นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตุความพยายามเร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติ หรือ พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่วิปรัฐบาลสั่งเดินหน้าเลื่อนวาระการประชุม ซึ่งเป็นการเดินหน้า โดยใช้โอกาสช่วงที่สังคมกำลังวุ่นๆ เรื่องภัยพิบัติแผ่นดินไหว ผู้คนไม่ได้สนใจเรื่องอื่น นอกจากการกู้ภัยตึก สตง.ถล่ม และยังตื่นตระหนกอยู่กับอาฟเตอร์ช็อกแผ่นดินไหว และล่าสุดนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ได้บรรจุ พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร เป็นวาระพิเศษ ในการประชุมวันที่ 3 เมษายนตามที่คณะรัฐมนตรีเสนอแล้ว
นายเทพไทเห็นว่ารัฐบาลใช้โอกาสตอนนี้ลักไก่ รวบหัวรวบหางนำ พ.ร.บ.กาสิโนเข้าสู่สภาฯ จึงแปลกใจทำไมรัฐบาลจึงรีบร้อนผลักดันร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ทั้งที่กระบวนการไม่ครบถ้วน ยังไม่รับฟังความเห็นของประชาชน การเร่งให้สภาฯ มีมติรับหลักการ และตั้งกรรมาธิการวิสามัญให้เสร็จในวาระ 1 เป็นการส่อเจตนาว่ารัฐบาลต้องการให้ตั้งบ่อนกาสิโนเร็วที่สุด ไม่สนใจกระแสคัดค้านใดๆ ทั้งสิ้น มิหนำซ้ำยังออกมาท้าทายสังคมอีกว่า ถ้ากลัวม็อบก็จะนำเรื่องบ่อนกาสิโนเข้าสภาฯ ทำไม
ในช่วงที่สถานการณ์บ้านเมืองกำลังเจอวิกฤตแผ่นดินไหวเช่นนี้ รัฐบาลน่าจะระดมความคิดจากทุกภาคส่วน โดยเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อรับฟังความเห็นของสมาชิกรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 165 หรือจะให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 1ใน 10 ใช้สิทธิ์ตามมาตรา 152 หรือให้สมาชิกวุฒิสภา จำนวน 1 ใน 3 ใช้สิทธิ์ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 มากกว่ามาเร่งผลักดันให้สภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือที่เรียกกันว่ากฎหมายเปิดบ่อนคาสิโน
จะต้องรอดูว่าเรื่องนี้จะกระตุ้นต่อมคุณธรรมของคนไทย จุดม็อบติดหรือไม่ เพื่อต่อต้านรัฐบาลที่ส่งเสริมอบายมุขมอมเมาประชาชน หวังผลทางการเงินมากกว่าปัญหาทางสังคม