เมื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ “บิ๊กป้อม” ตัดสินใจ ลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยตัวเอง คำถามที่หลายคนอยากรู้คือ “จะรอดไหม?”
นี่อาจเป็นหนึ่งใน เกมเดิมพันสูงสุดของบิ๊กป้อมในฐานะฝ่ายค้าน เพราะเขาไม่ใช่แค่นักการเมืองธรรมดา แต่คือ อดีตผู้มีอำนาจในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ 9 ปีเต็ม และยังร่วมเป็นรัฐบาลกับ “เศรษฐา” ด้วย แม้ไม่มีตำแหน่งแห่งหนใน ครม. แต่ก็คลุกคลีคีโมงในวังวน “อำนาจ” เกือบจะตลอดเวลา กระทั่งถูกเขี่ยออกจากรัฐบาลในยุค แพทองธาร ใครจะคิดว่าวันนี้ เขาต้องมารับบท “ผู้ซักฟอก” แทนที่จะเป็น “คนถูกซักฟอก”
หาก “บิ๊กป้อม” ลุกขึ้นอภิปรายด้วยตัวเองจริง ไม่เพียงถือเป็นครั้งแรกของเขาในฐานะฝ่ายค้าน แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ว่า “บิ๊กป้อม” ยังเป็นผู้เล่นสำคัญทางการเมือง หรือกลายเป็นอดีตไปแล้ว?
จากรัฐบาลสู่ฝ่ายค้าน…บทบาทที่พลิกผันของบิ๊กป้อม
ย้อนกลับไปหลังเลือกตั้งปี 2566 พลังประชารัฐของบิ๊กป้อมเคยเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเศรษฐา แม้จะไม่ได้มีอำนาจสูงสุด แต่ก็ยังมีบทบาทในอำนาจรัฐ แต่เมื่อการเมืองเปลี่ยนไป เศรษฐาพ้นจากตำแหน่ง และ แพทองธาร ชินวัตร ก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯ พรรคพลังประชารัฐกลับ ถูกเขี่ยออกจากรัฐบาล กลายเป็นฝ่ายค้านเต็มตัว
นี่คือ ครั้งแรกที่บิ๊กป้อมต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้านจริง ๆ ซึ่งต่างจากเดิมที่เขา เคยมีอำนาจคุมเกมจากทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ดังนั้น การอภิปรายครั้งนี้ ไม่ใช่แค่โอกาสซักฟอกรัฐบาล แต่เป็นเดิมพันสำคัญที่ต้องแสดงให้เห็นว่า “พลังประชารัฐยังมีของ” และตัวเขาเอง “ยังเป็นตัวแปรสำคัญ”
จุดแข็งของบิ๊กป้อม – มีอะไรในมือ?
แม้บิ๊กป้อมไม่ใช่นักอภิปรายที่ดุเดือด แต่เขามี อาวุธสำคัญ 3 อย่าง ที่อาจช่วยให้เขารอดจากศึกนี้
- รู้ข้อมูลวงในรัฐบาลเดิม
บิ๊กป้อมเคยอยู่ร่วมรัฐบาลมาก่อน เขาอาจรู้เบื้องลึกเบื้องหลังที่พรรคเพื่อไทยและแพทองธารไม่อยากให้ถูกเปิดเผย หากสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้โจมตีรัฐบาลได้ เขาอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนในสภาฯ ได้ แค่ต้องเก็บแหวนแม่นาฬิกาเพื่อนไว้ลึก ๆ หน่อย - เครือข่ายข้าราชการและกองทัพ
ถึงจะไม่ได้อยู่ในรัฐบาล แต่บิ๊กป้อมยังมี คอนเนกชันกับข้าราชการและฝ่ายความมั่นคง
หากมีการเปิดเผยเรื่อง ความล้มเหลวด้านความมั่นคง หรือข้าราชการไม่พอใจรัฐบาลแพทองธาร นี่อาจเป็นจุดโจมตีสำคัญ - ประสบการณ์ทางการเมืองหลายสิบปี
แม้จะถูกมองว่า “พูดไม่เก่ง” แต่เขา อ่านเกมขาด การวางหมากให้ลูกพรรคอภิปรายแทน และเลือกอภิปรายในจังหวะที่จำเป็น จับให้ติด มีข้อมูลลึก อาจช่วยให้เขา “รอด” จากการซักฟอกครั้งนี้ แต่เอาจริง ๆ ยังนึกภาพ “บิ๊กป้อม” อภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ค่อยออก เพราะแทบไม่เห็นเขาในสภาฯ
จุดอ่อนของบิ๊กป้อม – อะไรที่อาจทำให้ไม่รอด?
แต่การที่บิ๊กป้อมจะ ซักฟอกเอง ก็มีจุดเสี่ยงที่อาจทำให้เขา เสียมากกว่าได้
- ปัญหาภาพลักษณ์ – ฝ่ายค้านที่ไม่ชัดเจน?
• บิ๊กป้อม เคยเป็นแกนนำรัฐบาลเก่า และก่อนหน้าเป็นฝ่ายค้านก็เห็นความพยายามจะกอดอำนาจ กระทั่งถูกถีบออกอย่างไม่ใยดี แม้เป็นฝ่ายค้านที่สะสมความแค้น แต่ความหอมหวนของ “อำนาจ” อาจถูกมองว่ามีเกมต่อรองเบื้องลึก ที่ทำให้เกิดข้อครหาได้ว่า เป็นฝ่ายค้านที่ “ครึ่ง ๆ กลาง ๆ” - ทักษะการอภิปราย – อาจเสียเปรียบฝ่ายค้านรุ่นใหม่
ถ้าเทียบกับนักการเมืองที่อภิปรายเก่งอย่างพรรคประชาชน หรือแม้แต่ เพื่อไทยบางส่วน บิ๊กป้อมอาจไม่มีลีลาการพูดที่ดุดันพอ และอาจถูกต้อนจนเป็นฝ่ายถูกโจมตีแทน ประกอบกับเป็นนักรบที่มักจบด้วยบาดแผล ก็สุ่มเสี่ยงที่จะถูกเปิดแผลได้ด้วยเหมือนกัน - ระวังเกมซ้อนเกม ศัตรูที่แท้จริงอาจอยู่ใกล้กว่าที่คิด
อย่าลืมว่าผู้กองธรรมนัส กุมความลับไว้เยอะ อาจพร้อมแฉกลับได้ทุกเมื่อ หากอภิปรายแล้วพลาดจะทำให้บิ๊กป้อมเสียคะแนนมากกว่าที่คิดถ้าหาก เพื่อไทยสามารถต้อนบิ๊กป้อมกลับด้วยข้อมูลย้อนศร หรือเขา ไม่สามารถอภิปรายได้หนักแน่นพอ บทบาทฝ่ายค้านอาจ เสียหายหนัก หลายคนจึงแนะ “อยู่เฉย ๆ” อาจจะดีกว่า
แล้วทางเลือกบิีกป้อมมีอะไรบ้าง?
บิ๊กป้อมต้องตัดสินใจจะ “เล่นเกมนี้อย่างไร” หากลุยเอง เสี่ยงสูง ยังไม่เห็นแนวโน้มว่าจะสร้างภาพลักษณ์ใหม่ได้ และอาจกลายเป็นการตอกตะปูฝาโลงตัวเองมากกว่า ถ้าให้ลูกพรรคอภิปรายแทนน่าจะปลอดภัยกว่า
แต่ไม่ว่าอย่างไร ถ้า “บิ๊กป้อม” ขึ้นสังเวียนจริง ก็เป็นเรื่องที่น่าจับตายิ่ง เพราะการซักฟอกครั้งนี้ อาจเป็นทั้ง “โอกาสสร้างจุดยืนใหม่” หรือ “เวทีที่ยิ่งตอกย้ำว่าบิ๊กป้อมหมดสภาพแล้ว”
และนี่คือสิ่งที่ต้องจับตาดูว่า… “บิ๊กป้อมซักฟอกเองจะรอดมั้ย?”