เมื่อเวทีโลกยกย่องว่าเธอคือผู้นำรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนโลก
แต่ในสายตาคนไทย…ยังเถียงกันไม่จบว่าเธอเป็นผู้นำจริง
หรือแค่คนที่ถูกวางตัวมาให้เป็น!
⸻
YGL: เวทีทรงเกียรติที่โลกให้การยอมรับ แต่อาจไม่ปลอดการล็อบบี้
“แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีหญิงของไทย ได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 114 ผู้นำรุ่นใหม่ของโลกจากเวที Young Global Leaders (YGL) ประจำปี 2025 ภายใต้เครือข่าย World Economic Forum (WEF)
การได้รับเลือกเข้าสู่ YGL ไม่ใช่แค่การสมัครชื่อ แต่ต้อง ได้รับการเสนอชื่อจากบุคคลอื่น พร้อมหลักฐานแสดง “ผลกระทบเชิงบวก” ที่โดดเด่น มีภาวะผู้นำ และมีแนวโน้มจะขับเคลื่อนสังคมหรือประเทศในทางที่ดีขึ้น
YGL ถือเป็นเวทีทรงอิทธิพลสำหรับสร้าง “เครดิตระดับโลก” ให้กับผู้นำหน้าใหม่ ทั้งภาคการเมือง ธุรกิจ นวัตกรรม และภาคประชาสังคมทั่วโลก
คำถามที่ตามมาคือ…ใครเป็นคนเสนอชื่อ? และใช้อะไรเป็นเกณฑ์วัดผล?
แม้ระบบของ YGL จะอ้างอิงความโปร่งใสและความเป็นสากล
แต่ช่องโหว่หนึ่งคือ การเสนอชื่อจากภายนอกที่อาจเปิดทางให้เกิด “เกมเชิงภาพลักษณ์” ได้อย่างแยบยล
ในโลกยุคใหม่ที่ PR สำคัญพอ ๆ กับนโยบาย —
เราจะไม่แปลกใจเลย หากการได้รับเลือกในเวทีระดับโลกบางเวที จะมาจาก “แผนยุทธศาสตร์ด้านภาพลักษณ์” ที่วางไว้ล่วงหน้า ทั้งโดยรัฐบาล ทีมที่ปรึกษา หรือล็อบบียิสต์ที่คอยเดินกลเกมต่างประเทศให้
การได้รับเลือกจาก YGL จึงอาจเป็นผลจาก ระบบล็อบบี้เชิงบวก ที่ไม่ผิด —
แต่นั่นหมายถึงว่า…อันดับที่ได้มาไม่อาจวัด “คุณภาพของภาวะผู้นำจริง”
⸻
ดูมีระดับในเวทีโลก แต่ยังเป็นนายกอุปโลกในประเทศตัวเอง
แม้เธอจะดูมีระดับในเวทีนานาชาติ
แต่ในประเทศไทย แพทองธารกลับยังเผชิญกับคำถามสำคัญ
เธอคือผู้นำจริง ๆ หรือยังเป็นเพียง “นายกฯ อุปโลก”
ที่ไม่ได้กำหนดเกมการเมืองเอง แต่อยู่ใต้เงาและไมค์ของพ่อ?
———-
“นายกฯ อุปโลก” ไม่ใช่คำด่า แต่คือคำถามถึงความชอบธรรม
คำว่า “อุปโลก” ไม่ใช่คำด่าทอ แต่เป็นคำสะท้อนทางการเมืองที่หมายถึง
“มีตำแหน่งจริงแต่ไร้ตัวตนในตำแหน่งนั้น”
เมื่อประชาชนรู้สึกว่า ผู้นำที่พวกเขาเห็น
ไม่ได้แสดงภาวะผู้นำอย่างแข็งแรง ไม่ยืนหยัดในยามวิกฤติ
ไม่ได้พูดแทนคนทั้งประเทศ แต่กลับปล่อยให้อดีตผู้นำ — โดยเฉพาะ “พ่อของนายกรัฐมนตรี” —
แถลงแทนทุกครั้ง…ล้ำเส้นทุกทีในการกำหนดนโยบาย
มันสะท้อนว่า…นายกรัฐมนตรีคนนี้อาจมีตำแหน่ง แต่ยังไม่มีตัวตนที่แท้จริงทางการเมือง
และนั่นคือภาพสะท้อนของคำว่า “นายกฯ อุปโลก” อย่างสมบูรณ์
⸻
เมื่อดูเหมือนมีเกียรติ แต่ทำไมยัง “ไร้ศรัทธา”
เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่า การที่นายกรัฐมนตรีไทยได้รับการยกย่องในเวทีโลกเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจ
แต่นั่นคือจุดเริ่มต้น ไม่ใช่เส้นชัย
เพราะศรัทธาของประชาชนในประเทศ ไม่ได้มอบให้จากภาพลักษณ์ที่สร้างขึ้น แต่ต้องสร้างจากการกระทำ
• การกล้าเผชิญกับปัญหายาก
• การกล้าออกมาเป็นปากเสียงของประชาชนในยามวิกฤติ
• และการแสดงบทบาทที่ชัดเจน ว่ารัฐบาลนี้มี “ผู้นำ” จริง ๆ ไม่ใช่แค่ผู้ถูกวางตัว
⸻
บทสรุปที่คนไทยเฝ้ารอดู:
เวทีโลกอาจยกย่องให้เธอเป็นผู้นำ
แต่คนไทยยังรอให้เธอ “ยืนในตำแหน่งนั้นจริง ๆ”
โดยปราศจาก “เงาของพ่อ”
ไม่ใช่แค่นายกฯ ที่ได้เกียรติจากเวทีโลก…แต่ยังเป็น “นายกฯ อุปโลก” ในประเทศตัวเอง!
⸻