มนุษย์เงินเดือน…หักภาษี ณ ที่จ่าย
แต่บางคน…ใช้ตั๋ว NP เลี่ยงจ่ายภาษี?
ในระบบภาษีไทย — เราถูกสอนว่า “คนทุกคนมีหน้าที่เสียภาษี”
แต่ในความเป็นจริง ไม่ใช่ทุกคนที่เสียภาษีในอัตราที่ควรจะเป็น
คนธรรมดาเสียภาษีเต็มพิกัด แต่คนรวย…วางแผนดีก็หนีภาษีได้!
Tax Planning – Tax Avoidance – Tax Evasion: เลี่ยง / หลบ / ละเมิด
การลดภาษีมี 3 ชั้นความหมาย
- Tax Planning: วางแผนอย่างถูกกฎหมาย เช่น ลงทุนในกองทุน LTF/RMF ซื้อประกัน ฯลฯ
- Tax Avoidance: เลี่ยงภาษีโดยใช้ช่องกฎหมาย เช่น โอนทรัพย์ให้มูลนิธิ ตั้งบริษัทถือทรัพย์ หลีกเลี่ยง “ฐานภาษีส่วนตัว”
- Tax Evasion: หลบเลี่ยงโดยผิดกฎหมาย เช่น ปกปิดรายได้, สร้างหนี้ปลอม, รายงานบัญชีเท็จ
คนธรรมดา ทำได้แค่ข้อ 1
คนรวย เชี่ยวชาญข้อ 2
และบางคน ก็เล่นถึงข้อ 3 — โดยไม่ถูกตรวจสอบเลย
ตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง (แต่คนทั่วไปไม่มีทางทำได้)
- บริษัทนอกอาณาเขต offshore
- มูลนิธิฯ
- ตั๋ว PN ระหว่างญาติ
ฯลฯ
ขณะที่มนุษย์เงินเดือน…แค่รับเงินเข้าบัญชี ก็ถูกหัก ณ ที่จ่ายทันที
ไม่มีช่องให้ลอด ไม่มีทางหนี ไม่มีที่ปรึกษา
สิ่งที่คนรวยมี…แต่คนธรรมดาไม่มี
คนรวย…มีที่ปรึกษาดี—คนธรรมดา…ไม่มีทนาย ไม่มีนักบัญชี
คนรวย…มีหลายรูปแบบรายได้—คนธรรมดา…มีแค่เงินเดือน
คนรวย…ทำเอกสาร “ซื้อขายในอนาคต—คนธรรมดา…ต้องจ่ายตอนนี้เลย
ทางลัดที่คนธรรมดาใช้ไม่ได้
ช่องว่างทางภาษี คือ Privilege ที่ซ่อนอยู่ในระบบกฎหมาย
ไม่ใช่ทุกคนรู้วิธีใช้ ไม่ใช่ทุกคนมีที่ปรึกษา
แต่คนบางกลุ่ม “โตมากับมัน” และใช้มันเป็นเรื่องปกติ
และนี่คือเหตุผลว่า ทำไมคนรวยจำนวนมาก “ไม่รู้สึกผิด” กับการเสียภาษีน้อย
เพราะเขามองว่าตัวเอง “วางแผนเก่ง ไม่ใช่โกง”
ขณะที่คนจน— กฎหมายคือสิ่งที่ “หลบไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว”
ภาษีควรสะท้อนความยุติธรรม ไม่ใช่แค่เทคนิค
การเมืองเรื่องภาษีคือเรื่องของอำนาจ
ใครออกแบบระบบ — ใครวางเพดาน — ใครรู้ทางหนีทีไล่
เราต้องเริ่มตั้งคำถามว่า
ช่องว่างที่คนธรรมดามองไม่เห็นนี้…ควรจะมีอยู่ต่อไปไหม?
และถ้าผู้นำประเทศเองยังใช้ช่องว่างเหล่านี้อย่าง “ชำนาญ”
สังคมไทยก็อาจไม่มีวันเห็นระบบภาษีที่เป็นธรรมอย่างแท้จริง
เราไม่ได้ต้องการระบบที่ทุกคนจ่ายเท่ากัน
แต่เราต้องการระบบที่ทุกคน” ถูกจัดเก็บอย่างเป็นธรรม”
ถ้าคุณรวย—จงรวยด้วยความสามารถ
แต่ถ้าคุณเลี่ยงภาษี…เพราะรู้ทางลัด ขณะที่คนอื่นต้องเดินทางตรง
ต่อให้คุณจ่ายภาษีมากกว่าคนทั้งประเทศ
แต่ถ้าคุณเลี่ยงเพื่อได้เปรียบ…
คุณไม่อาจเป็น “ผู้นำที่ซื่อสัตย์ “ได้เลย