รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว. และประธานอนุกรรมการด้านพลังงานฯ สภาองค์กรของผู้บริโภค ออกมา “แฉ” กลเกมตัวเลขราคาน้ำมันในรอบ 3 วัน (8–10 เม.ย. 2568) ว่าเป็นมากกว่าความไร้ประสิทธิภาพ…หรือนี่คือ “ความตั้งใจทำให้ประชาชนจ่ายแพง?”
⸻
[8 เม.ย.] ราคาตลาดโลกลด แต่ไทยยังขายแพง
ราคาน้ำมันดิบดูไบ = 64.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
แปลงเป็นราคาน้ำมันสำเร็จรูปหน้าโรงกลั่น = ไม่เกิน 15.50 บาท/ลิตร
แต่ราคาขายปลีกยังสูงลิ่ว: ยกให้เห็นเฉพาะ
เบนซิน 95 = 41.44 บาท/ลิตร
ทั้งที่ควรลดได้มาก แต่ลดเพียง “50 สตางค์”
และยังปล่อย ค่าการตลาดสูงถึง 5.89 บาท/ลิตร
⸻
[9 เม.ย.] รสนาแฉครั้งแรก: ค่าการตลาดเกือบ 6 บาท!
ค่าการตลาดเบนซิน 95 = 5.8981 บาท/ลิตร
รสนาเปิดตัวเลข พร้อมตั้งคำถามว่า
“นี่คือวิธีที่รัฐปล่อยให้ผู้ค้าอิ่มพุงกาง ในขณะที่ประชาชนจ่ายเต็มราคาใช่หรือเปล่า?”
⸻
[10 เม.ย.] กลเกมเริ่ม: รีบเปลี่ยนเลข แต่ไม่ลดราคา
หลังรสนาแฉ ตัวเลข “ค่าการตลาด” ถูกปรับลดทันที:
• เหลือ 4.6932 บาท/ลิตร
ลดจากเดิมไป 1.20 บาท
แต่! ราคาขายปลีกยังอยู่ที่ 41.44 บาทเท่าเดิม
⸻
โยกตัวเลข…เสกราคา แบบนี้ก็ได้เหรอ?
รสนาชี้ว่า รัฐย้ายตัวเลขกำไรจาก “ค่าการตลาด” ไปซุกใน “กองทุนน้ำมัน”
ในวันที่ 10 เม.ย.68 ค่าการตลาดเบนซิน 95 ที่ลดไปเกือบสองบาท ไปโผล่ในกองทุนน้ำมัน 1 บาท จากวันที่ 9 เม.ย.68 อยู่ที่ 9.7100 บาท/ลิตร เพิ่มเป็น 10.7100 บาท/ลิตร
⸻
ค่าการตลาด – กองทุนน้ำมัน – ภาษี: ใครได้อะไร?
• ค่าการตลาด + เนื้อน้ำมัน = เอกชนได้
• กองทุนน้ำมัน = ที่ให้โยกกำไรไปเก็บไว้ ไม่ต้องลดราคา
• ภาษี = รัฐรีดเต็มที่ ทั้งสรรพสามิต เทศบาล และ VAT สองรอบ
รสนาชี้ว่า กองทุนน้ำมันไม่เคยทำหน้าที่ลดราคาขายปลีกให้ประชาชน
แม้ในวันที่ราคาตลาดโลกลดลงมาก
แล้วบอกว่าราคาพลังงานลอยตัวตามตลาดโลก?
⸻
สงกรานต์ลดราคา 1 บาท: เล่นกลอีกครั้ง
ช่วงสงกรานต์ที่ผู้ค้าน้ำมันออกมาประกาศลดราคา 1 บาท/ลิตร
แท้จริงแล้ว ไม่ได้ลดกำไรของตัวเอง
แต่เอาเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 1 บาท” แทน
ดร.อารีพร อัศวินพงศ์พันธ์ นักวิชาการ TDRI ยังติงว่า “การใช้กองทุนน้ำมันเพื่อลดราคาแบบนี้ ผิดวัตถุประสงค์โดยสิ้นเชิง เพราะกองทุนน้ำมันควรใช้เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันในกรณีที่เกิดวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง”(ข้อมูลจาก ประชาชาติธุรกิจ)
⸻
รสนา ชี้ ไม่เป็นธรรม รีดเบนซินถมดีเซล
กลุ่มเบนซิน – แก๊สโซฮอล์ โดนรีดหนัก แต่ไม่เคยได้คืน
• โซฮอล์ 95 และ 91 คือกลุ่มที่ขายดีที่สุดในประเทศ
• แต่กลับถูกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันในอัตราสูงมาก
• โดยไม่เคยถูกนำมาใช้ “ลดราคาให้ประชาชน” เหมือนที่ทำกับดีเซล
⸻
ราคานำเข้าจากสิงคโปร์: กฎหมายมี แต่ไม่มีใครรู้ต้นทุนจริง
• พีระพันธุ์ออกกฎหมายให้เปิดเผยต้นทุนเนื้อก๊าซจริงตั้งแต่ปีที่แล้ว
• แต่จนถึงวันนี้ ไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ
• และยังคงอ้างราคานำเข้าจากสิงคโปร์เป็นฐาน
แม้ทักษิณ–พีระพันธุ์เคยพูดว่า “ไม่ควรใช้ราคาสิงคโปร์”
⸻
รสนาทิ้งท้าย:
“กองทุนน้ำมันควรเป็นเครื่องมือรักษาเสถียรภาพราคา
แต่ทุกวันนี้ มันกลายเป็นกล่องมายากลที่ใช้บิดเบือนราคา
และดูดเงินจากผู้ใช้น้ำมันและก๊าซ ไปซับกำไรผู้ค้าอย่างต่อเนื่อง”
เธอสรุปปิดจบว่า
• ตัวเลขเปลี่ยน แต่ราคานิ่ง
• กำไรไม่ได้คืนประชาชน แต่ย้ายที่เก็บ
• เป็นมายากลโครงสร้างราคาน้ำมันไม่เปลี่ยนราคาขายปลีก แต่จัดวางตัวเลขภายในใหม่อย่างแนบเนียน
กลเม็ดที่แยบยลยิ่งกว่าเวทมนตร์…เพราะทำให้ประชาชนรู้สึกว่า “ลดให้แล้ว” ทั้งที่ยังแพงเหมือนเดิม
⸻