ผศ.ดร.สานิต ศิริวิศิษฐ์กุล หัวหน้าศูนย์สำรวจความคิดเห็น นอร์ทกรุงเทพโพล มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,500 คน ในช่วงวันที่ 24–25 มีนาคม 2568 ภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มองว่า นายกรัฐมนตรีสามารถผ่านศึกอภิปรายครั้งนี้ไปได้ และยังคงรักษาระดับ “ความเชื่อมั่น” ได้ในระดับเดิม
ฝ่ายค้านหลักฐานไม่ชัด ประชาชนยังไม่ปักใจ
สำหรับความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปราย ประชาชนให้ความเห็นว่า
- น่าเชื่อถือมาก 20.5%
- ค่อนข้างน่าเชื่อถือ 21.7%
- ค่อนข้างไม่น่าเชื่อถือ 35.3%
- ไม่น่าเชื่อถือเลย 22.5%
ตัวเลขสะท้อนว่า ฝ่ายค้านยังไม่สามารถนำเสนอหลักฐานที่ชัดเจนพอจะสร้างแรงกระเพื่อมในสภาหรือสังคมได้
รัฐบาลรักษาความเชื่อมั่น 85% เห็นไม่ลดลง
เมื่อถามถึงระดับความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลภายหลังการอภิปราย พบว่า
- เชื่อมั่นเพิ่มขึ้น 25.7%
- เชื่อมั่นระดับเดิม 59.7%
- เชื่อมั่นลดลง 14.6%
สะท้อนว่าเสียงข้างมากของประชาชนยังไม่รู้สึกว่าการอภิปรายครั้งนี้ทำให้รัฐบาลเสียคะแนนมากนัก
ข้อมูลรัฐบาลตอบอภิปราย “น่าเชื่อถือ” 56.4%
ผลสำรวจยังชี้ว่า ประชาชนให้ความน่าเชื่อถือกับข้อมูลที่รัฐบาลใช้ตอบข้อซักถามของฝ่ายค้าน รวมแล้ว 56.4% โดยแบ่งเป็น
- น่าเชื่อถือมาก 30.1%
- ค่อนข้างน่าเชื่อถือ 26.3%
ขณะที่อีก 27.4% มองว่า “ค่อนข้างไม่น่าเชื่อถือ” และ 16.2% เห็นว่า “ไม่น่าเชื่อถือเลย”
ประชาชนอยากเห็นการอภิปรายดีขึ้น เน้นข้อมูลชัด-พฤติกรรมเหมาะสม
เมื่อสอบถามว่า ประชาชนอยากให้นักการเมืองปรับปรุงพฤติกรรมในการอภิปรายเรื่องใดมากที่สุด พบว่า
- การแสดงข้อมูลหลักฐานที่ไม่ชัดเจน – 20.7%
- พฤติกรรมการแสดงออกไม่เหมาะสม – 17.4%
- เนื้อหาการอภิปรายไม่ตรงประเด็น – 15.4%
- การยียวนกวน – 12.3%
- ความรุนแรงของการใช้ภาษา – 12.2%
- การอภิปรายไม่กระชับ วกวน – 11.9%
- การกล่าวหาให้ร้ายบุคคลภายนอก – 5.3%
- อื่น ๆ – 4.8%
คะแนน “แพทองธาร” จากประชาชนเฉลี่ยกลาง ๆ กระจายตั้งแต่ 1-10
นอกจากนี้ยังมีการให้ประชาชนให้คะแนนการอภิปรายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยใช้คะแนน 1–10 ปรากฏว่า
- คะแนน 6–7 ได้รับมากที่สุดที่ 29.2%
- คะแนน 5 ได้ 14.5%
- คะแนนต่ำสุด (1–3 คะแนน) รวมกัน 25.8%
- คะแนนสูงสุด (9–10 คะแนน) รวมกัน 12.9%
ภาพรวมสะท้อนการประเมินแบบกลาง ๆ จากประชาชนส่วนใหญ่ที่ยังเปิดโอกาสให้รัฐบาลเดินหน้า โดยไม่รู้สึกว่าศึกซักฟอกครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนทางการเมือง