พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ ThePublisher ผ่านรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร ถึงการเร่งรัดนำร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ เป็นวาระเร่งด่วน เบียดร่างกฎหมายอื่นว่า พรรคประชาชนไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว พร้อมชี้ให้เห็นถึงกระบวนการที่เร่งรีบผิดปกติ กระทั่งแซงคิวกฎหมายอื่นเพื่อพิจารณาให้ทันก่อนปิดสมัยประชุมในวันที่ 10 เมษายนนี้ “เราเข้าใจว่าน่าจะไม่ดันให้พิจารณาพรุ่งนี้(3 เมษายน) แต่น่าจะเสนอให้เลื่อนแซงคิวกฎหมายอื่นมาพิจารณาวันที่ 9 เมษายนซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่จะมีการประชุมในสมัยประชุมนี้ ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นที่จะเอามาแซงคิวกฎหมายอีกเกือบสิบฉบับ”
เปิดเกมดันกฎหมาย ทั้งที่สภาฯ กำลังปิดประชุม
พริษฐ์ บอกว่า ไม่สมเหตุสมผลเลยที่รัฐบาลพยายามผลักดันแบบนี้ เพราะยังไม่มีการทำรายงานการศึกษาโดยละเอียดว่าควรเดินหน้านโยบายการสิโนหรือไม่ อย่างไร เช่นที่ตั้งหรือจำนวน ก่อนหน้านี้ นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง บอกว่าจะทำหลังกฎหมายผ่านไปแล้ว และมีการตั้งคณะกรรมการนโยบายหรือสำนักงานฯ เรียบร้อยแล้ว เรามองว่าเป็นการลำดับขั้นตอนที่แปลกประหลาด เพราะถ้าทำหลังกฎหมายผ่านแล้ว ผลลัพธ์การศึกษาบอกว่าควรปรับปรุงบางมาตรา วางหลักประกันให้ชัดเจนขึ้น เรื่องจำนวน ที่ตั้งห รือควรเสนอแก้ไขกฎหมายการพนัน เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเล่นการพนันสูงขึ้น ก็ต้องย้อนกลับมาแก้กฎหมายอยู่ดี จึงมองว่า ในเมื่อยังไม่มีการทำรายงานการศึกษา ก็ควรรอก่อน เพราะสภาฯก็จะปิดสมัยประชุมอยู่แล้ว ใช้เวลาช่วงนี้แล้วค่อยนำกลับมาพิจารณาในสมัยประชุมถัดไป
ไม่พูดความจริงกับประชาชน ยัดไส้กาสิโน
“เราไม่เห็นด้วยที่จะเร่งรัดนำกฎหมายนี้แซงคิวกฎหมายอื่นเพียงเพื่อให้ทันการประชุมในสมัยนี้” พริษฐ์ บอกด้วยว่า เขาเห็นความไม่ตรงไปตรงมาของรัฐบาลในการทำนโยบายนี้ ตั้งแต่นิยามของร่างกฎหมาย อ้างไม่เน้นกาสิโน คิดเป็นแค่ 10% ของสถานบันเทิงครบวงจรเท่านั้น “การพูดเช่นนี้เป็นการทำให้สังคมเข้าใจผิดว่าหัวใจไม่ใช่กาสิโน แต่ความจริงรายได้จากกาสิโนเป็นหัวใจหลัก เช่น มาเก๊า มีกาสิโน 10 % ของพื้นที่แต่คิดเป็น 80% ของรายได้ นี่คือการไม่สื่อสารอย่างตรงไปตรงมาถึงหัวใจของนโยบายนี้“
ตีเช็กเปล่าให้นายกฯ อีกหนึ่งพิรุธ ร่างกฎหมายกาสิโน
อีกหนึ่งพิรุธของนโยบายนี้คือการกลับไปกลับมา บางวันบอกเน้นดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ บางวันบอกมาจากผู้เล่นคนไทย บางครั้งบอกแก้พนันผิดกฎหมาย แต่อีกวันเติมเงื่อนไขคนไทยเล่นได้ต้องมีบัญชีต่อเนื่อง 50ล้านต่อเนื่อง 6 เดือนหลักการมีความกลับไปกลับมา ตกลงวัตถุประสงค์คืออะไร นอกจากนี้ร่างกฎหมายยังเป็นการ “ตีเช็กเปล่าให้กรรมการนโยบายที่นายกฯ เป็นประธาน และนายกฯ มีส่วนในการแต่งตั้งทุกคนใน คกก. แทนที่จะวางหลักประกันในทางกฎหมาย กลายเป็นการตีเช็กเปล่าให้กรรมการนโยบายวางหลักเกณฑ์ เกิดข้อครหาใช้ดุลพินิจค่อนข้างสูง โดยเฉพาะการกำหนดเกณฑ์คัดเลือกผู้ประกอบกิจการสถานบันเทิงครบวงจรอย่างไร จากเดิมร่างของกมธ.วิสามัญฯ ให้เป็นการประมูลกลายเป็นว่า เกณฑ์คัดเลือกให้เป็นดุลพินิจของคณะกรรมการนโยบายออกแบบ เป็นสามข้อสังเกตการดำเนินนโยบายที่ไม่ตรงไปตรงมา“
ไร้หลักประกันรายได้รัฐ มีแต่หลักประกันค่าใช้จ่ายนายทุน
แม้แต่ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตที่กำหนด 5 พันล้านบาทก็เป็นเพดานไม่ใช่ขั้นต่ำ “กลายเป็นการรับประกันกับเอกชนว่ายังไงจะไม่คิดค่าธรรมเนียมเกินกว่า 5 พันล้านบาท แทนที่จะรับประกันกับประชาชนหรือรัฐว่าขั้นต่ำจะได้ไม่น้อยกว่านี้ ถ้าเราพูดถึงรายได้ที่มาจากภาษีก็ไม่มีการระบุอัตราขั้นต่ำไว้ใมนตัวกฎหมาย แต่เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายไปกำหนด ประโยชน์หลายอย่างที่รัฐบาลอ้าง ไม่มีการวางหลักประกันที่ชัดเจนเพียงพอในกฎหมาย“
พรรคภูมิใจไทย-ภูมิใจเปลี่ยน ได้อะไร?
พริษฐ์ ตั้งคำถามไปยังพรรคภูมิใจไทย ที่เคยตั้งโต๊ะแถลงข่าว 4 ข้อ ไม่เห็นด้วยกับ กาสิโน โดยมีการแจกแจงชัดเจน เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2567 แต่ผ่านมาแค่ห้าหกเดือน หัวหน้าพรรคกลับมีท่าทีเปลี่ยนไป ร่วมรับหลักการร่างกฎหมายนี้ในครม. ทั้ง ๆ ที่เนื้อหาสาระไม่ได้แก้ไขใน 4ประเด็นที่เคยคัดค้านเลย ”สิ่งเดียวที่แตกต่างไปจากเดิมคือ การแก้ไขกฎหมายการพนันที่เพิ่มพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงมหาดไทยที่อยู่ภายใต้กำกับของพรรคภูมิใจไทยที่จะให้ใบอนุญาตสำหรับการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ขณะที่มาตรการอื่น ๆ ในการป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคกก.กำกับเรื่องการพนัน การป้องกันการเข้าถึงของเยาวชน กลับไม่ได้มีการเพิ่มบทบัญญัติเข้าไปเลย จึงเกิดข้อครหาว่าสะท้อนชัดหรือยังว่านี่คือการแลกกันระหว่างกาสิโนกับพนันออนไลน์ของสองพรรคการเมือง“
จุดยืน ปชน. ไม่ปฏิเสธกาสิโน แต่ต้องตรงไปตรงมา
ในขณะที่ยังไม่สามารถคลี่คลายข้อกังวลของสังคมได้ แต่รัฐบาลกลับเร่งรีบนำเสนอเข้าสภาฯ แซงคิวกฎหมายอื่น ณ เวลานี้พรรคประชาชนมองว่าไม่มีความจำเป็นแซงคิวในวันพุธที่ 9 เมษายนนี้แต่ถ้าใช้เสียงข้างมากเลื่อนระเบียบวาระแซงคิว พรรคจะพูดถึงจุดยืนต่อร่างกฎหมายนี้อย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
ตอนที่รณรงค์เลือกตั้งเราไม่ได้คัดค้านกาสิโนถูกกฎหมาย และจากการคุยกับภาคประชาชนบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยก็ไม่ได้คัดค้านในทุกกรณีแต่ต้องชัดเจนว่า จะทำกาสิโนเพื่อวัตถุประสงค์อะไร ถ้าจะทำเพื่อการท่องเที่ยวต้องตอบให้ชัดว่าจะเพิ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือคนไทยที่เดินทางภายในประเทศ ถ้าเน้นต่างชาติก็ต้องแน่ใจว่าผลบวกจะมากกว่าผลลบ เพราะเราพึ่งพาตลาดนักท่องเที่ยวจีนค่อนข้างสูง ขณะที่รัฐบาลจีนก็มีความพยายามในการลดจำนวนคนจีนที่เดินทางไปประเทศที่มีกาสิโน ไม่ว่าจะเป็น ฟิลปปินส์ สิงคโปร์ หรือแม้แต่มาเก๊า ถ้าจะแก้ปัญหาการพนัน เพื่อรัฐกำกับดูแลเข้มข้นขึ้นก็ไม่ควรเดินหน้าสถานบันเทิงครบวงจรแบบนี้ ควรแก้พรบ.การพนัน เหมือนที่ประเทศอื่นทำ เพื่อให้มีกลไกการกำกับดูแลการพนันที่เข้มงวดขึ้น “ถ้ากลับมาที่จุดยืนของพรรคเรายอมรับตรงไปตรงมา ไม่ปฏิเสธทางเลือกกาสิโนถูกกฎหมายในทุกกรณี เชื่อว่าประชาชนจำนวนหนึ่งก็คิดแบบนี้เช่นเดียวกัน แต่ต้องชัดว่าวัตถุประสงค์เพื่ออะไร เพื่อออกกฎหมายที่รอบคอบรอบด้านในการแก้ปัญหาให้ตรงจุด ยังไม่นับว่าถ้าจะทำเรื่องนี้จริง ๆ ต้องพิจารณาปัจจัยอื่น เช่น คอร์รัปชัน และการฟอกเงิน คะแนนความโปร่งใสแย่สุดในรอบ 12 ปี
เกมเร่งรัดที่ไร้คำตอบ…คือความเสี่ยงที่ไม่ควรเร่งให้เกิด
พริษฐ์ ยังกล่าวถึงความคาดหวังของประชาชนที่เคลื่อนไหวต่อพรรคประชาชนว่า ให้ความมั่นใจว่าจะทำงานตรงไปตรงมาในการตรวจสอบนโยบายนี้ แม้ไม่มีจุดยืนปฏิเสธกาสิโนในทุกกรณี แต่การดำเนินนโยบายของรัฐบาลมีปัญหา เราจะพยายามเต็มที่ป้องกันไม่ให้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเร่งรัดทั้งที่ไม่มีการศึกษาอย่างรอบคอบ และช่องโหว่ที่เห็นในกฎหมาย
“จะคว่ำร่างกฎหมายนี้หรือไม่? ต้องรอมติพรรคก่อน แต่ ณ เวลานี้ จุดยืนของพรรคคือไม่เห็นความจำเป็นต้องแซงคิวกฎหมายอื่นมาพิจารณาวันที่ 9เมษายน จะทำทุกวิถีทางในสภาฯ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้”