ดอนเมือง – พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำทีมส่งพี่น้องชาวใต้กว่า 300 ชีวิต เหินฟ้ากลับบ้านในโครงการ “พาคนใต้กลับบ้าน” ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 พร้อมย้ำจะผลักดันให้เป็นกิจกรรมประจำปี ทั้งช่วงปีใหม่และสงกรานต์ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน
บรรยากาศเช้าวันนี้ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองเต็มไปด้วยความอบอุ่นและคึกคัก เมื่อพี่น้องชาวใต้ที่ได้รับสิทธิ์ในโครงการเดินทางมาลงทะเบียนขึ้นเครื่องบินกลับบ้าน โดยเที่ยวบินในวันนี้มีทั้งหมด 4 เที่ยว จากสายการบินแอร์เอเชีย แบ่งเป็น ดอนเมือง–หาดใหญ่ 2 เที่ยว และดอนเมือง–สุราษฎร์ธานี กับดอนเมือง–นครศรีธรรมราช อย่างละ 1 เที่ยว รวมทั้งสิ้น 320 ที่นั่ง
บิ๊กโจ๊กเปิดเผยว่า โครงการนี้ไม่ได้จัดเพียงครั้งเดียวแล้วเลิก แต่จะเป็น “กิจกรรมปฏิทิน” ที่จัดต่อเนื่องทุกปี ในช่วงเทศกาลสำคัญ โดยในวันพรุ่งนี้ (9 เม.ย.) จะมีพี่น้องชาวใต้อีกกว่า 300 คน เดินทางกลับบ้านผ่านรถบัสวีไอพี 7 คัน โดยนัดรวมตัวที่สมาคมชาวปักษ์ใต้ ถนนกาญจนาภิเษก เวลา 18:00 น. และขบวนรถจะออกพร้อมกันในเวลา 21:00 น. ซึ่งตนเองจะเดินทางไปส่งด้วยตัวเองอีกครั้ง
“นอกจากเดินทางฟรี ยังมีขนม น้ำดื่ม และอาหารบริการระหว่างทาง ถือเป็นความตั้งใจของสมาคมที่จะช่วยลดภาระประชาชน เพราะเศรษฐกิจช่วงนี้ ค่าครองชีพสูงมาก โครงการนี้จะช่วยได้ไม่มากก็น้อย” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว
จากการพูดคุยกับผู้โดยสาร หลายคนกล่าวขอบคุณโครงการที่ช่วยให้พวกเขาได้กลับไปกราบพ่อแม่ผู้สูงอายุในช่วงปีใหม่ไทย หนึ่งในผู้โดยสารกล่าวว่า หากต้องจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินเองต้องเสียเงินหลายพันบาท ทำให้มีเงินเหลือไปดูแลครอบครัวได้มากขึ้น
ขณะที่ผู้โดยสารชาวมุสลิมจากจังหวัดนราธิวาส เล่าว่าถึงแม้จะลงเครื่องที่หาดใหญ่ ไม่ใช่ปลายทาง แต่ก็สามารถต่อรถกลับบ้านได้สะดวก และประหยัดเงินได้อย่างมาก
ในเที่ยวบินวันนี้ ยังมีข้าราชการบางส่วนเข้าร่วมโครงการ หนึ่งในนั้นคือข้าราชการตำรวจที่เดินทางพร้อมภรรยา เขากล่าวว่า โชคดีที่ไม่ตรงกับช่วงเข้าเวร จึงได้โอกาสกลับบ้านก่อนเทศกาล และดีใจที่ได้กลับไปไหว้พ่อแม่หลังจากไม่ได้กลับมานาน
สำหรับโครงการ “พาคนใต้กลับบ้าน” จัดมาแล้วเป็นครั้งที่ 4 โดยเริ่มต้นครั้งแรกในช่วงโควิด-19 ด้วยการเช่ารถตู้รับผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา ก่อนจะพัฒนาเป็นโครงการใหญ่ในช่วงสงกรานต์ปี 2567 และเทศกาลปีใหม่ 2568 จนถึงครั้งล่าสุดในสงกรานต์ปีนี้
สมาคมชาวปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ยืนยันว่า โครงการนี้จะเดินหน้าต่อไป เพื่อเป็นสะพานพาพี่น้องชาวใต้กลับสู่บ้านเกิด ด้วยความอบอุ่น ประหยัด และปลอดภัยในทุกเทศกาลสำคัญของปี.