กรณีพิพาทที่ดินสนามกอล์ฟ ‘อัลไพน์’ ซึ่งเดิมเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหาร กลับมาเป็นประเด็นร้อนแรงอีกครั้ง หลังจากนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช.มหาดไทย ลงนามคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ก่อนพ้นจากตำแหน่งเพียง 3 วัน
เส้นทางความขัดแย้ง
เรื่องนี้เริ่มต้นจากนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ยกที่ดินให้วัดธรรมิการามวรวิหาร แต่กลับมีการโอนกรรมสิทธิ์ไปยังมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัยฯ และขายต่อให้บริษัทอัลไพน์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับครอบครัวชินวัตร
ต่อมา ศาลและคณะกรรมการกฤษฎีกา วินิจฉัยว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ธรณีสงฆ์ จึงมีความพยายามจากหลายฝ่ายในการเพิกถอนคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่เคยอนุญาตให้โอนที่ดินได้
ความพยายามในการเพิกถอน
- การหารือกฤษฎีกา: กระทรวงมหาดไทยหารือแนวทางการเพิกถอนคำสั่งกับคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งมีความเห็นว่า ต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอร่างกฎหมายโอนที่ธรณีสงฆ์
- ตั้งคณะกรรมการฯ: มีการแต่งตั้งคณะกรรมการยกร่างกฎหมายโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ แต่ต่อมาได้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว
- ป.ป.ช. ส่งคำพิพากษา: ป.ป.ช. ส่งคำพิพากษาศาลประกอบการพิจารณาเพิกถอนคำสั่ง
- วัดแจ้งความประสงค์ขายที่ดิน: วัดธรรมิการามวรวิหาร แจ้งความประสงค์ขายที่ดินหลายครั้ง
- หนังสือจากนายชาดา: นายชาดา ไทยเศรษฐ์ มีหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยให้เพิกถอนคำสั่ง
ผลกระทบและความพร้อม
หากมีการเพิกถอนคำสั่ง จะส่งผลกระทบต่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดิน รวมถึงบ้านเรือนและธุรกิจต่างๆ กรมที่ดินเตรียมพร้อมเพิกถอนนิติกรรมที่ดินอัลไพน์ หากมีคำสั่งจากกระทรวงมหาดไทย และอาจมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากกรมที่ดิน อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการเพิกถอนกรรมสิทธิที่ดินอัลไพน์หรือไม่ โดยผู้มีอำนาจตัดสินใจตามกฎหมายคือ นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายน 2568 โดยเจ้าตัวสะท้อนชัดอึดอัดที่ต้องมารับเผือกร้อนนี้ โดยมีการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของสำนักกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
“อัลไพน์” ไม่ใช่แค่ “ที่ดิน” แต่มันคือ สมรภูมิแห่งผลประโยชน์ อำนาจ และความยุติธรรม ที่รอวันสะสาง