ราชบุรีเดือด! ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ตัดสินคดีฮั้วประมูลระบายมันสำปะหลังปี 51/52 พิพากษาจำคุก “มนัส สร้อยพลอย” อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ 10 ปี พร้อมลงโทษ บุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี 6 ปี 8 เดือน ขณะที่ วิวัฒน์ นิติกาญจนา (กำนันตุ้ย) นายก อบจ. ราชบุรี และสามีของบุญยิ่ง ก็ติดร่างแห
เปิดคดีใหญ่! โยงขบวนการทุจริตรัฐระบายมันสำปะหลัง
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ได้อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อท 60/2567 ซึ่ง อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (ปัจจุบันสังกัดพรรคกล้าธรรม) กับพวกรวม 10 คน ในข้อหาทุจริต ฮั้วประมูลโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี 2551/2552 ครั้งที่ 9
ภายหลังศาลมีคำสั่ง รวมคดีของ “บุญยิ่ง” กับคดีหมายเลขดำที่ อท 53/2567 ซึ่งเป็นคดีของ มนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ที่ถูกฟ้องในข้อหาความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ทำให้บุญยิ่งถูกเปลี่ยนสถานะเป็น จำเลยที่ 4
ศาลพิพากษาแบบไหน? ใครติดคุก? ใครรอด?
“มนัส สร้อยพลอย” (จำเลยที่ 1) ซึ่งเคยถูกตัดสินจำคุกคดีทุจริตจีทูจี 40 ปี มีกำหนดพ้นโทษ 11 ก.ค.69 ศาลตัดสินว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11, 12 และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 จำคุก 10 ปี!และให้นับโทษต่อจากคดีเก่าที่ศาลฎีกาเคยตัดสินไปแล้ว
“บุญยิ่ง นิติกาญจนา” และพวก (จำเลยที่ 4-12) โดนโทษลดหลั่นกันไป ศาลลงโทษ จำเลยที่ 4-7 และที่ 12 (รวมถึงบุญยิ่ง) จำคุก 6 ปี 8 เดือนจำเลยที่ 8-11 โดนปรับคนละ 250,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 2-3 รอด! ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง
ใครได้ประกันตัว? ศาลปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์!
หลังคำพิพากษา จำเลยหลายคนยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว โดยใช้หลักทรัพย์ประกัน ศาลมีคำสั่ง ให้ปล่อยตัวจำเลย 4 คน ประกอบด้วยจำเลยที่ 4-7, 6 และ 12 ระหว่างอุทธรณ์ โดยตีราคาประกันคนละ 200,000 บาท 2 ใน 4 ที่ได้รับการประกันตัวคือ “บุญยิ่ง นิติกาญจนา” ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว รวมถึง “วิวัฒน์ นิติกาญจนา” หรือ “กำนันตุ้ย” นายก อบจ. ราชบุรี และสามีบุญยิ่ง จำเลยที่ 12 ในคดีนี้ และได้รับการปล่อยชั่วคราวเช่นกัน
คดีนี้สะเทือนการเมืองแค่ไหน?
คดีนี้ไม่ใช่แค่เรื่อง ทุจริตมันสำปะหลัง แต่ยังสะเทือนการเมืองราชบุรี เพราะ บุญยิ่งและกำนันตุ้ย เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และกำลังถูกจับตามองว่า จะกระทบอนาคตทางการเมืองของพรรคกล้าธรรมอย่างไร