ทันทีหลังศึกซักฟอก คณะรัฐมนตรีมีมติ “เห็นชอบหลักการ” ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา จุดชนวนเสียงคัดค้านจากเครือข่ายภาคประชาสังคมกว่า 100 องค์กรทั่วประเทศ ที่ออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลและจี้ให้ทุกพรรคการเมืองแสดงจุดยืนต่อกฎหมายฉบับนี้
แถลงการณ์ระบุว่า รัฐบาลเร่งรีบผลักดันกฎหมายสำคัญฉบับนี้เข้าสภาอย่างผิดสังเกต โดยไม่สนเสียงทักท้วงจาก ส.ส. นักวิชาการ และภาคประชาชน พร้อมชี้ว่าร่างกฎหมายยังมีข้อหละหลวมหลายประการ ทั้งการเปิดให้มีกาสิโนไม่จำกัดจำนวน ความไม่ชัดเจนของขนาดพื้นที่หรือเป้าหมายผู้ใช้บริการ และการมอบอำนาจกว้างขวางแก่คณะกรรมการนโยบายโดยไร้กลไกตรวจสอบ
นอกจากนี้ ยังเปิดช่องให้มีการยกเว้นกฎหมายหลายฉบับเพื่อเอื้อประโยชน์แก่นักลงทุนต่างชาติ รวมถึงอนุญาตจัดการพนันที่เคยผิดกฎหมาย และทำให้หนี้จากการพนันสามารถฟ้องร้องบังคับได้ตามกฎหมาย
ภาคประชาสังคมยังเตือนว่า การปล่อยให้กฎหมายนี้เดินหน้าโดยไม่มีการรับฟังประชาชนหรือจัดประชามติในพื้นที่ จะนำไปสู่ความไม่ไว้วางใจในกระบวนการออกกฎหมาย และเพิ่มโอกาสให้กลุ่มทุนเข้ามาต่อรองผลประโยชน์ในชั้นกรรมาธิการ
“รัฐบาลจงใจผลักภาระไปให้สภา ทั้งที่รู้ว่ากลไกนั้นเต็มไปด้วยการต่อรองจากผู้มีผลได้เสีย” ตอนหนึ่งในแถลงการณ์ระบุ
เครือข่าย 100 องค์กรยังเรียกร้องให้พรรคการเมืองประกาศจุดยืนชัดเจน และให้วุฒิสภาจัดกระบวนการรับฟังความคิดเห็นอย่างทั่วถึง พร้อมประกาศเดินหน้าคัดค้านร่างกฎหมายนี้ทุกช่องทางตามสิทธิตามกฎหมาย
แถลงการณ์ลงนามโดยหลากหลายองค์กร เช่น มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก สมาคมเพื่อสันติภาพภาคประชาชน และเครือข่ายภาคประชาชนจาก 4 ภูมิภาค