“ฉันได้อำนาจมาแล้ว จะทำอะไรก็ได้” —บทเรียนว่าด้วยตัวตนแพทองธาร กับภาวะผู้นำที่ประชาชนไม่อิน
โดย The Publisher
“มันไม่ใช่แค่คำพูด แต่มันสะท้อนตัวตนที่ไม่สนใจจนถึงขั้นเย้ยหยันความรู้สึกประชาชน”
รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์รัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบูรพา เปิดบทสัมภาษณ์กับ เที่ยงเปรี้ยงปร้าง อย่างไม่อ้อมค้อม เขาวิเคราะห์คำพูดล่าสุดของนายกรัฐมนตรีหญิง แพทองธาร ชินวัตร ที่ออกตัวแรงในประเด็น “จับมือกับคนทำรัฐประหารเพราะเสียงไม่ถึง” ซึ่งทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนในหมู่ผู้สนับสนุน
“การพูดแบบนั้นเป็นการเย้ยหยันประชาชนโดยตรง เหมือนบอกว่า เมื่อฉันได้อำนาจมาแล้ว จะทำอะไรก็ได้”
โอฬารชี้ว่า การสื่อสารแบบนี้ผิดพลาดอย่างร้ายแรง เพราะนายกฯ ไม่ได้พูดกับคู่แข่งทางการเมือง แต่พูดกับประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยมาด้วยความหวังว่าจะ “รักษาสัจจะวาจา” ของตัวเอง
“ตัวตนแบบนี้ ไม่ควรปรากฏในผู้นำ”
เขาอธิบายว่า การเติบโตในครอบครัวที่พร้อมทุกอย่าง ทั้งอำนาจ ทุน และความรัก อาจทำให้แพทองธารคุ้นชินกับการเป็นศูนย์กลางของทุกเรื่อง “ทุกคำพูดเหมือนถูกต้องอยู่เสมอ ทุกคนต้องคล้อยตาม” ท่าทีแบบนี้ในทางการเมืองส่งผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของประชาชน
“มันกระทบต่อความรู้สึกของคนที่รักเพื่อไทย และเชื่อในแพทองธาร ถ้ายังไม่ปรับ เกมการเมืองจะยิ่งถอยหลัง และแพทองธารจะไปไม่ถึงสนามเลือกตั้งครั้งหน้า”
อาจารย์โอฬาร เตือนด้วยว่า ในภาวะที่พรรคเพื่อไทยตกต่ำลงทุกด้าน การพยายามฟื้นฟูด้วยภาพลักษณ์ของ “ทักษิณ” กลับได้ผลในทางตรงข้าม “เดอะแบกของพรรคไม่ได้มีความนิยมเหมือน 17 ปีก่อนแล้ว ยิ่งแบกกลับยิ่งทำให้พรรคประชาชนได้รับความนิยมมากขึ้น”
“อยู่กันแบบหวานอมขมกลืน”
ในพาร์ตของการประเมินแนวโน้มการเมือง รศ.ดร.โอฬาร เห็นว่า รัฐบาลผสมจะไม่แตกหักง่าย ๆ เพราะพรรคเพื่อไทยไม่กล้าเขี่ยพรรคภูมิใจไทยออก และสีน้ำเงินก็ยังมีแต้มต่อในเครือข่ายอำนาจเก่าอยู่
“จะปรับ ครม. ก็แค่ในส่วนของพรรคเพื่อไทยและพรรคเล็ก ไม่แตะภูมิใจไทย เว้นแต่มีของไปแลกจึงอาจเกิดการสลับตำแหน่งได้”
เขาชี้ให้เห็นว่าในเชิงกลยุทธ์ พรรคเพื่อไทยกำลังติดกับดักเครือข่ายอำนาจเก่า และยิ่งนานวัน อำนาจการต่อรองก็จะยิ่งลดลง
“กระบวนการนิติสงครามจะกลับมาอีกครั้ง”
ในช่วงท้ายของบทสัมภาษณ์ อาจารย์โอฬารโยงไปถึงอนาคตของทักษิณ ชินวัตร พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเครือข่ายอำนาจเก่าเริ่มไม่ไว้ใจแล้ว
“ดูจากกรณีศาลไม่อนุญาตให้ทักษิณเดินทางไปต่างประเทศ ทั้งที่ก่อนหน้านี้อนุญาต แถมยิ่งลักษณ์กลับไม่ได้ในช่วงสงกรานต์ ทั้งที่ทักษิณเคยพูดไว้ แปลว่ามีบางอย่างไม่เหมือนเดิม”
เขาย้ำว่า หากวันใดอำนาจเก่าตัดสินใจเลิกใช้ทักษิณ กระบวนการนิติสงครามจะกลับมา — และจะกลายเป็นจุดจบของทั้งทักษิณและเพื่อไทย
“เกมสุดท้ายของทักษิณ อาจคือการหักหลังเครือข่ายเดิม”
อาจารย์โอฬารทิ้งท้ายว่า หนทางรอดเดียวของทักษิณและพรรคเพื่อไทย คือในการเลือกตั้งครั้งหน้าต้องตัดสินใจเด็ดขาดชิงหักหลังอำนาจเก่า หันไปจับมือกับพรรคประชาชน เพื่อสร้างอำนาจใหม่ ความชอบธรรมใหม่ แม้ต้องแลกกับความเสี่ยงสูงสุด
“ถ้าทำได้สำเร็จ เขาอาจออกกฎหมายนิรโทษกรรม 112 หรือพายิ่งลักษณ์กลับไทยได้จริง…แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันจะปะทะอำนาจเก่าอย่างเต็มแรง”