เพียงแค่วันเดียวหลังการลงมติไว้วางใจ แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ แบบผ่านฉลุย ครม.ก็ผ่านความเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ. Entertainment Complex ยัดไส้ “กาสิโน” ที่สร้างแรงกระเพื่อมทางสังคม สะเทือนไปถึง “รัฐบาล” แม้ “นายกฯ” จะโชว์ตัวเลขเศรษฐกิจสวย ๆ แต่คนจำนวนไม่น้อยเห็น “คราวซวย” ของประเทศมากกว่า
ในขณะที่รัฐบาลย้ำว่า “กาสิโนเป็นเพียง 10% ของทั้งหมด” และ 90% คือโรงแรม ฮอลล์คอนเสิร์ต สวนน้ำ และธุรกิจบันเทิงอื่น ๆ …
สิ่งที่ประชาชนจำนวนมากเห็นคือ “นโยบายอบายมุขที่ซ่อนอยู่ภายใต้ข้ออ้างทางเศรษฐกิจ” ที่เต็มไปด้วยคำถามว่า “เศรษฐกิจของใคร?”
———-
กาสิโน ! ความเสี่ยงจากจีน-ม็อบไล่รัฐบาล
ไม่เพียงเสียงคัดค้านในประเทศจะดังระงม แม้แต่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ก็สะกิดเตือน นายกฯ เมื่อครั้งไปเยือนจีน
แพทองธารเล่าเองว่า “…ผู้นำจีนได้ให้ข้อแนะนำว่าการมีกาสิโนอาจนำไปสู่ปัญหาต่างๆ ซึ่งรัฐบาลไทยยืนยันว่า พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะของจีน และจะนำไปศึกษาเพิ่มเติม…”
ก็ไม่รู้ว่านายกฯ จะตระหนักบ้างไหม? ว่า จีนห้ามประชาชนเล่นการพนันทั้งในและนอกประเทศ หาก Entertainment Complex ไทยถูกมองว่าเปิดช่อง “เล่นพนันต่างแดน” อาจส่งผลให้จีนอาจตัดไทยออกจากลิสต์ปลายทางท่องเที่ยวได้ทุกเมื่อ…แล้วท่องเที่ยวไทยที่พึ่งนักท่องเที่ยวจีนเป็นหลักจะได้รับผลกระทบอย่างไร?
การเมืองต่างประเทศว่าร้อน ในประเทศก็ระอุ เพราะทันทีที่ ครม.ผ่านความเห็นชอบ “กาสิโน” ม็อบหน้าทำเนียบก็นับหนึ่งขับไล่รัฐบาลทันที แม้จุดเริ่มต้นจำนวนคนอาจยังไม่มาก แต่ จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน หนึ่งในแกนนำขับเคลื่อนการชุมนุม เตือนว่า “อย่าประมาทประชาชน เมื่อชนวนจุดติด ชั่วพริบตาก็มืดฟ้ามัวดิน”
———
ถอดบทเรียน…ทำไมจีน say NO’ to กาสิโน!?”
รศ. ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เขียนบทความอธิบายเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจ มีใจความโดยสรุปว่า…
แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้จีนเปิดกาสิโนและพนันออนไลน์อย่างถูกกฎหมาย เพื่อป้องกันเงินไหลออกนอกประเทศจากชาวจีนที่เล่นพนันในต่างแดน รวมถึงมูลค่าเดิมพันออนไลน์ที่สูงกว่า 145,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี แต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงยืนยันจุดยืนไม่ส่งเสริมการพนันทุกรูปแบบ โดยให้เหตุผลว่าผลเสียทางสังคมและอาชญากรรมที่ตามมาไม่อาจชดเชยได้ด้วยรายได้ภาษี
จีนจึงใช้ทั้งมาตรการปราบปรามในประเทศและกดดันประเทศเพื่อนบ้านผ่านช่องทางการทูต ไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา พม่า หรือฟิลิปปินส์ ให้ยกเลิกหรือจำกัดกิจกรรมพนันที่เกี่ยวข้องกับชาวจีน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมพฤติกรรมเสพติดพนันของประชาชน เพราะเมื่อชาวจีนติดพนันก็นำมาซื่งการฉ้อโกง การฟอกเงิน การลักพาตัว การกักขัง การค้ามนุษย์ และการลักลอบค้ายาเสพติด…
เมื่อรัฐบาลไทยเลือกที่จะเดินบนเส้นทาง “กาสิโน” ต้องยอมรับความเสี่ยงที่จะถูกกดดันจากจีนด้วย
⸻
“แพทองธาร” อ้างผลดีเศรษกิจ—“สีจิ้นผิง” เลือก “สังคมปลอดอบายมุข!
มีการประเมินรายได้รัฐจากกาสิโนจากนายกฯ ว่า จะได้ราว 3,264 ล้านบาทต่อปี ส่วนรายได้ภาษีรวมจากทั้งคอมเพล็กซ์ คาดว่าระหว่าง 12,000 – 39,000 ล้านบาท
ส่วนประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ยอมทิ้งมูลค่าเดิมพันออนไลน์ที่สูงกว่า 145,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี เพื่อรักษาชาติให้มั่นคง…รศ. ดร.ชิดตะวัน เขียนไว้ในบทความ ทำไม? จีน say NO’ to กาสิโน! ตอนหนึ่งว่า…
“จุดยืนปธน.สีจิ้นผิง ชัดเจนมาตลอดว่า รัฐบาลจีนไม่คิดนำการพนันทุกประเภทเป็นกิจกรรมถูกกฎหมาย แม้ภาครัฐจะมีรายได้มหาศาลจากการนำธุรกิจใต้ดินเหล่านี้มาอยู่บนดินมากเพียงใด ก็ไม่อาจเทียบได้กับความเสียหายทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น จากการที่ชาวจีนจำนวนมากกลายเป็นผีพนัน”
ส่วนรัฐบาลไทยกำลังเดินหน้าในทิศทางที่ตรงกันข้าม แถมไร้มาตรการชัดเจนในการรับมือกับผลกระทบทางสังคมที่จะตามมา
และคำถามที่ใหญ่ที่สุด
หากจีนอาจ “งดส่งนักท่องเที่ยว” เพราะไม่สนับสนุนการพนัน แล้วตัวเลขคาดการณ์รายได้ทั้งหมด…ยังน่าเชื่อถืออยู่หรือไม่?
ในเมื่อ “จีนคือประเทศต้นทางนักท่องเที่ยวอันดับ 1 ของไทย”
หรือชะตากรรมแพทองธาร…จะซ้ำรอยทักษิณ ”เผ่นนอก?“
พิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. ปลุกเร้าประชาชนให้ลุกขึ้นต่อต้าน โดยชี้ถึงพิษภัยกาสิโน พนันออนไลน์ถูกกฎหมายว่า ไม่เพียง ไม่ทำให้คนไทย ”มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี“ ตามคำหาเสียงของนายกฯ เท่านั้น ตรงกันข้ามการติดการพนันออนไลน์ เข้ากาสิโน มีแต่จะทำลายเกียรติ ทำลายศักดิ์ศรี หมดตัว ไม่มีกิน ไร้บ้าน จึงต้องขับไล่รัฐบาล
ขณะที่ จตุพร เตือนว่า…ถ้ารัฐบาลพร้อมทำสงคราม ให้ระลึกไว้ด้วยว่า ทักษิณ เคยมีเสียงในสภาฯ 377 เสียงมากกว่ารัฐบาลแพทองธาร ยังต้องหนีออกนอกประเทศถึง 17 ปี น้ำหน้าอย่างคุณจะทนแรงเสียดสีจากประชาชนได้อย่างไร
สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่แค่เสียงคัดค้านของม็อบ
แต่คือ ต้นทุนที่รัฐบาลอาจยังประเมินต่ำไป ในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สภาพสังคม และความเชื่อของผู้คน