“น้ำผึ้ง“ พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล อดีตสส.กระบี่ เล่าเรื่องสุดอบอุ่นหัวใจ ในโศกนาฏกรรมแผ่นดินไหว จนตึกสตง.ถล่ม เธอเปิดเรื่องไว้ในเฟซบุ๊กว่า “เมื่อหัวใจอาสาเคลื่อนไหว พื้นโลกก็อุ่นขึ้นเสมอ” ก่อนจะถ่ายทอดประสบการณ์อบอุ่นว่า…
วันที่กรุงเทพฯ สั่นสะเทือนจากแรงแผ่นดินไหว แต่กลับไม่ใช่กาญจนบุรีที่สะเทือนที่สุด ฉันที่อยู่ในพื้นที่ไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ทันทีที่ทราบข่าว ฉันรีบตีรถกลับกรุงเทพทันทีเพราะห่วงพ่อ โทรศัพท์ล่มทั้งระบบ ฉุกละหุกทั้งครอบครัว น้องรีบไปรับหลานจากโรงเรียน ทุกอย่างรวดเร็วและวุ่นวาย
4 ชั่วโมงแห่งการเดินทางผ่านเศษซากของตึกถล่ม ภาพจากทางด่วนที่มองลงมา… ฉันนึกว่าเป็นภาพ AI จนกระทั่งรู้ว่ามันคือเรื่องจริง ความเศร้า ความวังเวง แผ่ซ่านทันที ฉันเฝ้าดูข่าวแต่รัฐบาลกลับเงียบเกินไป ไม่มีการแถลง ไม่มี SMS เตือนภัย มีเพียงประชาชนที่สื่อสารกันเองเหมือนตอนสึนามิเมื่อยี่สิบปีก่อน
ฉันรู้ทันทีว่า “หัวใจอาสา” ต่างหากที่เป็นกำลังหลักของประเทศนี้ และฉันก็พร้อมเป็นหนึ่งในนั้น
ฉันไม่รู้จักใครในพื้นที่กรุงเทพที่จะลงมือช่วยได้ในทันที แต่แล้วโชคชะตาก็พาให้เห็นเพื่อนใน LINE กลุ่มหนึ่งเป็นหัวหน้าทีมอาสา ฉันรีบส่งข้อความไปบอกว่า ถ้ามีอะไรเร่งด่วนบอกมาได้เลย ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีข้อแม้
เช้าวันนั้น…พี่อัศวินหัวหน้าอาสา ขอเพียง “พัดลมไอเย็น” เพราะอากาศร้อนเกินไป ทุกคนเหนื่อยมาก ฉันค้นหาร้านเช่า เจอ “น้องเป้า” เจ้าของร้านที่ตอบตกลงทันทีว่าให้เช่า 8 เครื่อง ราคามิตรภาพ พร้อมนัดส่งของโดยเร็ว
แม้แขนฉันเจ็บ ขับรถไม่สะดวก ฉันก็โทรหาพี่บัว พี่สาวที่เหมือนครอบครัว พร้อมหลานสาว “หนูลีโล” ที่กำลังเรียนประกันภัย ทั้งสองคนรีบวิ่งมาช่วยทันทีโดยไม่ถามสักคำ
ระหว่างทาง พี่อัศวินส่งข้อความเพิ่มเติม ขอหมวกนิรภัย หน้ากาก ผ้าคลุม ถุงมือ ฉันรีบประสาน “แนน” เพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จัก เธอวิ่งไปซื้อให้หมดแบบไม่ลังเล รวมถึงสายไฟ 90 เมตรราคากว่าหมื่น แนนก็ยังช่วยติดต่อช่างไฟจากนครศรีฯ ที่ร่วมแรงร่วมใจกันแบบไม่มีข้อแม้
เมื่อถึงพื้นที่ ฉันเจรจากับตำรวจขอเข้าไปส่งของ มอบเครื่องพัดลมให้ทีมเคไนน์ และเห็นหมาน้อยทุกตัวนอนหมดแรงอยู่ใต้พัดลมเย็น ๆ ข้างๆ เจ้าของที่นั่งหมดแรงดื่มน้ำภาพนั้นบีบหัวใจ และทำให้ฉันมั่นใจว่าความช่วยเหลือของเรามีคุณค่า
น้ำใจของไทยคือสิ่งที่ไม่มีวันหมด ฉันเห็นคนแจกน้ำ แจกข้าว แจกก๋วยเตี๋ยว แจกทุกอย่างที่เขามี แม้ในยามยาก
เมื่อฉันจะจ่ายค่าเช่าพัดลม “น้องเป้า” กลับบอกว่าไม่ต้องคิดตามราคาที่ตกลงไว้ ขอร่วมบุญด้วย ขอแค่ค่ารถและค่าคนส่งพอ โอ้โห…น้ำใจแบบนี้มันซึ้งใจจริง ๆ
ในความโกลาหลของภัยพิบัติ ฉันเห็นพลังของความเป็นมนุษย์ที่แท้จริง
เราอาจไม่มีอำนาจ แต่เรามีหัวใจ
หัวใจที่พร้อม “อาสา” อย่างไม่มีเงื่อนไข
หัวใจที่รวมพลังกันเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
หัวใจที่บอกว่า…แม้น้ำจะไหลไป แต่ความหวังยังไหลกลับมาเสมอ