ไทยเคยได้รับคำชมว่าเป็นต้นแบบการควบคุมเอดส์ของโลก
วันนี้…มีคนเกือบ 9,000 คนเป็นผู้ติดเชื้อใหม่
แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่า “ผลตรวจ” คือคำถามว่า
“เขาจะมีสิทธิ์เข้าถึงยาที่จะช่วยให้เขามีชีวิตต่อได้ไหม?”
เพราะในโลกที่กำลังเต็มไปด้วยสงครามภาษี–สิทธิบัตรยา–การตัดงบช่วยเหลือ
ยาเม็ดเล็ก ๆ ที่ควบคุมไวรัสได้…อาจกลายเป็นของหายากสำหรับคนธรรมดา
⸻
เยาวชนติดเอดส์วันละเกือบ 10 คน!
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าในปีเดียว ประเทศไทยยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 8,862 คน
60% ของผู้ติดเชื้อใหม่เป็นชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย
และเกือบครึ่งเป็นเยาวชนอายุ 15-24 ปี
เท่ากับในหนึ่งวันมีเยาวชน 12 คน ติดเชื้อนี้
วัยที่ควรจะเริ่มต้นชีวิต
แต่กลับต้องเริ่มต้นด้วยการพึ่งยา…และหวังว่าจะมี “โอกาส” เท่าคนอื่น
ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทะลุไปถึง 568,565 คน
น่ากลัวกว่าสถานะติดเชื้อ คือสถานะที่ “เข้าไม่ถึงยา” จากระบบที่เริ่มสั่นคลอน
เพราะนั่นอาจหมายถึงการแพร่เชื้อโดยไม่ตั้งใจ — และการกลายเป็นสถิติในปีหน้า
⸻
ยาต้านไม่ใช่ของฟุ่มเฟือย — แต่มันกำลังกลายเป็นของมีราคา
วันนี้โลกเผชิญแรงกระแทกจากนโยบาย “America First” ของโดนัลด์ ทรัมป์
สงครามภาษีระหว่างจีน–สหรัฐฯ กำลังกระทบ “ห่วงโซ่การผลิตยา” ทั่วโลก
ไทยพึ่งพาวัตถุดิบจากจีนและอินเดียสำหรับการผลิตยาต้าน HIV
ยาต้าน HIV คือยาที่ช่วยให้คนอยู่กับเชื้อได้โดยไม่แพร่ให้ใคร
คือยาที่เปลี่ยนคำว่า “โรคร้าย” ให้กลายเป็น “โรคเรื้อรังที่อยู่ร่วมกันได้”
แต่ถ้ายาเหล่านี้ แพงเกิน – หาไม่ได้ – หรือถูกจำกัด
คำถามคือ…เราจะเห็นอะไรเกิดขึ้นก่อน
การล้มของระบบ หรือชีวิตของใครบางคน?
ถ้าราคานำเข้าเพิ่มขึ้น
ถ้าสหรัฐฯ กีดกันการใช้ยาชื่อสามัญ
ถ้ากองทุนระหว่างประเทศที่เคยสนับสนุนไทยถูกตัดงบ
เราจะยังรักษาคนทั้ง 5 แสนกว่าคนในระบบได้อยู่ไหม?
⸻
HIV ไม่ใช่โรคในอดีต — แต่มันคืออนาคตที่เราอาจควบคุมไม่ได้
ไทยเคยได้รับคำชมว่าเป็น “ประเทศต้นแบบ” ในการควบคุมเอดส์
เราลดการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกจนเกือบเป็นศูนย์
เรามีระบบแจกยาฟรี มี PrEP ป้องกัน มีคลินิกให้คำปรึกษา
แต่วันนี้ — ทุกอย่างกำลังสั่นคลอน
จากแรงกดดันระดับโลกที่อาจทำให้เราซื้อยาไม่ได้
และจากความเฉยชาทางสังคมที่มองว่า “HIV หมดยุคแล้ว”
ถ้าเราปล่อยให้สงครามภาษีทำให้ยาราคาแพง
ปล่อยให้ระบบสาธารณสุขไม่ทันรับมือ
ปล่อยให้เด็กและเยาวชนถูกลืม
เราก็อาจไม่ได้สูญเสียแค่ “ชีวิต”
แต่สูญเสียความหมายของคำว่า “สังคมที่ดูแลกันได้” ไปด้วย
————
ถ้ายาต้านเริ่มไกลตัว…เอดส์จะเริ่มกลับมาใกล้เราอีกครั้ง
เพราะไวรัสไม่เคยหยุดเดิน
แต่เรากำลังหยุดคิดว่ามัน “อันตราย” เหมือนเดิม
HIV ในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
แต่คือ บททดสอบความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุข และ ความเป็นธรรมของสังคม
ยาต้านเม็ดเดียว…อาจต่อชีวิตอีกเป็นสิบปี
แต่ถ้าเม็ดนั้น…แพงเกินไปสำหรับคนธรรมดา
เราก็อาจกำลังสร้างระบบสาธารณสุข ที่รักษาได้เฉพาะคนที่รอดอยู่แล้ว