“เปลี่ยนผ่านอาชีพชาวไร่ยาสูบ….สู่รายได้ที่ยั่งยืน”
คือบทสรุปใจความสำคัญของบทความโดย ศ.นพ. ประกิต วาทีสาธกกิจ (15 เม.ย. 2568) ที่เล่าถึงเรื่องราวของชาวไร่ยาสูบในนครศรีธรรมราช ผู้ตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพจากการปลูกใบยา—ซึ่งรายได้ลดลงทุกปี—มาปลูกทุเรียนแทน
ผลลัพธ์คือรายได้พุ่งจากหลักแสน เป็นหลักล้านต่อปี
บทความนี้ไม่ได้มีดีแค่ชี้ให้เห็น “ทางรอดของคน ๆ หนึ่ง”
แต่มันเปิดคำถามใหญ่ให้ประเทศนี้ว่า
เราจะยังพึ่งการอุดหนุนเกษตรแบบเดิม ๆ ได้อีกนานแค่ไหน?
⸻
ตลาดยาสูบ…ไม่ใช่พื้นที่แห่งอนาคตอีกต่อไป
จากข้อมูลที่ ศ.นพ.ประกิต ยกมา
• ชาวไร่ยาสูบไทยประสบปัญหาต่อเนื่องจากหลายปัจจัย ทั้งบุหรี่เถื่อน บุหรี่ไฟฟ้า และการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้บุหรี่ต่างชาติ
• ต้นทุนการปลูกสูงขึ้น เพราะค่าครองชีพ ค่าแรงเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทบุหรี่หันไปซื้อใบยาสูบจากต่างประเทศที่ถูกกว่า
• ปรากฏการณ์เดียวกันเคยเกิดในมาเลเซีย (ปี 2553–2555) บริษัทบุหรี่เลิกซื้อใบยาในประเทศ รัฐบาลมหาเธร์จึงเร่งสร้างทางเลือกให้เกษตรกรเปลี่ยนอาชีพ โดยใช้ภาษีบุหรี่หนุนโครงการปลูกปอ (Kenaf) ซึ่งให้ผลตอบแทนและเสถียรภาพในอุตสาหกรรมมากกว่า
• ปัจจุบันมาเลเซียเหลือชาวไร่ยาสูบเพียง 100 ราย จากเดิมกว่า 23,000 ราย
ขณะที่ไทย…ยังแก้เฉพาะหน้า เยียวยาปีต่อปี
หลายปีที่ผ่านมา ชาวไร่เรียกร้องให้รัฐ “ช่วยเหลือ”
และรัฐก็ตอบสนองด้วย “งบกลาง”
แต่ไม่เคยมีการวางนโยบายระยะยาวเพื่อ “เปลี่ยนผ่าน” อาชีพจริงจังอย่างมาเลเซีย
⸻
แล้ววันนี้…โลกเปลี่ยนเร็วขึ้นกว่าเดิมอีก
การกลับมาของทรัมป์ และนโยบาย “America First” กำลังทำให้กติกาการค้าโลกเสียสมดุล
• การอุดหนุนเกษตรกรแบบแฝงอาจถูกตั้งข้อหาเป็น การบิดเบือนตลาด
• ประเทศที่ยังฝากความมั่นคงทางเศรษฐกิจไว้กับ “สินค้าเกษตรที่หมดอนาคต” จะเสี่ยงเป็นเป้าการโจมตีทางการค้า
• ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วเริ่มลงทุนใน “การเปลี่ยนผ่าน” — ไทยกลับยังยึดกับการเยียวยาเฉพาะหน้า
⸻
ปรับตัววันนี้…ยังทันหรือไม่?
สิ่งที่เกิดในนครศรีธรรมราช อาจเป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ
แต่หากรัฐรู้จัก “หยิบขึ้นมาขยาย” มันอาจกลายเป็นนโยบายระดับประเทศ
• ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมพืชเศรษฐกิจใหม่
• การใช้กลไกภาษีสินค้าเสพติดมาเป็นทุนเพื่อการเปลี่ยนผ่าน
• หรือแม้แต่การประเมินพื้นที่เสี่ยงสูงเพื่อวางแผนลดการพึ่งพายาสูบอย่างเป็นระบบ
เพราะในโลกที่กำลังเข้าสู่ภาวะปั่นป่วนทางการค้า
การฝากอนาคตไว้กับพืชที่ตลาดหดตัว…เท่ากับเดินถอยหลัง
⸻
บางทีบทเรียนจากไร่เล็ก ๆ ในภาคใต้ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงอนาคตเกษตรไทย—ถ้าเราเชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่แค่เรื่องของคน ๆ เดียว แต่ต้องเริ่มจาก “วิสัยทัศน์ของรัฐ” ทั้งระบบ
ขอบคุณข้อมูลจาก บทความ ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ