ม.จ.จุลเจิม ยุคล โพสต์เรื่องนี้ในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวในหัวข้อ “จริงคือเท็จ เท็จคือจริง สรุปว่าจะตอแหลหรือไม่ตอแหลเท่านั้น ………อาจจะเป็นนิมิตที่ดีประเทศไทย ที่จะไม่มีกาสิโน และการพนันถูกต้องตามกฎหมาย
โดย ม.จ.จุลเจิม นำข้อความจากการปราศรัยของนายทักษิณ ชินวัตร ต่อประชาชนชาวจังหวัดยะลา ที่บ้าน ศรีวรา เมื่อ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 เนื้อหาตอนหนึ่ง ถึง ความจงรักภักดีต่อสถาบันและประเทศชาติ ว่า “ผมได้รับพระบรมราชโองการ ลดโทษก็ทรงระบุชัดในพระบรมราชโองการว่า ผมต้องใช้ความรู้ความสามารถมาช่วยบ้านเมือง ถ้าอยู่เฉยๆ แสดงว่าผมไม่จงรักภักดี ผมเป็นคนจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อยากทำงานให้บ้านเมืองโดยที่ไม่ต้องมีหน้าที่อะไร เพราะความสำนึกมันมีความสำนึกเป็นคนไทย สำนึกเป็นอดีตนายกที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ทำให้ดีที่สุดนั่นเอง……..
ม.จ.จุลเจิมระบุว่า เมื่อนายทักษิณพูดเช่นนี้ ก็อยากให้ทำงานตอบแทน และสำนึกในพระกรุณามหาธิคุณตามที่พูดว่าจงรักภักดีต่อสถาบัน และประเทศชาติ บ้านเมือง และนายทักษิณย่อมรู้ดีว่าปัจจุบันปัญหาใหญ่ที่คนไทยทั่วประเทศต่อต้าน และไม่ต้องการให้มีกาสิโน และการพนันถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย แต่รัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย กำลังดำริให้เปิดกาสิโน และการพนันถูกกฏหมาย ซึ่งขัดกับพระราชประสงค์ และ พระราชาโยบาย ของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ตั้งแต่รัชกาลที่ ๕ จนถึงรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ที่ทรงไม่มีพระราชประสงค์ เห็นด้วยให้มีบ่อนการพนัน และหรือ การเล่นการพนัน อย่างถูกต้องตามกฏหมายในประเทศ
“ดังนั้น คุณทักษิณ จะต้องเอาความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ ตามที่ได้พูดต่อหน้าประชาชน และความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ตามที่คุณพูด ไปต่อต้านไม่ให้รัฐบาลนี้ รวมถึงพรรคเพื่อไทย (ของคุณ) และนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นลูกสาวของคุณ ให้ยุติ คิดและ ล้มเลิก การให้มีบ่อนกาสิโน และการพนันถูกกฎหมาย ถ้าคุณทำได้นั่นแหละ ถึงเรียกว่า คุณได้ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ทรงต่อต้าน ไม่ให้มีบ่อนการพนัน อย่างถูกต้องตามกฎหมายใน บ้านเมือง สมกับที่คุณทักษิณ ที่ได้กล่าวถึง ความจงรักภักดี การที่ได้รับ พระราชทานอภัยโทษ ในครั้งนี้”