บรรยากาศหน้าทำเนียบรัฐบาลร้อนแรงขึ้นทุกขณะ เมื่อ จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ประกาศชัดเจนว่า “ถ้ารัฐบาลไม่อยากเห็นประชาชนเต็มท้องถนน ก็อย่าทำลายชาติ” หลังจากปักหลักชุมนุมคัดค้านนโยบาย บ่อนกาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา
เขาเปิดใจกับ The Publisher ผ่านรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย สมจิตต์ นวเครือสุนทร พร้อมยืนยันว่าหากรัฐบาลเดินหน้าผ่านร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรเมื่อใด วันนั้นคือวันนับหนึ่งของการขับไล่รัฐบาล
“นโยบายนี้คือหายนะของชาติ ถ้าผ่านเมื่อไหร่ เจอกันแน่”
จตุพร ยืนยันว่าการเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุมจะเกิดขึ้นทุกวันอังคาร เวลา 10.00 น. จนกว่ารัฐบาลจะล้มเลิกแนวคิดเปิดบ่อนกาสิโน
“เราจะเพิ่มหมุดหมายการขับเคลื่อนทุกวันอังคาร เพื่อหยุดกฎหมายบ่อนกาสิโนไม่ให้ผ่าน ครม. พี่น้อง คปท. ชุมนุมทุกวัน จำนวนคนที่เห็นตัวและไม่เห็นตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นี่ไม่ใช่แค่เรื่องกาสิโนหรือพนันออนไลน์ แต่รวมถึงร่าง พ.ร.บ.ศูนย์กลางทางการเงินที่ซุกซ่อนการทำลายโครงสร้างการเงินของไทย การให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี แลนด์บริดจ์ 300,000 ไร่ ผลประโยชน์ไทย-กัมพูชา และทรัพยากรทางทะเล ทั้งหมดนี้คือการทำลายชาติ”
เขาเตือนว่า รัฐบาลที่คิดแต่ผลประโยชน์เฉพาะหน้าโดยไม่มองอนาคตของประเทศ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการลุกฮือของประชาชน
“ประเทศไทยเคยลองแล้ว…ไม่รอด!”
จตุพร ย้ำว่า การเปิดบ่อนกาสิโนในอดีตของไทยล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง โดยใช้เวลาไม่ถึง 4 เดือนก็ต้องยกเลิก เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชน รัฐบาลในอดีตยังต้องทำลายอุปกรณ์ทั้งหมดเพื่อปิดฉากมหันตภัยครั้งนั้น
“คราวนี้มาใหม่ พร้อมสัญญา 30 ปี ต่อสัญญาครั้งละ 10 ปี จะอยู่ชั่วกัปชั่วกัลป์ ปล่อยไว้ไม่ได้ เพราะถ้าถึงขั้นออกใบอนุญาตแล้ว ถ้าหยุดก็ต้องไปจ่ายค่าโง่อีก” จตุพรกล่าว พร้อมตั้งคำถามถึง “ผลประโยชน์ซ่อนเร้น” ที่รัฐบาลพยายามเดินหน้านโยบายนี้
“ขนาดรัฐมีหน้าที่ปราบบ่อนเถื่อน ทุกวันนี้ยังเต็มบ้านเต็มเมือง แล้วคิดเหรอว่าการเปิดกาสิโนถูกกฎหมายจะควบคุมได้?”
“เศรษฐกิจดี? หรือแค่หลอกตัวเอง?”
จตุพร โต้แย้งคำกล่าวอ้างของรัฐบาลที่ว่า “กาสิโนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ” โดยยกตัวอย่างกรณี สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ที่ออกมาตรการกวาดล้างกาสิโนในจีนอย่างเด็ดขาด พร้อมเตือนนายกรัฐมนตรีไทยว่า “เงินจากบ่อนไม่เคยพัฒนาชาติ มีแต่ทำลายความมั่นคง”
“เด็กติดพนัน ขอเงินไม่ได้ ก็ต้องลักวิ่งชิงปล้น ติดยา ขายตัว นักการเมืองทุจริตก็ใช้บ่อนฟอกเงิน ถ้าดีจริงทำไมรัฐบาลในอดีต 4 เดือนยังทนไม่ได้เลย?”
จตุพร ยังย้อนความถึง รัชกาลที่ 5 ว่า ที่พระองค์เห็นกาสิโนในยุโรป “ตระหนักถึงภัยร้ายแรง และตัดสินใจยกเลิกทุกบ่อนในไทย เพราะมันแผดเผาคนไทย ทำลายศักยภาพประชาชน”
“พรรคเพื่อไทยโกหกประชาชน?”
จตุพร ตั้งคำถามถึงความชอบธรรมของพรรคเพื่อไทยในการผลักดันกาสิโน หลังจากที่ ไม่เคยพูดถึงนโยบายนี้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง แต่กลับหยิบขึ้นมาเดินหน้าทันทีหลัง “ทักษิณ ชินวัตร” จุดประเด็นในระหว่างการแสดงวิสัยทัศน์ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567
“ถ้าบ่อนกาสิโนดีจริง ทำไมตอนหาเสียงไม่พูด? แต่พอข้ามขั้วจัดตั้งรัฐบาล นายทักษิณพูดปุ๊บ ก็กลายเป็นนโยบายปั๊บ! แปลว่าอะไร? ถ้ามันดีจริง ประชาชนคงไม่ต้องมาไล่รัฐบาล”
เขาเตือนว่า เบื้องหลังของกาสิโนอาจซ่อนผลประโยชน์มหาศาลที่ไม่ใช่ของประชาชน “ผมเคยคุยกับคนที่คิดทำบ่อนเมื่อหลายสิบปีก่อน แค่ ‘หุ้นลม’ ก็ปาเข้าไป 20% แล้ว นี่มันไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจ แต่มันคือการใช้ประเทศเป็นเครื่องมือแสวงหากำไรของบางกลุ่ม”
“รัฐบาลเดินหน้าเต็มกำลัง…แต่ประชาชนจะสู้ยิบตา”
จตุพร ยอมรับว่ารัฐบาลชุดนี้ “มุ่งหน้าผลักดันกาสิโนแบบไม่สนเสียงประชาชน” แต่เชื่อว่า พลังทางสังคมอาจพลิกสถานการณ์ได้เสมอ “อย่าประมาทอารมณ์ของสังคมไทย ถ้ามีประเด็นที่คลิก ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ในพริบตา” เขาเตือนว่า “กฎหมายกาสิโนผ่าน ครม. วันไหน นับหนึ่งขับไล่รัฐบาลวันนั้น เราไม่ได้รีบ แต่เราจะไม่หยุด ทุกคนมีบทเรียน เราเดินเป็นจังหวะ คิดทีละตอน ไม่กดดันตัวเอง ไม่นำสถานการณ์ แต่ให้สถานการณ์พาไปเอง”
“เศรษฐกิจแย่ไม่ใช่เพราะชุมนุม แต่เพราะรัฐบาลทำลายศรัทธาตัวเอง”
เมื่อถูกถามว่า รัฐบาลอาจกล่าวหาว่าการชุมนุมเป็นตัวฉุดเศรษฐกิจที่ซบเซาอยู่แล้ว จตุพรสวนกลับทันทีว่า “ถ้ากลัวเศรษฐกิจแย่ ก็อย่าทำลายชาติ อย่าทำกาสิโน อย่าขายที่ดิน 99 ปีให้ต่างชาติ อย่าซุกแลนด์บริดจ์ 300,000 ไร่ ถ้ารัฐบาลไม่ต้องการให้ประชาชนลุกฮือ ก็อย่าผลักดันเรื่องพวกนี้ ตอนนี้แม้ไม่มีการชุมนุมหุ้น ราคาสินค้าเกษตรก็ตกต่ำอยู่แล้ว เพราะรัฐบาลไม่มีปัญญาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ไม่อยากให้ประชาชนเต็มถนน อย่าทำลายชาติ “จตุพร กล่าวย้ำ
“อนาคตรัฐบาลแพทองธาร = อนาคตของทักษิณ”
จตุพร มองว่า “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ไม่ได้เป็นผู้นำโดยแท้จริง แต่ยืนอยู่ได้เพราะบารมีของนายทักษิณ จุดตายของรัฐบาลแพทองธาร คือจุดตายของทักษิณ “ถ้านายทักษิณมีอันเป็นไป อุ๊งอิ๊งค์ก็ไปต่อยาก สิ่งที่เกิดขึ้นกับทักษิณ คืออนาคตของรัฐบาลนี้” เขาวิเคราะห์ต่อด้วยว่า ทักษิณ กำลังเผชิญปัญหาที่อาจทำให้ต้องกลับไปติดคุก หลังไม่ได้ติดคุกจริงและอาจหนีออกนอกประเทศ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็เชื่อว่านโยบายกาสิโนไม่ได้ไปต่อ และรัฐบาลลูกสาวก็อยู่ยาก เพราะนอกจากมีปัญหาภายในพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว แพทองธาร ก็ไม่สามารถบริหารทั้งพรรคและรัฐบาลได้ หากไม่มีบารมีพ่อ ซึ่งในขณะนี้ก็ใกล้เข้าสู่สภาพ “วิกฤตศรัทธา” แล้ว
“ไม่อยากให้ประชาชนเต็มถนน อย่าทำลายชาติ”
สุดท้าย จตุพรทิ้งท้ายถึงรัฐบาลว่า “ไม่มีใครอยากลงถนนหรอก แต่ถ้ารัฐบาลตัดสินใจทำเรื่องบ่อนกาสิโน และความเลวร้ายอื่น ๆ ประชาชนจะต้องออกมาเอง ถ้ารัฐบาลไม่อยากเห็นประชาชนเต็มท้องถนน ก็อย่าทำลายชาติ”