“พิรงรอง” อาจเจอศึกสองเด้ง ถ้า กสทช. ถอยตามแรงทุน
คำพิพากษายังไม่ถึงที่สุด แต่ กสทช. อาจถึงจุดตัดสินใจที่พลิกคดี
ย้อนคดีต้นทาง — จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดจากการที่ สำนักงาน กสทช. มีหนังสือเตือนไปยังผู้รับใบอนุญาตช่องทีวีดิจิทัล ว่าการนำคอนเทนต์ไปเผยแพร่ผ่านแอปพลิเคชัน True ID ของกลุ่มทรู ไม่ปฏิบัติตามกฎมัสต์แครี
ต่อมา บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ได้ ยื่นฟ้องพิรงรอง รามสูต กสทช. ในฐานะประธานอนุกรรมการอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ ต่อศาลปกครองกลาง โดยกล่าวหาว่า การออกหนังสือชี้แจงดังกล่าวทำให้บริษัทเสียหาย สะเทือนความน่าเชื่อถือ และไม่เป็นธรรมในเชิงพาณิชย์ จงใจกลั่นแกล้ง กระทั่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาจำคุก “พิรงรอง” 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568
ท่ามกลางข้อกังขาของสังคมและนักกฎหมายจำนวนไม่น้อย โดยคดีดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์
⸻
ทรูเดินเกมรุก หลังคำพิพากษาเบื้องต้น
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2568 ทรูได้ส่งหนังสือถึง เลขาธิการ กสทช. พร้อมสำเนาถึงกรรมการทุกคน โดยแนบคำพิพากษาศาลปกครองกลางที่ตัดสินให้ ยกเลิกหนังสือชี้แจงสำนักงาน กสทช. (คดี อท.147/2566) และขอให้ “เพิกถอน” หรือ “ชี้แจงใหม่” ภายใน 15 วัน
แม้คดีจะยังไม่ถึงที่สุด (อยู่ระหว่างการอุทธรณ์) แต่การส่งหนังสือดักหน้าก่อนสำนักงาน กสทช. จะประชุมวันที่ 24 เม.ย.ทำให้คาดการณ์ได้ว่า ประธาน กสทช. น่าจะนำเข้าบรรจุวาระเพื่อพิจารณาในการประชุมวันดังกล่าว
⸻
เกมบีบให้ “กสทช. ถอย – ทุนได้ประโยชน์?”
หากที่ประชุมมีมติเพิกถอนหนังสือหรือชี้แจงใหม่ ก็เท่ากับ ยอมรับว่าการส่งหนังสือไปถึงผู้รับใบอนุญาตช่องทีวีดิจิทัลก่อนหน้านี้ไม่ถูกต้อง และส่งผลตรงต่อคดีที่ทรูเป็นผู้ฟ้องอยู่ —> กลายเป็นการ “เปลี่ยนท่าทีของหน่วยงานรัฐ” กลางกระบวนการยุติธรรม
สิ่งที่ต้องจับตาคือการลงคะแนนของ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ อาจลงคะแนนแบบดับเบิลโหวต กรณีเสียงเท่ากัน เพราะงานนี้ “พิรงรอง” ไม่สามารถอยู่ร่วมพิจารณาได้ เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี
ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นโอกาสที่ทรูจะได้ตามประสงค์ก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม
ไม่เพียงเท่านั้น…หลังคดีพิรงรอง ยังทำให้กสทช.บางคนขยาด
ถึงขนาดออกปาก “ไม่อยากมีคดีเพิ่ม”
เมื่ออาณาจักรความกลัวครอบงำ ความกล้าหาญในการทำหน้าที่ก็จางหาย!
⸻
ศึกสองเด้ง ที่ “ทรู” ลูบปากรอ
อาจมองได้ว่าเกมนี้ “ทรู” มีแต่ได้กับได้
- เด้งแรก: ได้ประโยชน์ในทางธุรกิจ มีความชอบธรรมว่าทำทุกอย่างมาถูกต้องแล้วใช่หรือไม่?
- เด้งสอง: หากกสทช. ยอมเพิกถอนหนังสือย้อนหลัง = เพิ่มน้ำหนักในคดีให้ฝั่งทรูได้เปรียบเพิ่มขึ้น ใช่หรือเปล่า?
⸻
คดีนี้กลายเป็นสนามประลองระหว่าง “หลักการ” กับ “แรงทุน”
ระหว่างความเป็นอิสระของ กสทช. กับอิทธิพลของเอกชนรายใหญ่
หาก กสทช. ยอมเปลี่ยนคำชี้แจงทั้งที่คดียังไม่ถึงที่สุด
ก็อาจมองได้ว่า…อิสระของ กสทช. จะเป็นแค่ภาพลวงตา
เมื่อทุนใหญ่เข้ามาเขย่าเกม?