• Original
  • Urban Culture
  • Writer
  • About us
  • คุยกับสส
  • The Persona
  • Brief
  • Thai Treasure
  • Urban life
  • On this day
  • News
  • Home
  • Editir pick
  • Good
  • Persona
  • Persona
  • Urban
  • Business
  • Politics
  • Playlist
  • Home
  • People Voice
  • Culture
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
  • Urban Wealth
  • Law
  • Update
  • I’m Youth Ranger
  • Urban History
  • Issues
  • Check

Subscribe to Updates

Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.

What's Hot

“จรวดBM-21” สัญญาณบอกเหตุ แม่ทัพกุ้งขอให้มั่นใจไร้รอยต่อ เปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 2

26/09/2025

กัมพูชาโต้ลั่น ! เคลื่อนย้ายกำลังพล-อาวุธ เป็นภาพเก่า ชี้ไม่มีพฤติกรรมยั่วยุ 

26/09/2025

เปิดหลักเกณฑ์ “คนละครึ่ง” 16 ปีขึ้นไป 33 ล้านสิทธิ เริ่มใช้ พ.ย.-ธ.ค.นี้

26/09/2025
Facebook Twitter Instagram
Facebook Twitter Instagram
The PublisherThe Publisher
  • P
    • Persona
    • Politics
    • People Voice
    • Playlist
  • U
    • Update
    • Urban
    • Urban Culture
    • Urban History
    • Urban life
    • Urban Wealth
  • B
    • Business
    • Brief
  • L
    • Law
    • I’m Youth Ranger
  • I
    • Issues
  • C
    • Check
  • About us
The PublisherThe Publisher
You are at:Home»ตีตก “สิริพรรณ-ชาตรี” จุดเริ่มต้นเกมแชร์อำนาจ “แดง-น้ำเงิน?”

ตีตก “สิริพรรณ-ชาตรี” จุดเริ่มต้นเกมแชร์อำนาจ “แดง-น้ำเงิน?”

19/03/20252 Mins Read
Facebook Twitter

การที่วุฒิสภา (ส.ว.) ลงมติ ไม่ให้ความเห็นชอบ ศาสตราจารย์ ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี และ ชาตรี อรรจนานันท์ ให้ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อาจไม่ใช่แค่เรื่องของกระบวนการพิจารณาคุณสมบัติหรือความเหมาะสมเพียงอย่างเดียว แต่อาจสะท้อนให้เห็นถึง เกมอำนาจ ที่กำลังเริ่มขึ้นระหว่าง สองขั้วอำนาจหลัก ที่ยังคงกำหนดทิศทางประเทศ

ผลโหวตที่ไม่ใช่แค่ “ความไม่เห็นชอบ”

แม้จะมี ส.ว. จำนวนมากออกมาอภิปราย สนับสนุน ทั้งสองคน โดยยกย่องทั้งความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่เหมาะสม แต่สุดท้ายกลับพบว่า มติที่ออกมาแตกต่างจากเสียงในห้องอภิปรายอย่างชัดเจน

  • สิริพรรณ นกสวน สวัสดี
  • เห็นชอบ: 43 เสียง
  • ไม่เห็นชอบ: 136 เสียง
  • งดออกเสียง: 7 เสียง
  • ไม่ลงคะแนน: 1 เสียง
  • ชาตรี อรรจนานันท์
  • เห็นชอบ: 47 เสียง
  • ไม่เห็นชอบ: 115 เสียง
  • งดออกเสียง: 22 เสียง
  • ไม่ลงคะแนน: 3 เสียง

คำถามสำคัญคือ ทำไมคนที่ได้รับการเสนอชื่อผ่านกระบวนการคัดเลือกอย่างถูกต้อง จึงไม่ได้รับเสียงสนับสนุนมากพอ?

เกมอำนาจระหว่าง “แดง” และ “น้ำเงิน” ที่ซ่อนอยู่

ศาลรัฐธรรมนูญเป็นหนึ่งในองค์กรอิสระที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อโครงสร้างอำนาจของประเทศ เพราะเป็นศาลที่สามารถ ชี้ขาดคดีความทางการเมือง กำหนดชะตานักการเมือง และพรรคการเมือง ซึ่งทั้งพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทยต่างก็เข้าใจอย่างลึกซึ้ง

พรรคเพื่อไทย มีนายกฯ 3 คน หลุดจากตำแหน่ง เพราะพฤติกรรมผิดกฎหมาย จนถูกศาลฯ ชี้ขาดให้พ้นนายกฯ ประกอบด้วย สมัคร สุนทรเวช รับเงินเดือนจากเอกชนในรายการ “ชิมไปบ่นไป” ,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โยกย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี เอื้อเครือญาติ พล.ต.อ. เพรียวพันธุ์ ดามาพงษ์ เป็น ผบ.ตร. และล่าสุด เศรษฐา ทวีสิน ผิดจริยธรรมร้ายแรงปมตั้ง พิชิต ชื่นบานเป็นรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่เป็นบุคคลที่เคยถูกคุมขังจากการละเมิดอำนาจศาลเป็นเวลา 6 เดือน กรณีถุงขนมสองล้าน

และในมุมกลับกัน “ทักษิณ ชินวัตร” ก็เคยได้ประโยชน์จากคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อครั้งซุกหุ้นภาคแรก ที่ทำให้เขาพ้นพงหนามครองอำนาจยาวนานเกือบห้าปี

นี่จึงเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทย ไม่น่าจะอยากพลาดโอกาสสำคัญในการเป็นส่วนหนึ่งที่จะกำหนดบุคคลที่จะเข้าไปทำหน้าที่สำคัญนี้

ส่วนพรรคภูมิใจไทย แกนนำคนสำคัญอย่าง “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” ก็ถูกชี้ขาดให้พ้นตำแหน่งรมว.คมนาคม เนื่องจากซุกหุ้น “บุรีเจริญ” และยังอยู่ระหว่างถูก ป.ป.ช.สอบต่อว่าซุกหุ้นยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จด้วยหรือไม่?

ดังนั้น การแต่งตั้งตุลาการใหม่ จึงไม่ใช่แค่การเลือกคนที่เหมาะสมทางแต่คือ อาจถูกมองว่าเป็นการเลือกฝ่ายที่จะคุมเกมกฎหมายในอนาคต

ฝ่าย “แดง” (เพื่อไทย)

เชื่อกันว่าการเสนอชื่อ สิริพรรณ และ ชาตรี เป็นส่วนหนึ่งของเกมอำนาจที่ต้องการสร้าง ดุลอำนาจใหม่ ในศาลรัฐธรรมนูญ หากทั้งสองได้รับตำแหน่ง อาจช่วยลดอิทธิพลของตุลาการที่มีแนวโน้มสนับสนุนฝ่ายอนุรักษนิยม แต่ก็อาจไม่ใช่คนที่พรรคเพื่อไทยต้องการก็ได้

ฝ่าย “น้ำเงิน” (ภูมิใจไทย)

ปัจจุบัน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญส่วนใหญ่ยังถูกครหาว่าตั้งโดยสว.ที่ คสช.เป็นผู้คัดเลือก การปฏิเสธรายชื่อใหม่ อาจเป็นการ รักษาสัดส่วนอำนาจของฝ่ายตนเอง และ ป้องกันไม่ให้เกิดการเปลี่ยนขั้วอำนาจในศาล

การตีตกครั้งนี้ อาจเป็นสัญญาณว่า “น้ำเงิน” ยังคงครองความได้เปรียบ และไม่ต้องการให้ “แดง” เข้าแทรกแซงอำนาจในศาลรัฐธรรมนูญ หรือ อาจเป็นเพราะสองฝ่ายตกลงที่จะแชร์อำนาจร่วมกัน เพื่อให้ได้คนที่ต่างฝ่ายต่างยอมรับ แลกกับประเด็นที่ สว.กำลังตกที่นั่งลำบากเรื่อง “ฮั้ว?”

นี่ยังเป็นคำถามที่รอการพิสูจน์ ซึ่งต้องดูรายชื่อใหม่ที่จะถูกเสนอขึ้นมาหลังจากนี้ด้วย

ทำไม ส.ว. จึงกลายเป็น “ของมีค่า” ในเกมนี้?

การโหวตเลือก ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นเพียงหนึ่งในหลายกระบวนการที่ ส.ว. ยังมีอำนาจในการแต่งตั้งกรรมการองค์กรอิสระ เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) , คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) , และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

อำนาจเหล่านี้ทำให้ ส.ว. กลายเป็น “สินทรัพย์ทางการเมือง” ที่มีค่า และถูกช่วงชิงจากกลุ่มอำนาจต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ค่าเหล่านี้จะหมดลงภายในปีนี้ เนื่องจากกระบวนการเลือกกรรมการองค์กรอิสระจะเสร็จสิ้นในปี 2568 หลังจากนั้น ส.ว. จะเริ่มมีความสำคัญทางการเมืองน้อยลง

ส.ว. เองก็กำลังเผชิญ “ความไม่แน่นอน” จากกรณีฮั้วโหวต

แม้ ส.ว. จะดูเป็นตัวแปรสำคัญในขณะนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า พวกเขาเองจะมั่นคงในอำนาจของตัวเอง เพราะกำลังถูกตรวจสอบทั้งเรื่อง” ฮั้ว “ที่อยู่ในมือ กกต.และ” ฟอกเงิน “ที่ DSI ตั้งคณะทำงานสอบสวนแล้ว อีกทั้งยังมีประเด็นที่ ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้การเลือกสว.เป็นโมฆะคาอยู่ด้วย

สัญญาณอะไรที่ต้องจับตาต่อไป?

กระบวนการคัดเลือกตุลาการใหม่ – ใครจะถูกเสนอชื่ออีก? เมื่อสองคนแรกถูกตีตก จะต้องมีการ เสนอชื่อบุคคลใหม่เข้าสู่กระบวนการสรรหา คำถามคือ ใครจะเป็นตัวเลือกใหม่? และจะเป็นคนของฝ่ายไหน?

เชื่อได้ว่า รัฐบาลเพื่อไทยจะต้องวางแผนรับมือกับกระบวนการคัดเลือกตุลาการชุดใหม่ ส่วนภูมิใจไทยก็คงไม่ทิ้งอำนาจที่กุมสภาสูงในมือไปง่าย ๆ สุดท้ายเกมอำนาจนี้จะรักษาสมดุลกันได้แค่ไหน การเมืองจะเข้าไปมีอิทธิพลต่อศาลรัฐธรรมนูญในอนาคตอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องจับตา

เกมอำนาจที่ประชาชนไม่ด้ประโยชน์ แต่อาจเสียหายหนัก

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ นี่คือเกมการเมืองที่ประชาชนไม่ได้ประโยชน์เลย ในขณะที่ การช่วงชิงอำนาจในองค์กรอิสระดำเนินไป ประชาชนอาจเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างรุนแรงหาก องค์กรที่ควรทำหน้าที่ตรวจสอบอำนาจรัฐ นักการเมือง และ พรรคการเมือง อย่างศาลรัฐธรรมนูญ ถูกครอบงำจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างอิสระ

หากศาลรัฐธรรมนูญกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองแทนที่จะเป็นองค์กรตรวจสอบอำนาจอย่างแท้จริง ผลกระทบที่ตามมาอาจเป็นความล่มสลายของหลักนิติธรรม และความเสื่อมถอยของประชาธิปไตยในประเทศไทย

การสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญครั้งต่อไป อาจเป็นตัวชี้วัดว่า ประเทศไทยยังมีกระบวนการยุติธรรมที่เป็นอิสระอยู่หรือไม่?

ศาลรัฐธรรมนูญ #สว #เกมอำนาจ #การเมืองไทย

Writer Publisher

Leave A Reply Cancel Reply

Demo
Editor Choices
Trendy

“จรวดBM-21” สัญญาณบอกเหตุ แม่ทัพกุ้งขอให้มั่นใจไร้รอยต่อ เปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 2

26/09/2025
Facebook Twitter Instagram TikTok

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

The publisher ใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ทําความเข้าใจ นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว อ่านเพิ่มเติม
ปฎิเสธ ตั้งค่าคุกกี้ ยอมรับ
Manage consent

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ที่จําเป็น
Always Enabled
คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
CookieDescription
cookielawinfo-checkbox-analyticsThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics".
cookielawinfo-checkbox-functionalThe cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional".
cookielawinfo-checkbox-necessaryThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary".
cookielawinfo-checkbox-othersThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other.
cookielawinfo-checkbox-performanceThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance".
viewed_cookie_policyThe cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data.
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo