• Original
  • Urban Culture
  • Writer
  • About us
  • คุยกับสส
  • The Persona
  • Brief
  • Thai Treasure
  • Urban life
  • On this day
  • News
  • Home
  • Editir pick
  • Good
  • Persona
  • Persona
  • Urban
  • Business
  • Politics
  • Playlist
  • Home
  • People Voice
  • Culture
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
  • Urban Wealth
  • Law
  • Update
  • I’m Youth Ranger
  • Urban History
  • Issues
  • Check

Subscribe to Updates

Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.

What's Hot

“จรวดBM-21” สัญญาณบอกเหตุ แม่ทัพกุ้งขอให้มั่นใจไร้รอยต่อ เปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 2

26/09/2025

กัมพูชาโต้ลั่น ! เคลื่อนย้ายกำลังพล-อาวุธ เป็นภาพเก่า ชี้ไม่มีพฤติกรรมยั่วยุ 

26/09/2025

เปิดหลักเกณฑ์ “คนละครึ่ง” 16 ปีขึ้นไป 33 ล้านสิทธิ เริ่มใช้ พ.ย.-ธ.ค.นี้

26/09/2025
Facebook Twitter Instagram
Facebook Twitter Instagram
The PublisherThe Publisher
  • P
    • Persona
    • Politics
    • People Voice
    • Playlist
  • U
    • Update
    • Urban
    • Urban Culture
    • Urban History
    • Urban life
    • Urban Wealth
  • B
    • Business
    • Brief
  • L
    • Law
    • I’m Youth Ranger
  • I
    • Issues
  • C
    • Check
  • About us
The PublisherThe Publisher
You are at:Home»Original»เงินหมื่นเฟสสาม วัยรุ่น 16-20 ปี ได้เงินหมื่น เอาไปทำอะไร?วิเคราะห์ความต่าง แจกเงิน VS ให้โอกาส
Original

เงินหมื่นเฟสสาม วัยรุ่น 16-20 ปี ได้เงินหมื่น เอาไปทำอะไร?วิเคราะห์ความต่าง แจกเงิน VS ให้โอกาส

11/03/20252 Mins Read
Facebook Twitter

การที่รัฐบาลประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟสสาม โดยแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กับประชาชนอายุ 16-20 ปี กำลังเป็นประเด็นร้อนว่า “เม็ดเงินที่อัดฉีดลงไปจะสร้างผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจจริง หรือเป็นเพียงนโยบายประชานิยมที่ทำให้รัฐขาดทุนเพิ่ม?”

วัยรุ่นได้เงินหมื่น… ใช้ทำอะไร?

หากดูจากพฤติกรรมการใช้จ่ายของวัยรุ่นอายุ 16-20 ปี ซึ่งส่วนใหญ่ยังอยู่ในช่วงเรียนมัธยมปลายหรือมหาวิทยาลัย เงินหมื่นที่ได้รับ อาจถูกนำไปใช้ใน 4 รูปแบบหลัก ได้แก่

  1. แบ่งเบาภาระผู้ปกครอง? ใช่ แต่ไม่ทั้งหมด

รัฐบาลหวังว่าเงินนี้จะช่วย ลดภาระครอบครัว โดยใช้จ่ายในเรื่องจำเป็น เช่น
• ค่าเล่าเรียน ค่าเทอม ค่าติว
• ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง

แต่ในความเป็นจริง วัยรุ่นจำนวนมากอาจไม่ได้ใช้เงินทั้งหมดไปกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เนื่องจากผู้ปกครองบางคนยังคงเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายหลักอยู่

  1. ใช้จ่ายตามไลฟ์สไตล์ – กิน เที่ยว ช้อปปิ้ง

พฤติกรรมของวัยรุ่นในยุคนี้ให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์” มากกว่าสินค้า ทำให้เงินหมื่นอาจถูกใช้ไปกับ:
• การท่องเที่ยวและความบันเทิง เช่น ไปคาเฟ่ ดูคอนเสิร์ต ท่องเที่ยวในประเทศ
• ช้อปปิ้งออนไลน์ เสื้อผ้า เครื่องสำอาง แกดเจ็ตใหม่ ๆ
• อาหารและเครื่องดื่มพรีเมียม เช่น ร้านกาแฟแฟรนไชส์ ร้านอาหารแบรนด์ดัง

  1. ลงทุนจริงหรือแค่ลองเล่น?

วัยรุ่นบางกลุ่มอาจนำเงินไปลงทุน เช่น ซื้อหุ้น, เทรดคริปโต, ลงทุนในธุรกิจเล็ก ๆ หรือทำคอนเทนต์ออนไลน์ แต่ส่วนใหญ่ยังขาดประสบการณ์และความรู้ทางการเงิน ทำให้มีโอกาสเสียเงินมากกว่าทำกำไร

  1. การพนันและสิ่งมอมเมา – ความเสี่ยงที่ต้องจับตา

อีกหนึ่งข้อกังวลสำคัญคือ เงินที่ไหลเข้าสู่การพนันออนไลน์และสิ่งเสพติด ปัจจุบันแพลตฟอร์มพนันออนไลน์เข้าถึงง่าย และวัยรุ่นจำนวนไม่น้อยอาจมองว่า “ได้เงินเปล่า ก็ลองเสี่ยงดู” นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่เงินบางส่วนจะถูกใช้ไปกับ แอลกอฮอล์ บุหรี่ไฟฟ้า หรือสินค้าแฟชั่นที่ไม่จำเป็น อย่าบอกว่าเป็นเงินดิจิทัลเอาไปทำแบบนั้นไม่ได้ ถ้าไม่แน่ใจอย่างที่สุดว่า เงินดิจิทัลจะไม่ถูกเล่นแร่แปรธาตุกลายเป็นเงินสด ระหว่างการซื้อของในร้านค้า

เฟสสาม ลงทุนเท่าไหร่? คุ้มค่าจริงหรือไม่?

โครงการแจกเงินดิจิทัลเฟสสามนี้ ต้องใช้งบประมาณมหาศาล รัฐบาลยังไม่ได้ประกาศจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์ที่แน่ชัด แต่หากอิงจากกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นอายุ 16-20 ปี ซึ่งมีประมาณ 2.7 ล้านคน การแจกเงินคนละ 10,000 บาท จะใช้เงินประมาณ 27,000 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ ธนาคารโลก (World Bank) ได้ทำการศึกษาพบว่า การใช้มาตรการแจกเงินหมื่นช่วยกระตุ้นจีดีพีได้แค่ 0.3 % แต่มีต้นทุนทางการคลังสูงถึง 0.8% ของ GDP

ถ้าอ้างอิงจากตัวเลขนี้ โครงการเฟสสามที่ใช้ 27,000 ล้านบาท อาจสร้างผลตอบแทนกลับมาในระบบเศรษฐกิจเพียง 10,125 ล้านบาท ทำให้เกิดภาระทางการคลังและอาจต้องพึ่งพาการกู้เงินเพิ่ม

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ: ใช้เงินอนาคต หรือสร้างหนี้เพิ่ม?

การแจกเงินในระยะสั้นอาจทำให้ การบริโภคเพิ่มขึ้น ในกลุ่มเป้าหมาย แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ ผลกระทบระยะยาว
• หนี้สาธารณะพุ่งสูงขึ้น – หากรัฐไม่มีแหล่งรายได้ใหม่มาชดเชย เงินที่แจกอาจทำให้รัฐบาลต้องกู้เงินเพิ่ม และผลักภาระหนี้ให้คนรุ่นใหม่ในอนาคต
• เงินเฟ้อและราคาสินค้าพุ่ง – หากเงินจำนวนมากถูกอัดฉีดเข้าสู่ระบบโดยไม่มีมาตรการควบคุม อาจส่งผลให้ราคาสินค้าสูงขึ้น ทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลงในระยะยาว
• ไม่มีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน – เงินที่แจกไม่ได้นำไปลงทุนในโครงการพัฒนาอุตสาหกรรม หรือสร้างงานใหม่ ทำให้เศรษฐกิจไม่เติบโตอย่างมั่นคง

ทางเลือกที่ดีกว่า?

หากรัฐบาลต้องการช่วยเหลือเยาวชนและกระตุ้นเศรษฐกิจไปพร้อมกัน จะใช้เงิน 27,000 ล้านบาท ไปทำอะไรได้บ้างแทนการแจกเงินหมื่นดิจิทัล เมื่อสอบถาม ChatGPT ได้คำตอบ ดังนี้ สามารถใช้เงินไปกับการสร้างโอกาสระยะยาวให้เยาวชนวัย 16-20 ปี ใน 5 ด้านหลัก การศึกษา ทักษะอาชีพ เงินทุนธุรกิจ เทคโนโลยีและสุขภาพจิต

  • 10,000 ล้าน สำหรับโครงการสนับสนุนทักษะอาชีพ เช่น แจกคอร์สเรียนออนไลน์ฟรี สนับสนุนอาชีวะยุคใหม่ ฯลฯ
  • 7,000 ล้าน ให้เงินช่วยเหลือแบบมีเงื่อนไข เช่น เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำสำหรับการศึกษา หรือการสร้างโอกาสฝึกงาน หรือให้ทุนสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพ มีพี่เลี้ยงคอยให้คำปรึกษา ลดดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับธุรกิจวัยรุ่นที่ต้องการเริ่มต้น
  • 5,000 ล้านบาท อินเทอร์เน็ตฟรี อุปกรณ์ไอทีเพื่อการศึกษา ให้ทุนแท็บเล็ตเพื่อการศึกษา สำหรับนักเรียน นักศึกษาที่ขาดแคลน เปิด Maker Space หรือ Co-Working Space ให้วัยรุ่นเรียนรู้ ทำงานจริง
  • 3,000 ล้านบาท โครงการฝึกงานแบบได้เงินเดือน “Work & Earn” จับมือเอกชนสร้าง “Part-Time Hub”
  • 2,000 ล้านบาท ตั้งคลินิกสุขภาพจิตวัยรุ่น ในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย เปิดโครงการป้องกันพนันออนไลน์ แอลกอฮอล์ และบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงสร้างแอป TeenTalk ให้คำปรึกษาทางจิตใจฟรี

ChatGPT ยังรู้ควรใช้เงินอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและเยาวชน แต่รัฐบาลแพทองธารไม่รู้!

“เงินหมื่น” ไม่ใช่ของฟรี ใช้ผิดวิธี ภาระระยะยาว

แม้วัยรุ่นที่ได้รับเงินจะใช้จ่ายตามความต้องการของตนเอง แต่ในภาพรวมของประเทศ นโยบายแจกเงินอาจกลายเป็นการเพิ่มภาระหนี้ โดยไม่มีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว

สุดท้าย เราควรถามตัวเองว่า แจกเงินครั้งนี้เป็นการลงทุนเพื่ออนาคต หรือเป็นเพียงการผลักภาระหนี้ให้คนรุ่นต่อไป?

แจกเงินให้ใช้ครั้งเดียวอาจหมดในพริบตา แต่ถ้าให้โอกาส…มันจะอยู่กับพวกเขาไปตลอดชีวิต!

#ThePublisher สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม
Writer Publisher

Related Posts

พรรคประชาชนออกแถลงการณ์ ผ่าทางตันวิกฤตการเมือง เปิดเงื่อนไขหนุนนายกฯ คนใหม่

By Writer Publisher29/08/2025

เริ่มแล้ว ! ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียง “อุ๊งอิ๊งค์” ลุ้นอยู่ที่ทำเนียบฯ

By Writer Publisher29/08/2025

อันตรายความมั่นคง? ดิเรกฤทธิ์ชี้ “คลิปอังเคิล” มีเรื่องลับทางทหาร

By Writer Publisher25/08/2025

สิงคโปร์ “เอาจริง” ปรับ 5 หมื่นบาท สูบบุหรี่ไฟฟ้าในระบบขนส่งสาธารณะ

By Writer Publisher19/08/2025

Leave A Reply Cancel Reply

Demo
Editor Choices
Trendy

“จรวดBM-21” สัญญาณบอกเหตุ แม่ทัพกุ้งขอให้มั่นใจไร้รอยต่อ เปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 2

26/09/2025
Facebook Twitter Instagram TikTok

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

The publisher ใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ทําความเข้าใจ นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว อ่านเพิ่มเติม
ปฎิเสธ ตั้งค่าคุกกี้ ยอมรับ
Manage consent

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ที่จําเป็น
Always Enabled
คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
CookieDescription
cookielawinfo-checkbox-analyticsThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics".
cookielawinfo-checkbox-functionalThe cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional".
cookielawinfo-checkbox-necessaryThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary".
cookielawinfo-checkbox-othersThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other.
cookielawinfo-checkbox-performanceThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance".
viewed_cookie_policyThe cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data.
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo