นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เสียงข้างน้อย ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก วิจารณ์กระบวนการเลือกตั้ง ส.ว. ชุดปัจจุบัน ที่เต็มไปด้วยความกังขาของประชาชน โดยมีข้อร้องเรียนจำนวนมากส่งไปยัง กกต. แต่กลับถูกเพิกเฉย ขณะที่ DSI เพิ่งเข้ามาดำเนินการสอบสวนคดีนี้หลังผ่านไปกว่า 7 เดือน ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า กกต. เพิกเฉยต่อข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้น
“แฉขบวนการฮั้วเลือก ส.ว. – คุมเสียงข้างมากในสภา”
นันทนา ซึ่งเข้าร่วมการเลือก ส.ว. ครั้งนี้ และปัจจุบันเป็น หนึ่งในเสียงข้างน้อยของวุฒิสภา ระบุว่า เคยออกมาเปิดเผยถึง “ความผิดปกติ” ของกระบวนการเลือกตั้ง ตั้งแต่รอบประเทศ โดยระบุว่ามีการ จัดกลุ่มฮั้วกันมาเป็นก้อน อย่างเป็นระบบ และเป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มคนเหล่านี้มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับ พรรคการเมืองบางพรรค พร้อมชี้ว่า กลุ่ม ส.ว. ที่ได้มาจากกระบวนการนี้ กำลังถืออำนาจเหนือองค์กรอิสระ และมีบทบาทชี้ขาดในหลายประเด็นสำคัญของประเทศ การสอบสวนของดีเอสไอจะสร้างความเชื่อมั่นได้ก็ต่อเมื่อ ต้องกวาดล้างทั้งขบวนการแฮกระบบทั้งหมด ตั้งแต่ผู้บงการ จนถึงผู้ร่วมปฏิบัติการทั้งหมด ไม่ต้องละเว้น ไม่ต้องเกรงใจใคร เพราะเป็นอันตรายต่อระบบนิติรัฐของไทย
“รัฐธรรมนูญที่ออกแบบมาเพื่อสืบทอดอำนาจ – ต้องแก้ด่วน!”
นันทนา อ้างอิงถึง มาตรา 113 ของรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้สมาชิกวุฒิสภาต้องไม่อยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมืองใด และการออกแบบให้ ส.ว. มาจาก 20 กลุ่มอาชีพก็เพื่อสะท้อนความหลากหลายของสังคม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับเป็นการ “hack ระบบ” โดยกลุ่มที่มีสายสัมพันธ์กับพรรคการเมือง ใช้ช่องโหว่ของกฎหมาย “จ่ายเงิน” เพื่อเข้าสู่กระบวนการเลือก ส.ว. และรวบอำนาจทั้งหมดในสภา
“นี่คือผลพวงจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่เปิดช่องให้คนกลุ่มหนึ่งยึดสถาบันนิติบัญญัติไปแบบเบ็ดเสร็จ” นันทนาระบุ พร้อมชี้ว่า พรรคที่ได้ประโยชน์จากกติกานี้ จะพยายามยื้อการแก้รัฐธรรมนูญทุกวิถีทาง เพราะไม่ได้ทำเพื่อประชาชน แต่เพื่อปกป้องอำนาจของพรรคตนเอง
