“DSI ไม่ใช่เครื่องมือทางการเมือง – เราทำทุกอย่างตามกฎหมาย” นี่คือจุดยืนของ พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ The Publisher ในรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย สมจิตต์ นวเครือสุนทร ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า DSI อาจกำลังตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง จากกรณีดำเนินคดีฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับการเลือก ส.ว.
“DSI ถูกตรวจสอบได้ – แต่ขอย้ำว่าเราทำทุกอย่างตามกฎหมาย”
เมื่อถูกถามถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่ม ส.ว. ที่ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ให้สอบสวน DSI ในข้อหา “ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” อธิบดี DSI ตอบอย่างหนักแน่นว่า “หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายก็ต้องพร้อมถูกตรวจสอบอยู่แล้ว แต่ผมยืนยันว่าเราทำทุกอย่างถูกต้องตามกระบวนการกฎหมาย เมื่อมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้มีการดำเนินคดี เราต้องสืบสวนว่ามีมูลความผิดหรือไม่ ซึ่งขณะนี้เรายังไม่ได้กล่าวหาระบุตัวบุคคลใด”
เขาอธิบายว่า DSI รับเป็นคดีพิเศษเพราะมีเหตุอันควร ไม่ใช่เพราะแรงกดดันทางการเมือง โดย DSI ประสานงานกับ กกต. แล้ว กกต.ระบุว่า ทำเฉพาะคดีที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ไม่ได้ตัดอำนาจหน่วยงานอื่นที่จะรับเรื่องไว้ ถ้ารับไว้แฃ้ว กกต.ก็สามารถแจ้งรับโอนได้เฉพาะเรื่องการเลือกตั้งและพรรคการเมืองเท่านั้น ความผิดอาญาอื่นที่มีผู้ร้องขอให้ตรวจสอบหรือกล่าวโทษให้ดำเนินคดีจะต้องสืบสวนสอบสวน แม้ไม่เป็นคดีพิเศษก็เป็นคดีธรรมดาที่ตำรวจต้องรับดำเนินการอยู่ดี
“ไม่มีรับใช้การเมือง ทำทุกอย่างตามกฎหมาย“
พ.ต.ต. ยุทธนา ย้ำว่า DSI ไม่มีธง ไม่มีการรับใช้ทางการเมืองใด ๆ “การรับใช้ทางการเมืองต้องหมายถึงการกระทำที่อยู่นอกกฎหมาย หรือสร้างเรื่องเท็จขึ้นมาเล่นงานใคร แต่กรณีนี้มีผู้สมัคร ส.ว. เป็นผู้กล่าวโทษ และนำพยานหลักฐานมายืนยันคดีนี้ผ่านกระบวนการตรวจสอบก่อนรับเป็นคดีพิเศษ ทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนการพิสูจน์ ไม่ใช่การกลั่นแกล้งบุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
“อย่าเปรียบเทียบผมกับ ธาริต เพ็งดิษฐ์”
เมื่อถูกถามถึง มีผู้เปรียบเทียบกรณีของ ธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดี DSI ที่เคยถูกดำเนินคดีฐานใช้อำนาจโดยมิชอบหลังตั้งข้อกล่าวหาต่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และสุเทพ เทือกสุบรรณ ในคดีสลายการชุมนุมจนสุดท้ายศาลฎีกายกฟ้อง และตัวธาริตเองถูกตัดสินจำคุก 2 ปี กับการรับคดีฟอกเงิน สว. มองอย่างไร? พ.ต.ต. ยุทธนา ตอบกลับทันทีว่า “เป็นคนละกรณี เทียบกันไม่ได้”
เขาย้ำว่า “ผมยืนยันว่า DSI ตอนนี้ดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมาย ไม่มีธง ไม่มีนโยบายอะไรเป็นพิเศษ”
ฟอกเงินเลือก ส.ว. คือคดีพิเศษ
ทำไมคดีนี้ถึงเป็นคดีพิเศษ? พ.ต.ต. ยุทธนา อธิบายว่า เรื่องนี้มีความสำคัญจึงเสนอให้คณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณาก่อนจะรับเรื่องไว้ทำการสืบสวน สอบสวน เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่าง “ถ้าคดีนี้ไม่เป็นคดีพิเศษก็ตอบยากว่าคดีไหนจะเป็นคดีพิเศษ”
“กดดันไหม? สังคมคาดหวังสูง”
เมื่อถูกถามว่ารู้สึกกดดันกับการทำคดีนี้หรือไม่ พ.ต.ต. ยุทธนา ตอบอย่างหนักแน่นว่า “ไม่กดดัน เพราะเราทำทุกอย่างภายใต้กฎหมาย DSI มีหน้าที่ทำตามกรอบกฎหมาย ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร และคดีนี้ก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ควรเป็นคดีพิเศษ”
ส่วนขอบเขตการสอบสวนจะตั้งต้นจากทรัพย์สินเป็นหลัก การรับโอนโดยรู้อยู่แล้วว่า เป็นทรัพย์ที่เกิดจากการกระทำผิด แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในสำนวนได้ และจะพยายามดำเนินการโดยเร็วที่สุด ส่วนจะเร็วแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับพยาน หลักฐาน และการรับฟังข้อเท็จจริงว่าจะยุติได้รวดเร็วขนาดไหน “โดยยึดหลักรวดเร็วต่อเนื่องและเป็นธรรม”