โดย The Publisher
⸻
คนจนเสียภาษี…เพราะไม่มีช่องให้เลี่ยง
คนรวยเสียภาษี…เท่าที่จำเป็นต้องทำ…เพราะรู้ช่องทางจะไม่ต้องจ่าย
⸻
คำกล่าวข้างต้น อาจอยู่ในใจหลายคน ยิ่งเพิ่งผ่านการลงมติญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจไปหมาด ๆ และนายกฯ แพทองธาร ก็ผ่านมันไปได้อย่างง่ายดาย ชิลจนถึงขั้นถ่ายภาพเป็นที่ระลึกในสภาฯ กันเลยทีเดียว
แต่ในใจของประชาชนยัง “หนักอึ้ง “อยู่…
หนักเพราะไม่แน่ใจว่า” ผู้นำประเทศ “มีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงภาษีหรือไม่?
คนจนเสียภาษี…เพราะไม่มีช่องให้เลี่ยง หรือบางทีเขาก็ไม่ได้คิดซับซ้อนที่จะต้องบริหารภาษีใด ๆ เพราะคิดว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องจ่ายเพื่อคืนกลับให้ประเทศซึ่งเป็นแผ่นดินเกิด
คนรวยเสียภาษี…เท่าที่จำเป็นต้องทำ…เพราะรู้ช่องทางที่จะไม่ต้องจ่าย” อย่างถูกต้องตามกฎหมาย “เหมือนที่กำลังมีการตั้งข้อสงสัยกับ” นายกฯ แพทองธาร “ในขณะนี้ เพราะไม่มีใครสงสัยหรอกว่า” ท่านเสียภาษีมากกว่าคนอื่นแค่ไหน?”
“เงินเดือน” = รายได้ที่ถูกตรวจสอบง่ายที่สุด
ความเหลื่อมล้ำในระบบภาษี ถ้าเรามองเป็นห่วงโซ่” มนุษย์เงินเดือน “ดูจะอยู่ในห่วงโซ่ที่ไม่มีทางดิ้นหลุดในระบบนี้ เพราะ…
มนุษย์เงินเดือนต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย
ไม่ว่าจะเงินเดือนมากหรือน้อย รายได้ประจำชัดเจน
ไม่มีทางหลบเลี่ยง ไม่มีที่ปรึกษาภาษี
ในขณะที่คนมีรายได้หลายทาง—จากหุ้น ทรัพย์สิน ค่าเช่า ค่าธรรมเนียม ฯลฯ
สามารถ “จัดโครงสร้าง” รายได้ เพื่อเสียภาษีให้น้อยที่สุด
หรือในบางกรณี…ไม่ต้องเสียเลย【1】
พวกเขาเรียกวิธีการนี้ด้วยศัพท์สวย ๆ ว่า” เป็นการบริหารภาษีอย่างชาญฉลาด “แต่มันดีสำหรับประเทศหรือไม่? ไม่เคยได้รับคำตอบ เพราะ” ไม่เกี่ยวกับจริยธรรม “เป็นเรื่อง” กฎหมายล้วน ๆ”
คนมีต้นทุนชีวิตดี…ย่อมมีทางเลือกมากกว่า
ความแตกต่างใน” ต้นทุนชีวิต “ของแต่ละคนในสังคม ทำให้ไม่เพียงมีชีวิต ใช้ชีวิตต่างกัน แต่ยังมีหนทางต่างกันด้วย โดยเฉพาะเรื่องการ” จ่ายภาษี “คนต้นทุนดี อาจจะ..
- ตั้งบริษัทเพื่อ “รับรายได้แทนบุคคลธรรมดา” ทำให้หักค่าใช้จ่ายได้มาก
- จดทรัพย์สินไว้ในชื่อบริษัทหรือมูลนิธิเพื่อลดภาระภาษี
- แยกรายได้หลายทาง ลงเป็น “รายรับอื่น” ที่ถูกตีความได้หลากหลาย
- หลีกเลี่ยง “ฐานภาษีบุคคล” ซึ่งอัตราก้าวหน้าสูงสุดถึง 35%【2】
คนรวยรู้เรื่องพวกนี้
มีที่ปรึกษา มีโครงสร้าง มีช่องกฎหมาย
ขณะที่คนธรรมดา…มีแค่เงินเดือน
เงินเดือน…ที่ใช้จ่ายในแต่ละวันบางทียังไม่พอ จะเอาปัญญาที่ไหนไป” บริหารภาษี?”
“ฉันเสียภาษีมากกว่าพวกเธอ”
เป็นวาทกรรมที่ผู้คนจดจำได้ดี จากปากของ “ทักษิณ ชินวัตร” ระหว่างการปราศรัยเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2549 ที่หน้าศาลกลางจังหวัดชลบุรี “ผมเป็นนายกฯ ที่ทำมาหากินสุจริต เอะอะอะไรก็บอกว่าไม่เสียภาษี ผมเสียภาษีเยอะกว่าพวกมันรวมกันทั้งประเทศอีก”
ผ่านไป 19 ปี วาทกรรมจากรากความคิดเดียวกันถูกผลิตซ้ำโดยลูกสาว “แพทองธาร ชินวัตร” ขณะดำรงตำแหน่งเหมือน “พ่อ” และกำลังถูกกล่าวหาเหมือน “พ่อ” ว่า หลีกเลี่ยงภาษีด้วยการทำนิติกรรมอำพราง ใช้ตั๋ว PN เลี่ยงภาษีรับให้ เธอสวนกลับ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคประชาชน ที่เป็นผู้เปิดแผลนี้ว่า “…แม้ดิฉันจะอายุน้อยกว่าท่าน แต่มั่นใจว่า เสียภาษีให้รัฐมากกว่าท่านแน่นอน”
วิธีอธิบายว่า “เสียภาษีมากกว่าคนอื่น” บอกอะไรได้บ้าง
บอกได้ว่า…
“ฉันเสียภาษีเยอะ…เพราะฉันมีรายได้มหาศาล…มากกว่าคนในประเทศนี้…มากกว่าคนที่วิจารณ์ฉัน”
แต่การเสียภาษีเยอะ…ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเสียภาษีอย่างเป็นธรรมกับประเทศนี้
โครงสร้างภาษีไทย: จัดเก็บจากคนจนมากกว่าคนรวย
ในทุก ๆ วัน เกือบทุกคนต้องจ่ายภาษี เพราะทุกครั้งที่ซื้อสินค้าจะถูกหักไป 7 % แต่…คนรวยเลี่ยงได้ ด้วยการใช้บริษัทออกค่าใช้จ่ายส่วนตัว
คนจนไม่มีทางลดหย่อน นอกจากมีพ่อแม่ต้องดูแล มีคนพิการที่ต้องรับผิดชอบ หรือถ้าพอมีเงินอยู่บ้างก็อาจใช้ LTF, RMF, ประกัน, บริจาค มาเป็นตัวช่วย ซึ่งทั้งหมดก็สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า เป็นการทำอย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องคิดซับซ้อนซ่อนเงื่อน หรือบริหารภาษีด้วยการทำนิติกรรมอำพรางแต่อย่างใด
ระบบการจัดเก็บภาษีที่เป็นอยู่จึงเป็นไปในลักษณะที่…
รัฐเก็บรายได้ผ่านภาษีทางอ้อมมากกว่าทางตรง
ส่งผลให้ภาระภาษีถูกผลักไปอยู่กับคนที่ไม่มีอำนาจต่อรองใด ๆ 【5】
แล้วเราควรเก็บภาษีอย่างไรให้เป็นธรรม?
ความเป็นธรรมทางภาษี (Tax Justice) ไม่ใช่แค่เรื่อง “ใครจ่ายเท่าไหร่”
แต่คือคำถามว่า “จ่ายตามความสามารถ หรือจ่ายเพราะไม่มีทางหนี?”
ประเทศพัฒนาแล้วหลายแห่ง เช่น ฟินแลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส
มีระบบภาษีที่ก้าวหน้าอย่างแท้จริง
เพราะจัดเก็บจากฐานความมั่งคั่งและรายได้รวมของครัวเรือน
ไม่ใช่แค่จากเงินเดือนประจำของมนุษย์เงินเดือน
ภาษีไม่ใช่แค่เรื่องบัญชี…แต่มันคือเรื่องอำนาจ
ถ้าภาษีเป็นเครื่องมือสร้างรัฐ
โครงสร้างภาษีจะสะท้อนว่า “รัฐเอียงเข้าหาใคร”
เราจึงต้องตั้งคำถาม
ว่าทำไมภาษีในประเทศไทย
ถึงทำให้คนที่จน…จนยิ่งกว่าเดิม
และคนที่รวย…มีทางรอดมากกว่าทุกคน?
นั่นหมายถึงว่า…เพราะผู้ปกครองเป็นผู้กำหนดนโยบาย และ…ผู้มีอำนาจส่วนใหญ่ คือชนชั้นนำที่มีฐานะ กฎเกณฑ์ที่ออกโดยใครก็มักปกป้องคนนั้น โดยมีประชาชนเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น!
หมายเหตุ : งานชิ้นนี้คือบทสนทนาระหว่าง “คนเขียน” และ “เครื่องมือ” ที่ช่วยกันร่างคำถาม กลั่นความจริง และจัดวางเรื่องราว เพราะเรายังเชื่อว่า…เครื่องมืออาจช่วย “มอง” ได้ไกล แต่ “ความหมาย” ต้องมาจากคนเขียนเสมอ
⸻
เชิงอรรถ:
【1】กรณีศึกษาการวางแผนภาษีของผู้มีรายได้สูง: TDRI Policy Brief, 2563
【2】กรมสรรพากร, ตารางอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปี 2566
【3】ทักษิณ ชินวัตร: คำให้สัมภาษณ์กรณีขายหุ้นชินคอร์ป, มีนาคม 2549
【4】แพทองธาร ชินวัตร: คำอภิปรายไม่ไว้วางใจ 24 มีนาคม 2568
【5】TDRI & World Bank, “Thailand’ s Tax Structure and Inequality” , 2021
⸻