”มากกว่าสุนทรพจน์คือภาวะผู้นำ“—รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร
สงครามภาษีที่สหรัฐเปิดฉาก กลายเป็นบททดสอบระดับผู้นำครั้งสำคัญของ นายฯ แพทองธาร ชินวัตร รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ The Publisher ผ่านรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร” ชี้ชัด ๆ ว่า หาก แพทองธาร ชินวัตร ไม่สามารถกุมสภาพ ทีมเศรษฐกิจได้ความแปรปรวนในประเทศจะสูงกว่าที่รัฐบาลคิดไว้มาก
ยังช้าเกินไป…ไม่มีตัวเลขในมือ ไม่มีหัวหน้าทีมเจรจา
อาจารย์ปณิธาน วิพากษ์ตรง ๆ ว่า รัฐบาลยังขับเคลื่อนรับมือกับกำแพงภาษีของทรัมป์ว่า “ยังช้าไป มาตรการไม่เพียงพอ ดูเหมือนว่ารัฐบาลยังไม่มีตัวเลขในมือว่าจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร ทิศทางยังไม่ชัดใครจะเป็นหัวหน้าทีมเจรจา แม้จะรู้ล่วงหน้าว่าไทยจะโดนภาษีนำเข้าจากสหรัฐอย่างน้อย 10% แต่ตอนนี้โดน 36% แล้ว ก็ยังไม่มีการแถลงยุทธศาสตร์ ไม่มีข้อเสนอที่จับต้องได้ ที่สำคัญ…ไม่มี ”ผู้นำ“ ออกมาชี้แจงภาพรวมของประเทศเพื่อเตือนประชาชน
ปล่อยเวทีอาเซียนหลุดมือ…หรือเพราะนายกฯ ไม่พร้อม?
เขายังตั้งคำถามถึงการปฏิเสธเข้าร่วมวงเจรจากับ 5 ผู้นำในประเทศอาเซียนตามคำเชิญของ นายกฯ มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ทั้งที่เป็นโอกาสสำคัญในการต่อรองกับจีน สหรัฐ และอินเดีย ซึ่งที่ผ่านมาไทยยึดนโยบาย ”อาเซียนเป็นปึกแผ่นเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรอง“ มาโดยตลอด แต่ครั้งนี้กลับไม่ทำเช่นนั้น ”อาจเป็นเพราะทีมงานต้องการปกป้องนายกฯ จากความผิดพลาด หรือไม่มีบทสรุปในมือว่าจะทำอย่างไรก็เป็นไปได้ เพราะต้องไม่ลืมว่าการเจรจากับผู้นำไม่เหมือนการกล่าวสุนทรพจน์ที่เตรียมการล่วงหน้า“
นโยบายที่บ้านพิษณุโลก VS โลกความจริง
อาจารย์ปณิธาน ตั้งข้อสังเกตถึงแนวคิดทีมที่ปรึกษานโยบายของนายกฯ ที่บ้านพิษณุโลก ที่ชี้นำให้ ”รอก่อน อย่าเพิ่งลดภาษี อย่ายิงกระสุนฟรี“ แตกต่างจากหลายประเทศที่ไปเจรจาแล้วได้ผล หากเลือกจะเดินเกมนี้จริง ก็ต้อง ”มีข้อสรุปชัดเจนจะลดอะไร เพิ่มอะไร จะคุยกับสหรัฐเรื่องไหน ที่สำคัญคือสหรัฐจะลัดคิวให้เราเจรจาหรือไม่? และเราจะได้เจรจาเมื่อไหร่?“ เขาชี้ว่ายังไม่มีความชัดเจนความปั่นป่วนภายในประเทศจะมากขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่คิดว่าอาจได้รับผลกระทบจากการนำเข้าสินค้าสหรัฐเพิ่มขึ้น เช่น เกษตรกรกว่าสองแสนรายกำลังกังวลว่า จะมีการนำเข้าเนื้อหมู นายกฯ ต้องสื่อสารกับประชาชนให้ชัดว่า ผลกระทบคืออะไร? เหมือนที่นายกฯ สิงคโปร์ทำ
กุมสภาพไม่ได้…ประเทศปั่นป่วน
เขาย้ำว่าสถานการณ์ตอนนี้ยังไร้ทิศทาง หลายหน่วยงานขยับกันเอง ไม่มีการสรุประดับชาติ ”นายกฯ ต้องกุมสภาพให้ได้ เพราะนี่คือภาวะผู้นำ ที่มากกว่าการอ่านสุนทรพจน์“ ต้องมีทีมเจรจาที่รู้แน่ว่าจะเสนออะไร ใช้ข้อได้เปรียบอะไร? ไม่ใช่แค่เรื่องภาษี แต่รวมถึงความร่วมมือด้านการทหาร ความมั่นคง ซึ่งอิสราเอลใช้ต่อรองได้ผลมาแล้ว
เตือนรับมือสินค้าจีนทะลัก หากโดนภาษี 104%
อาจารย์ปณิธาน เตือนด้วยว่า จีนอาจเผชิญภาษี 104% ตามคำขู่ของสหรัฐ ซึ่งจะทำให้สินค้าหลายอย่างทะลักสู่ไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ”รัฐบาลไทยไม่เคยแจ้งเตือนผู้ผลิตในประเทศเลยว่าจะรับมืออย่างไร อุตสาหกรรมเสื้อผ้า อาหารแปรรูปจะได้รับผลกระทบแค่ไหน ทั้งระยะสั้น กลางและยาว หากไม่มีมาตรการรับมือที่ชัดเจน ไม่มีการจัดเตรียมงบประมาณรองรับ ผลกระทบจะกินวงกว้าง จากเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ซึ่งคาดการณ์เพิ่มจาก 35 เป็น 45% แล้ว