ภาพน้ำตาไหลพรากของ “คิมซูฮยอน” อีกหนึ่งพระเอกเบอร์ใหญ่ ฝีมือระดับพระกาฬของเกาหลีใต้ในงานแถลงข่าวกลายเป็นไวรัลที่สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหู ทั้งจากสื่อและชาวเน็ต หลังพระเอกหนุ่มถูกกระแสโจมตีอย่างหนักจากประเด็นถูกแฉว่าเขาเคยคบกับนักแสดงสาว “คิมแซรน” ผู้ล่วงลับ ตั้งแต่เธอยังเป็นเพียงแค่เด็กอายุ 15 ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
ในตอนหนึ่งของการแถลงข่าว คิมซูฮยอน ปล่อยโฮกลางวงสัมภาษณ์ พร้อมตอบคำถามที่สังคมตั้งข้อสงสัยด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ ยอมรับว่า “เขาเคยคบกับคิมแซรนจริง” แต่แค่ปีเดียว และยืนยันว่าไม่ได้คบกันช่วงที่เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ แม้จะถูกยูทูบเบอร์ช่องดังของเกาหลีปาหลักฐานภาพถ่ายแต่ละช่วงเวลาที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันที่ได้จากครอบครัวฝ่ายหญิงก็ตาม พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องทอดทิ้งและยืนยัน ไม่มีมีส่วนเกี่ยวของกับการตายของเธอ
ในขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังบีบน้ำตา แต่คนทั้งครอบครัวกำลังบีบหัวใจ
ตั้งแต่ต้น ครอบครัวของคิมแซรน ไม่เคยอยากได้อะไรจากพระเอกหนุ่ม มากไปกว่า “คำขอโทษ” กระทั่งเรื่องราวค่อย ๆ แดงและใหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆ ฝ่ายชายได้รับผลกระทบจากการถูกปลดออกจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์ ตั้งแต่แบรนด์ใหญ่ระดับโลก ไปจนถึงแบรนด์เล็ก ๆ ภายในประเทศ ถึงอย่างนั้น ทางต้นสังกัดก็ยังคงหนักแน่นในการปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด พร้อมกับประกาศกร้าวอย่างชัดเจนในวันแถลงข่าวที่ผ่านมาว่าจะดำเนินการฟ้องร้องครอบครัวของฝ่ายหญิงอย่างถึงที่สุด เป็นจำนวน 1.2 หมื่นล้านวอน หรือ 277 ล้านบาท
นั่นจึงเปรียบเสมือนระเบิดเวลาที่กำลังนับถอยหลังแบบวิต่อวิ เพราะทางฝั่งครอบครัวของคิมแซรนได้ให้ Garosero Research Institute ช่วยแฉหลักฐานที่มีเพิ่มเติมเพื่อเป็นการตอบโต้พระเอกหนุ่มว่าเขาได้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับคิมแซรนตั้งแต่เธอยังเป็นผู้เยาว์ ไม่ใช่ว่าทั้งคู่เพิ่งมาคบหากันในช่วงที่คิมแซรนโตเป็นผู้ใหญ่แล้วดั่งที่ลมปากฝ่ายชายได้บอกกล่าว
งานนี้น้ำตาจะยังคงสามารถชะล้างทุกอย่าง ได้เหมือนกับในซีรีส์ได้จริงหรือ?
เพราะไม่ใช่แค่สังคมเกาหลีกำลังตัดสินการกระทำของเขา แต่คนทั่วโลกกำลังจับตามองว่าชายคนนี้จะยังมีที่ยืนในสังคมเหมือนอย่างพระเอกคนอื่น ๆ ของเกาหลีที่ถูกแฉหรือไม่
หากสังคมเกาหลีมองว่าเรื่องนี้เป็นเพียงความรักของหนุ่มสาวที่เลิกราและจบลงไม่สวยเหมือนดั่งในซีรีส์น้ำเน่าเรตติ้งสูงหลังข่าว อาจถึงคราวที่คนทั้งประเทศควร Set zero ระบบความคิดกันใหม่ เพราะการที่ชายอายุเกือบ 30 มีความคิดเชิงชู้สาวกับเด็กสาววัยยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่ว่าจะหน้าตาหล่อเหลาเป็นระดับดาราเบอร์ใหญ่ หรือ เป็นเพียงคนธรรมดาหาเช้ากินค่ำ หรือ มีอำนาจใหญ่โต ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งภัยสังคมที่ไม่ควรมองข้าม ดั่งประโยคที่ว่า “คนดีที่ไหนจะคิดมีสัมพันธ์เชิงโรแมนติกกับเด็กสาว”
หนึ่งชีวิตที่สูญเสียไป เทียบไม่ได้เลยกับการที่ชายคนหนึ่งยังคงมีที่ยืนในสังคมและใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างเชิดหน้าชูตาและไม่รู้สึกผิดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ทั้งหมดทั้งมวล แม้ “คิมซูฮยอน” จะปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ครอบครัวของฝ่ายหญิงบอกว่าทั้งคู่คบกันตั้งแต่ตอน “คิมแซรน” ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่ของแบบนี้คนกระทำย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจว่า “ความเป็นจริง” คืออะไร