เหตุตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ออกมาส่งสัญญาณเตือนถึงความล้มเหลวเชิงโครงสร้าง ไม่ใช่แค่โครงสร้างตึก แต่คือโครงสร้างระบบการจัดซื้อจัดจ้างและการกำกับดูแลของภาครัฐ
ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT เปิดเผยกับ The Publisher ว่า แม้โครงการนี้จะมีข้อตกลงคุณธรรม แต่การเข้าไปสังเกตการณ์เกิดขึ้นหลังการประมูลและลงนามในสัญญาเรียบร้อยแล้ว จึงเป็นการตรวจสอบย้อนหลัง ไม่ได้มีบทบาทตั้งแต่ร่าง TOR และการออกแบบ ซึ่งเป็นจุดสำคัญของการแก้ปัญหาตามพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง โครงการเกินพันล้านบาท ต้องมีข้อตกลงคุณธรรม แต่กลับไม่ได้ดำเนินการอย่างจริงจังตามกฎหมาย กรณีนี้เมื่อเข้าไปร่วมสังเกตการณ์ก็พบว่ามีความล่าช้าต่อเนื่อง เลื่อนมาแล้วถึงสองครั้ง ล่าสุดกำหนดเสร็จในเดือนสิงหาคม 2568 แต่ก็เชื่อว่าจะเสร็จไม่ทัน
“ผู้ว่า สตง.ก็แสดงท่าทีว่าถ้าแก้ไขไม่ได้ ก็จะต้องยกเลิกสัญญา ผู้รับเหมาจะต้องถูกขึ้นแบล็กลิสต์ห้ามรับงานราชการตลอดไป แต่ต้องบอกว่าผู้สังเกตการณ์เข้าไปโครงการนี้หลังจากมีการทำสัญญาก่อสร้าง ประมูลหาตัวผู้รับเหมาไปแล้ว เพราะฉะนั้นการตรวจสอบจึงเป็นการติดตามย้อนหลังและเหตุการณ์เฉพาะหน้า”
ก่อสร้างล่าช้าอ้างโควิด!
ความล่าช้าในโครงการนี้มีการอ้างถึงปัญหาโควิด
แต่หลังจากนั้นโครงการก่อสร้างอื่นก็ดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง แต่โครงการนี้ก็ยังมีปัญหาต่อเนื่องมาเป็นระยะ ซึ่งก็มีคนพูดว่าเคราะห์ดีที่ยังสร้างไม่เสร็จเพราะถ้ามีคนเข้าทำงานแล้วความสูญเสียจะมากกว่านี้
ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องไปพิสูจน์ยืนยันว่าการก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ มีการใช้วัสดุถูกต้องเหมาะสมหรือเปล่า? การออกแบบเป็นไปตามกฎหมาย หลักวิชาการป้องกันแผ่นดินไหวได้หรือไม่? เราได้เห็นสภาวิศวกรรมสถาน สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม และกทม.เข้าไป ล่าสุดดีเอสไอโดยรมว.ยุติธรรม สั่งการให้ตรวจสอบว่าการทำงานของบริษัทนี้ทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายของไทยหรือไม่? เป็นเรื่องดีเราต้องช่วยกันพิสูจน์เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้อีกในอนาคต เสียชื่อเสียงประเทศไทย
ข้อตกลงคุณธรรมต้องใช้ได้จริง…ไม่ใช่” คุณน่ะทำ”
ดร.มานะย้ำว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่รัฐต้องหันมาให้ความใส่ใจในเรื่องข้อตกลงคุณธรรมตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง ให้โครงการเกินกว่าพันล้านบาท ต้องใช้ข้อตกลงคุณธรรมตั้งแต่เริ่มเขียน TOR จะทำให้มีตัวแทนภาคประชาชนรู้เห็น มีส่วนในการตรวจสอบแต่โครงการนี้ร่วมหลังได้รับผู้รับเหมาแล้ว TOR จบแล้ว จึงทำให้การตรวจสอบไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร การแสดงความคิดเห็นไม่เต็มที่เท่าที่ควร และทำให้ประชาชนเกิดข้อกังขาในเรื่องความโปร่งใส” ควรตรวจสอบให้ชัดด้วยว่าโครงการนี้เกิดปัญหาอะไร ทำไมผู้สังเกตการณ์ได้เข้าไปหลังทำทีโออาร์และได้ผู้รับเหมาแล้ว เหตุใดไม่ใช้ข้อตกลงคุณธรรมตั้งแต่แรก
ตึกถล่ม…สะท้อนความโปร่งใสต้องรีบปรับปรุง
ประธาน ACT ยืนยันว่า ภาคเอกชน ประชาชนที่พร้อมเป็นอาสาสมัครดูแลผลประโยชน์ประเทศชาติ เขาพร้อมอยู่แล้ว ถ้าจากนี้รัฐบาลใส่ใจดูแลโครงการให้ทุกหน่วยงานทำตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง ถ้าติดขัดงบประมาณก็เพิ่มงบประมาณให้ เชื่อว่าทุกอย่างจะครอบคลุมไปด้วยดี อย่าให้มีข้ออ้างงบประมาณหรือข้อติดขัดอื่น โครงการเริ่มแล้วจะล่าช้า เป็นข้ออ้างที่ไม่ถูกต้อง ไม่สมควรมี
“ข้าราชการและรัฐมนตรีต้องหันมาทบทวนตัวเอง อยากให้รัฐสภามีการตรวจสอบด้วยว่า ข้อตกลงคุณธรรมเป็นมาตรการใน พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างสมควรจะต้องมี ครม.ก็มีมติสนับสนุนในเรื่องนี้ แต่ใคร? ทำให้เกิดสภาพเช่นนี้ขึ้นมาทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นนักการเมือง ไม่เชื่อมั่นกระบวนการใช้งบประมาณและการใช้ทรัพยากรของรัฐ แก้ไขให้ถูกต้องได้ ภาคประชาชนยังพร้อมให้การสนับสนุน” ดร.มานะ กล่าวด้วยเสียงหนักแน่น
2 ปีรัฐบาลแพทองธาร ไร้เจตจำนงต้านคอร์รัปชัน
ตลอดเกือบสองปีของรัฐบาลปัจจุบัน ไม่พบท่าทีของรัฐบาลเกี่ยวกับการต่อต้านคอร์รัปชัน มีแต่การพูดถึงปัญหาเฉพาะหน้า แต่ไม่พูดการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างเป็นเรื่องที่อันตรายสำหรับประเทศไทย มีหลายเรื่องที่ค้างคาใน ป.ป.ช.และสำนักงาน ปปท. รอนโยบายที่ชัดเจนของรัฐบาล การที่รัฐบาลไม่พูด ไม่ทำอะไรให้ชัดเจน ทำให้ข้าราชการนิ่งรอดูว่าผู้นำจะเอาจริงหรือเปล่า? เพราะเขากลัว ห่วงในสวัสดิภาพ อนาคตของตัวเขาเอง
“ทำอย่างนี้คนโกงจะยิ่งเหลิง ยิ่งได้ใจ ต่างชาติก็รู้ปัญหาที่เกิดในประเทศไทย”
CPI ต่ำ รัฐบาล “ตกต่ำ” แก้คอร์รัปชัน
ประเทศไทยเต็มไปด้วยปัญหาคอร์รัปชันทั้งภาครัฐและเอกชน ภาครัฐตกต่ำย่ำแย่ รัฐบาลไม่ใส่ใจดูแล ในภาคเอกชนจะต้องช่วยกันรณรงค์ให้ชัดเจนว่า “การทำธุรกิจไม่โกงก็รวยได้ บริษัททุกขนาด ทุกประเภทต้องมาพูดกันว่าจะไม่โกงธุรกิจ ไม่โกงสังคม ไม่โกงสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่ ACT และภาคเอกชนจะรณรงค์ร่วมกัน ขอให้รัฐบาลคนที่เป็นนักการเมือง กินภาษีประชาชน อาสาตัวมาทำงาน บอกว่าทำเพื่อบ้านเมือง พิสูจน์ตัวเองให้ได้ก่อน
“ดัชนีการรับรู้การทุจริต หรือ CPI ปี 2567 ของประเทศด้วยที่ต่ำสุดในรอบ 12 ปี ได้คะแนนเพียงแค่ 34คะแนน อยู่ในอันดับ 107 ทำให้ประเทศไทยเสียความเชื่อมั่น เราได้เห็นว่าประชาชนไม่มั่นใจในความปลอดภัย ข้าราชการที่ทำงานตามอาคารสำนักงานก็หวาดกลัว รัฐบาลต้องเปิดเวทีสาธารณะว่าเกิดอะไรขึ้น มีเจตจำนงในการสร้างความโปร่งใสอย่างไร? ภาคเอกชน ภาคประชาชนพร้อมคุยด้วยตลอด อย่าใช้วิธีการนิ่งเงียบเหมือนสองปีของการบริหารที่ผ่านมา”