คือบทสรุปที่ได้จากการสัมภาษณ์ ผศ.สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ในรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย สมจิตต์ นวเครือสุนทร
เขาไม่ได้พูดด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยว แต่ทุกประโยคฟังเหมือนการตอกหมุดเปิดจุดโฟกัสไปที่ระบบที่อาจสมรู้ร่วมคิดกันสร้างตึกไม่ได้มาตรฐาน…ที่คน 44 ชีวิตต้องจบชีวิตใต้ซาก
โฟกัสตอนนี้อยู่ที่ปล่องลิฟต์ มันไม่ใช่เรื่องอุบัติเหตุธรรมดา แต่อาจเป็นอาชญากรรมที่ซุกซ่อนอยู่ในกระบวนการใช้งบประมาณของรัฐ
⸻
จากแบบ 30 เซนฯ เหลือ 25 เซนฯ แล้วชีวิตคนหายไปไหน?
เขาย้ำว่า จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมอาจอยู่ที่การออกแบบแรก หรือการแก้ไขแบบ “ลดความหนาผนังปล่องลิฟต์ จาก 30 เซนฯ เหลือ 25 เซนฯ ฟังดูแค่ 5 เซนฯ ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของอาคาร ไปจนถึงการเทปูนที่อาจไม่ได้มาตรฐาน ต้องหาสาเหตุให้เจอ เพื่อล่าหาผู้รับผิดชอบ“
⸻
สองชื่อในเอกสาร…แต่ไม่มีใครรับว่าคือคนออกแบบจริง
“พอเอกสารระบุชื่อวิศวกร 2 คน ควบคุมงานกับออกแบบ
แต่ทั้งคู่ปฏิเสธว่าไม่เคยรับงานนี้เลย
แปลว่าอะไร? แปลว่าเรามี ‘ตัวปลอม’ อยู่ในระบบ และต้องหาตัวจริงให้เจอ”
ไม่ว่าจะเป็นรับจ้างเซ็น หรือแอบอ้างชื่อ
สุรเชษฐ์บอกว่า ต้องมีโทษทางกฎหมาย
ไม่ใช่แค่ทางจรรยาบรรณ
⸻
“รับจ้างเซ็น = ต้นตอของการฆ่าคนโดยไม่เจตนา”
เขาพูดอย่างไม่อ้อมค้อม
ว่าสังคมวิศวกรรมไทยวันนี้มีปัญหาโครงสร้างเช่นเดียวกับตึกที่ถล่ม
“วงการรู้กันดี
รับจ้างเซ็น หั่นกันที่ราคา
ใช้วิศวกรเกรดต่ำประสบการณ์น้อย เอาชื่อคนมีใบอนุญาตมาสวม
แล้วพอตึกพัง…ยังหาผู้รับผิดชอบไม่ได้”
เขาตั้งคำถามถึงสภาวิศวกรรมว่า
“จะทำตัวเป็นแค่สภาฟอกขาว? หรือจะเริ่มจากการปฏิรูปตัวเองก่อน?”
⸻
7 วันสอบสวนคือ ‘ละคร’ 90 วันคือความจริงที่ต้องมีคำตอบ
ในช่วงแรก รัฐบาลตั้งคณะกรรมการสอบสวน ขอเวลาเพียง 7 วัน
สุรเชษฐ์บอกชัดว่า
“มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เป็นแค่ละครการเมืองเพื่อลดแรงเสียดทานสุดท้ายต้องขยายเป็น 90 วัน ซึ่งต้องวางกรอบให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นประชาชนจะขาดความเชื่อถือ อย่างน้อยต้องได้สาเหตุ ใครทำผิด ใครชดใช้ค่าเสียหาย หากได้แค่สาเหตุก็ต้องชี้ให้ชัดใครทำผิด และใครควรชดใช้ค่าเสียหาย ไม่ใช่แค่ “รู้สาเหตุ” แล้วจบแบบเบลอ ๆ“
⸻
85 ปี เซ็นแบบ สตง.? แล้วใบอนุญาตตลอดชีพคืออะไร?
กรณีวิศวกรที่มีชื่อในเอกสารว่าเป็นผู้ออกแบบ มีอายุ 85 ปี บอกไม่ได้ออกแบบมานานแล้ว
สุรเชษฐ์บอกว่า
“นี่คือตัวอย่างชัด ๆ ว่าใบอนุญาตตลอดชีพ
ไม่ควรแปลว่าเซ็นงานตลอดชีวิต
เป็นเรื่องของสำนึกส่วนบุคคลด้วย”
เขาเสนอว่า สภาวิชาชีพควรมีการทบทวนระบบออกใบอนุญาต
ไม่ใช่ปล่อยให้ชื่อในวงการกลายเป็น ‘เครื่องมือให้คนไม่ดีทำมาหากิน’
⸻
ยิ่งผู้บริหาร สตง. ”เงียบ“ คำถามจากสังคม ”ยิ่งดัง“
“วันนี้เรายังไม่เห็นผู้บริหาร สตง. ออกมาพูดอะไรเลย
ทั้งที่ควรเป็นคนแรกที่อธิบายให้ประชาชนฟัง
ยิ่งเงียบ…คำถามยิ่งดัง”
สุรเชษฐ์ปิดท้ายด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ
“เราจะตามหาคนที่ต้องรับผิดชอบงบพันล้านนี้ให้ได้
โอกาสจะฟอกขาวหรือใช้ความสนิทสนมกับผู้มีอำนาจทำให้พ้นผิดจะหายไป เพราะถูกจับตาอยู่”