อดีตนายกฯ เตือนแรง! ไทยกำลังเข้าไปอยู่ในสมรภูมิภาษีที่ “ทรัมป์” เป็นคนตั้งกติกา และไม่มีเหตุผลอะไรจะหยิบมาใช้ไม่ได้ ตั้งแต่เรื่องเศรษฐกิจ ยาเสพติด ไปจนถึงสิทธิมนุษยชน
“แม้แต่นายกฯ ก็ไม่ได้ไปเจรจาเอง รัฐมนตรีต่างประเทศก็ไม่อยู่ในคณะ ถามจริง…คิดจะคุยกับทรัมป์โดยไม่มีตัวหลัก แล้วจะได้อะไรกลับมา?”
อภิสิทธิ์เสนอให้ตั้ง “ยุทธศาสตร์ร่วม” กับอาเซียน–ยุโรป–ญี่ปุ่น–แคนาดา ไม่ใช่ยอมเข้าไปต่อรองตัวต่อตัวแบบไร้ทิศทาง เพราะ “ต่อให้ลดภาษีบางรายการ ก็ไม่ใช่สูตรที่ทรัมป์ใช้คำนวณอยู่ดี”
ถ้าเป็นเขา…จะเริ่มจาก 3 เรื่องใหญ่:
- โทรหาประธานอาเซียนทันที
- วิเคราะห์ผลกระทบแต่ละอุตสาหกรรม
- เคลียร์ปมสิทธิมนุษยชนให้จบ
“ถ้า 3 เรื่องนี้ยังไม่พร้อม ไปพบทรัมป์ก็เสียประโยชน์เปล่า”
อ่านบทสัมภาษณ์เต็มในรายการ #เที่ยงเปรี้ยงปร้าง ได้ที่นี่
(ใส่ลิงก์บทสัมภาษณ์/เว็บไซต์)
//////////
เดินหมากพลาด…ไม่รอดสักประเทศ
อภิสิทธิ์ กระตุกรัฐเร่งวางยุทธศาตร์ร่วมกับนานาชาติ
เป็นคำเตือนของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ผ่านรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร” เขาย้ำว่ารัฐบาลไทยต้องคิดให้ลึก ก่อนพาไทยเข้าสู่สมรภูมิภาษีที่ไม่เท่าเทียม
นายกฯ มีการบ้านใหญ่ ไม่ใช่แค่สงครามภาษี…แต่คือสงครามความสัมพันธ์
“ประเทศอื่นผู้นำรอคิวพบทรัมป์ ถ้าไทยส่งแค่คณะไปโดยไม่มีนายกฯ แล้วจะหวังให้ทรัมป์มีเวลาให้เราจริงหรือ?” อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ กระตุกให้รัฐบาลไทยตระหนักในสถานการณ์สงครามภาษีที่สหรัฐฯ เปิดฉากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อผู้นำประเทศคู่ค้าสำคัญต่างลงสนามเอง ขณะที่ไทยยังลังเลว่าใครควรไปเจรจา
ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่รัฐมนตรีต่างประเทศก็ไม่ได้อยู่ในทีมเจรจาของไทย “ถามว่าแบบนี้เราพร้อมแค่ไหน?”
อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ ยังโยงประเด็นปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน กรณีอุยกูร์ว่า อาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ไทยอยู่ในสายตาของทรัมป์ เพราะเคยมีการประกาศไม่ให้วีซ่าเจ้าหน้าที่ไทย ซึ่งยังไม่ชัดว่ารวม นายกฯ อยู่ด้วยหรือไม่ เรื่องเหล่านี้ต้องรีบเคลียร์ให้ชัด
⸻
“ทรัมป์ไม่ได้ใช้แค่เรื่องเศรษฐกิจ…แต่หยิบได้ทุกเงื่อนไขที่เป็นอำนาจต่อรอง”
อดีตนายกฯ เตือนว่า การใช้ภาษีของทรัมป์ไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลขหรือเศรษฐกิจ แต่เป็น “เครื่องมือทางการเมือง” ตั้งแต่สมัยดำรงตำแหน่งรอบแรก
“ครั้งแรกใช้ภาษีกับประเทศที่ไม่ยอมรับผู้ต้องหา ครั้งที่สองอ้างเรื่องยาเสพติด ต่อไปจะมีเรื่องอะไรอีกก็ไม่มีใครเดาได้”
สิ่งสำคัญคือ รัฐบาลไทยไม่ควรเข้าไป “ยอมรับเงื่อนไขที่ไม่มีเหตุผล” เพราะเท่ากับ “ยอมเล่นในเกมที่เราควบคุมไม่ได้”
⸻
“เราควรเจรจาอย่างมีเป้าหมาย ไม่ใช่ยอมลดภาษีแบบสุ่มเสี่ยง”
อภิสิทธิ์อธิบายว่า สูตรการคำนวณภาษีของทรัมป์คือ “การขาดดุลการค้า หารด้วยยอดนำเข้า” ซึ่งหมายความว่าการไปลดภาษีบางรายการ ไม่ได้ช่วยลดตัวเลขที่ทรัมป์ใช้เป็นเหตุผลในการเก็บภาษีแต่อย่างใด
“ถ้ารัฐบาลไทยเสนอจะลดภาษีโดยไม่ระวัง อีกหน่อยสหภาพยุโรปจะฟ้องว่าเราขัดกับกฎ WTO เพราะไม่ได้ลดให้เขาด้วย แล้วจะรับมือยังไง?”
⸻
“ทางออกคือสร้างยุทธศาสตร์ร่วมกับโลกที่เหลือ…ไม่ใช่ต่อรองตัวต่อตัวกับทรัมป์”
อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ เสนอชัดเจนว่า ไทยควรเป็นฝ่ายริเริ่มผนึกกำลังกับอาเซียนและประเทศเศรษฐกิจขนาดกลาง–ใหญ่
“ผมไม่ได้บอกให้อาเซียนไปทำ FTA กับสหรัฐ แต่ให้อาเซียนตั้งยุทธศาสตร์ร่วมกันว่าจะรับมืออย่างไร ไม่ให้การค้าโลกถูกทำลาย”
เขาย้ำว่า โลกต้องหาวิธีคุยกับสหรัฐอย่างมียุทธศาสตร์ ไม่ใช่การเจรจารายประเทศแบบทรัมป์ถนัด เพราะถ้าทำเช่นนั้นอาจไม่มีใครรอดจากเกมภาษีนี้
⸻
ถ้าเป็นผู้นำ…อภิสิทธิ์จะเริ่มจาก 3 เรื่องนี้
- ติดต่อประธานอาเซียนทันที เสนอยุทธศาสตร์รับมือสงครามภาษีร่วมกัน
- วิเคราะห์ผลกระทบรายอุตสาหกรรม พร้อมวางแผนต่อรองแบบมีเป้าหมาย เช่น ยอมเฉือนเนื้อ ลดราคาสินค้า เพื่อรักษาตลาดในสหรัฐ
- เคลียร์ปัญหาสิทธิมนุษยชนให้จบ เพราะเป็นเงื่อนไขที่ทรัมป์หยิบมาใช้ได้ทุกเมื่อ
⸻
“ถ้ายังไม่พร้อมทั้งสามเรื่องนี้…ต่อให้ไปเจอทรัมป์ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร”
อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ สรุปชัด พร้อมย้ำว่า ยิ่งชะลอการวางยุทธศาสตร์ ยิ่งถูกสหรัฐลากเข้าไปอยู่ในเกมตัวต่อตัว ที่ไม่มีใครได้เปรียบ นอกจาก “ผู้ตั้งกติกา”
⸻