“ถ้าไม่แก้ใต้ดิน ไม่ชัดเจนเรื่องผลประโยชน์ ไม่ดันการท่องเที่ยวจริง และไม่ช่วยแรงงานไทย เราจะไม่เห็นด้วย”— พรรคภูมิใจไทย, 13 ส.ค.67
คำพูดนี้ไม่ใช่เสียงคัดค้านจากกลุ่มศีลธรรมจารีต หรือ NGO ฝ่ายต่อต้านกาสิโน แต่เป็นแถลงการณ์อย่างเป็นทางการของ “พรรคภูมิใจไทย” เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2567
จากปากของ ไชยชนก ชิดชอบ และ ภราดร ปริศนานันทกุล ที่ออกมาท้วงติงร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ว่า ยังไม่ตอบโจทย์ใน 4 ประเด็นใหญ่ และอาจสร้างปัญหาซ้ำซ้อนให้สังคมไทย
ตัดภาพมาปี 2568 ขณะที่รัฐบาลแพทองธารเร่งผลักดันร่างกฎหมายฉบับเดียวกัน แปะฉลากว่าเป็นการสร้างรายได้ เพิ่มการจ้างงาน และส่งเสริมการท่องเที่ยว
แต่สิ่งที่สังคมควรตั้งคำถามคือ — พรรคภูมิใจไทยกลับ ไม่คัดค้านอย่างชัดเจน ทั้งที่เนื้อหาร่างกฎหมาย ยังไม่ตอบแม้แต่ข้อเดียวจาก 4 ข้อที่พรรคเคยแถลงไว้
⸻
ย้อนดู 4 ข้อกังวล ที่ภูมิใจไทยเคยยืนกรานว่า “ต้องมี”
- ต้องแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย
– แต่ร่างกฎหมายใหม่ เห็นชัดว่าผู้เล่นพนันจะเป็นคนละกลุ่มกับที่เล่นพนันในบ่อนเถื่อน การมีกาสิโนจึงไม่ตอบโจทย์ว่าจะทำให้บ่อนผิดกฎหมายหมดไป
- ต้องให้รัฐ-ประชาชนได้ประโยชน์อย่างชัดเจน
– แต่โมเดลรายได้ยังเป็นเพียง “คำคาดการณ์” และเปิดทางให้นายทุนรายใหญ่เท่านั้นที่เข้าแข่งขัน (ทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 10,000 ล้านบาท)
- ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ากาสิ NO ดึงนักท่องเที่ยวจริง
– แต่เสน่ห์หลักของไทยไม่ใช่การพนัน และไม่มีข้อมูลรองรับว่ากาสิ NO จะเหนือกว่าวัฒนธรรม-ธรรมชาติที่เรามีอยู่แล้ว และแม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวอาจเพิ่มขึ้น แต่จะกลายเป็นผีพนันจากนานาชาติ อาจกระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย ทำให้นักท่องเที่ยวคุณภาพลดลง
- ต้องอำนวยการจ้างงานแรงงานไทย
– แต่ไม่มีมาตรการคุ้มครองแรงงาน สัดส่วนขั้นต่ำ หรือสิทธิประโยชน์สำหรับแรงงานไทยในร่างกฎหมาย
ทั้งหมดนี้คือ “ธงที่ภูมิใจไทยเคยปัก” ไว้อย่างชัดเจนในปี 2567 แล้ววันนี้หายไปไหน?
⸻
ยอมรับเพราะอะไร?
หากไม่ตอบโจทย์ แล้วทำไม “ยอมรับ” และ “ร่วมเห็นชอบ” ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล?
นักวิเคราะห์จำนวนไม่น้อยมองว่า
- อาจเพราะภูมิใจไทยเลือก อยู่ในเกมอำนาจ มากกว่ายืนหยัดในหลักการเดิม หรือเป็นพราะมี “พนันออนไลน์” ถูกกฎหมายแลกเปลี่ยน จึงเปลี่ยนจุดยืน?
- หรืออาจเพราะ การลงทุนในพื้นที่บางจังหวัด โดยเฉพาะบุรีรัมย์ มีความหวังบางอย่างผูกอยู่กับนโยบายนี้
- หรือสุดท้ายแล้ว… สิ่งที่เคยพูดไว้เมื่อปีก่อน ก็เป็นเพียง “คำพูดทางการเมือง” ที่พร้อมเทเมื่อสถานการณ์เปลี่ยน
⸻
คำถามปลายเปิดที่พรรคต้องตอบ
“ภูมิใจไทย” ยังยึดมั่นใน 4 ข้อเดิมที่เคยพูดหรือไม่?
ถ้ายึด – ทำไมไม่ค้าน?
ถ้าไม่ยึด – บอกประชาชนตรง ๆ ได้ไหมว่า อะไรทำให้เปลี่ยนไป?
หรือแท้จริงแล้ว จุดยืนของพรรคคือ… “พูดแล้วทำ ถ้าผลประโยชน์ยังอยู่ฝั่งเรา” ? พูดแล้วพร้อมเท…เมื่อไม่มีผลประโยชน์ใส่ตน?
⸻