เหตุการณ์โศกนาฏกรรมจากอุบัติเหตุ โครงสร้างคานสะพานถล่ม ในโครงการทางพิเศษ พระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 10 ราย เป็นอีกหนึ่งหลักฐานว่าประเทศไทยยังคงมี ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่
บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการดังกล่าว ได้ออกหนังสือชี้แจงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 โดยระบุว่า บริษัทจะรับผิดชอบค่าเสียหายและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมยืนยันว่าได้สั่งระงับงานก่อสร้างชั่วคราวเพื่อทบทวนมาตรการความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม แค่การเยียวยาไม่เพียงพอ เพราะสิ่งที่สังคมไทยต้องการคือ การเอาผิดทางกฎหมายต่อผู้ที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อให้เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เกิดขึ้นซ้ำ
แม้นายกฯ แพทองธาร จะออกแอ๊กชัน สั่งเข้มเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง แต่ด้วยกลไกที่เป็นอยู่ไม่ได้เอื้อต่อการดำเนินการเช่นนั้น คำสั่งดังกล่าวจึงยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าจะปฏิบัติได้จริง เนื่องจากเริ่มต้นโดยให้หน่วยงานสอบกันเอง ไม่มีคนกลางที่เป็นมืออาชีพเข้าไปเพื่อถอดบทเรียนอย่างจริงจัง นั่นจึงทำให้ ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโครงสร้างและอดีตอธิการบดีสจล. ได้ออกมาวิจารณ์ระบบความปลอดภัยของประเทศไทยว่า “ไทยไม่เคยถอดบทเรียนจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเลย” และเขายังไม่มีความหวังมากนักต่อสิ่งที่นายกฯ ได้สั่งการไปเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา
เขาเน้นย้ำว่าหากประเทศไทยไม่มีกฎหมายด้าน ความปลอดภัยสาธารณะที่เข้มแข็ง เหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก จึงได้เชิญชวนประชาชนร่วมลงชื่อ 10,000 รายชื่อ เพื่อผลักดันร่างกฎหมายความปลอดภัยสาธารณะเข้าสู่รัฐสภา โดยร่วมลงชื่อสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ได้ที่ thaipublicsafety.org
” เราเสนอกฎหมายความปลอดภัยสาธารณะฉบับประชาชน เพื่อให้เกิดหน่วยงานกลาง ในการตรวจสอบทุกเหตุ ซึ่งจะทำให้มีเจ้าภาพในการรับร้องเรียน ติดตามผล แก้ปัญหา ตรวจสอบอุบัติภัยแทนหน่วยงานที่เกิดเหตุ เพื่อลดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน ทำหน้าที่เหมือน “นิติเวชของวงการวิศวกรรม ที่ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ตำรวจและอัยการดำเนินคดี คนทำผิดจะได้เข็ดหลาบจำ เพราะถ้ามีการลงโทษจริงจังเหมือนต่างประเทศ บริษัทเหล่านั้นอาจถึงขั้นล้มละลายได้เลย” ดร.เอ้ มั่นใจว่านี่คือแนวทางแก้ปัญหาที่ถูกจุด เพื่อหยุดโศกนาฏกรรมไม่ให้เกิดซ้ำอีก
บริษัทอิตาเลียนไทย แถลงชี้แจง: หยุดงาน 7 วัน เยียวยาผู้เสียหาย
บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้รับเหมาโครงการ ได้ส่งจดหมายชี้แจงถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 ระบุว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ โดยบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาค่าชดเชย ให้กับผู้ได้รับผลกระทบ และได้สั่งหยุดงานก่อสร้างเป็นเวลา 7 วัน และ ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยเพิ่มเติม พร้อมยืนยันว่าจะไม่ปัดความรับผิดชอบ และจะร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่ในการสอบสวน
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีคำตอบชัดเจนจากบริษัทเกี่ยวกับสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้ ขณะที่สังคมมองว่าต้องมีการเอาผิด ไม่ใช่แค่เยียวยา
“หากไม่ลงโทษผู้ที่ละเลยความปลอดภัย ไม่ปฏิรูปมาตรฐานก่อสร้าง โศกนาฏกรรมจะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก”
เปลี่ยน “ความสูญเสีย” เป็น “จุดเปลี่ยน” ของความปลอดภัยในไทย
โศกนาฏกรรมครั้งนี้ ต้องไม่ใช่แค่ข่าวที่ถูกลืมไปตามกาลเวลา แต่ต้องเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ต้องมีการดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ให้เกิดกรณี “เรื่องเงียบ” เหมือนในอดีต ต้องผลักดันกฎหมายความปลอดภัยสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการสร้างมาตรฐานที่เข้มแข็ง ต้องมีระบบตรวจสอบโครงการที่โปร่งใส ไม่ใช่ให้หน่วยงานที่มีผลประโยชน์เป็นผู้ตรวจสอบกันเอง
นี่คือเวลาที่เราต้องยืนหยัดเพื่อ “ความปลอดภัยของทุกคน” ไม่ใช่แค่ความรับผิดชอบที่มาพร้อมกับเงินเยียวยา เพราะมันหยุดโศกนาฏกรรมไม่ได้!
//////