอาการกึ่งหลับกึ่งตื่น เหมือนกันกับการเมาสุราหรือการใช้ยาเสพติด
.
การทาน โปรเมทาซีน เกินขนาดจะทำให้เกิดการกดการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดอาการซึม เกิดภาวะความดันต่ำ หัวใจเต้นเร็ว และหายใจลำบาก
.
กินโปรฯ มักจะผสมโปรโคดิลกับยาอื่นที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท เช่น ทรามาดอล หรืออัลปาโซแลม โดยปกติเพียงแค่รับประทานโปรโคดิลเข้าไปก็ส่งผลให้เกิดอาการซึมอยู่แล้ว การผสมกันของสารออกฤทธิ์เหล่านี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายรุนแรงต่อร่างกาย หากรับประทานร่วมกันในปริมาณมากอาจมีอาการชัก อันตรายสูงสุดคืออาจเสียชีวิตได้ จากระบบหายใจล้มเหลวจากฤทธิ์กดประสาทร่วมกันของยา
.
ขอบคุณข้อมูล : รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี
.